วันเสาร์ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 10:40 น.

ภูมิภาค

สานุศิษย์ร่วมพิธีกินข้าเหนียวดำ ตามรอยพิธีกรรมสำนักเขาอ้อ

วันเสาร์ ที่ 01 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563, 16.21 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า ที่วัดเขาอ้อ ตำบลมะกอกเหนือ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ได้ร่วมกับสานุศิษย์ และองค์กรต่างๆ เช่น สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพัทลุง สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพัทลุง ได้จัดไหว้ครูบูรพาจารย์ ตามรอยพิธีกรรมสำนักเขาอ้อ ทุกเดือน 3 ของทุกปี รำลึกถึงคุณความดีของอดีตบูรพาจารย์ และทำบุญอุทิศให้กับบูรพาจารย์แห่งสำนักเขาอ้อ ทั้งบูรพาจารย์สายพุทธ และสายพราหมณ์ ที่ได้สืบทอดวิชาโบราณ ช่วยเหลือสังคมและประเทศชาติมาจนถึงปัจจุบัน และเพื่อเผยแพร่เกียรติคุณของวัดเขาอ้อในฐานะสำนักตักสิลาที่เหลือเพียง แห่งเดียวในประเทศไทย ให้เป็นที่รู้จักของสารธารณชนอย่างกว้างขวาง และเพื่อสิ่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดพัทลุง

 

 

สำหรับพิธีในวันนี้นั้นไหว้ครูบูรพาจารย์ ตามรอยพิธีกรรมสำนักเขาอ้อซึ่งมีสานุศิษย์และประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมพิธี หลังจากพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ ตามรอยพิธีกรรมสำนักเขาอ้อ ได้มีสานุศิษย์รำถวายแก้บน ตามที่นับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างต่อหน้าพิธี ซึ่งผู้เข้าพิธีให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากแต่ละคนขณะรำถวายนั้นเกิดอาการลักษณะการแสดงออกท่าทางต่างๆ
 
            
จากนั้นคือพิธีกรรมแช่น้ำว่าน 108 ชนิด  พิธีแช่น้ำว่านพิธีกรรม ไสยศาสตร์การแพทย์  และความเชื่อสำหรับชายชาตรีกับความอยู่ยงคงกะพัน และในวันนี้พิธี กินข้าวเหนียวดำ ที่ได้รับการปลุกเสกพิธีกรรมไสยศาสตร์แบบโบราณ  สานุศิษวัดเขาอ้อกว่า1,000 คน ได้ร่วมพิธีกินข้าวเหนียวดำตามความเชื่อ พิธีหุงข้าวเหนียวดำ หมายถึง การนำ เครื่องยาสมุนไพร หรือว่านชนิดต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 108 ชนิดมาผสมกัน แล้วต้มเอาน้ำยามาใช้หุงข้าวเหนียวดำ

 


 

การประกอบพิธีนิยมทำกันภายในอุโบสถมากกว่าสถานที่อื่นๆ ในสมัยก่อนนิยมทำกันใน ถ้ำฉัตรทันต์หม้อและไม้ฟืนทุกอัน จะต้องลงอักขระเลขยันต์กำกับด้วยเสมอ พระอาจารย์ผู้ประกอบพิธีจะเริ่มปลุกเสก ตั้งแต่จุดไฟ จนกระทั่งข้าวเหนียวในหม้อสุกแล้วนำข้าวเหนียวที่สุกแล้วไปประกอบพิธีปลุกเสกอีกครั้งหนึ่งจนเสร็จพิธี
 

สำหรับพิธีกินข้าวเหนียวดำนั้น จะทำพิธีกันภายในอุโบสถ  ก่อนกินถ้าสานุศิษย์คนใดไม่บริสุทธิ์ต้องทำพิธีสะเดาะ หรือเรียกว่า พิธีการเกิดใหม่ หรือ พิธีบริสุทธิ์ตัว เพื่อให้ตัวเองบริสุทธิ์จากสิ่งไม่ดีชั่วร้ายทั้งปวง

 


 

เมื่อถึงเวลาฤกษ์กินข้าวเหนียวดำสานุศิษย์จะเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นนุ่งด้วยผ้าขาวม้าโจงกระเบนไม่ใส่เสื้อ แล้วเข้าไปกราบพระอาจารย์ผู้ประกอบพิธี 3 ครั้ง เสร็จแล้วพระอาจารย์จะให้นั่งชันเข่าบนหนังเสือ เท้าทั้ง 2 เหยียบบนเหล็กกล้าหรือเหล็กเพชร ปิดศีรษะด้วยหนังหมี มือทั้ง 2 วางบนหลังเท้าของตัวเอง พระอาจารย์ใช้มือซ้ายกดมือทั้ง 2 ไว้ พร้อมกับภาวนาพระคาถา ส่วนมือขวาปั้นข้าวเหนียวดำเป็นก้อนป้อนให้ศิษย์ครั้งละ 1 ก้อน แล้วปล่อยมือศิษย์ที่กดไว้บนหลังเท้า มือทั้ง 2 ของศิษย์ จะลูบขึ้นไปตั้งแต่หลังเท้าจนทั่วตัว จดใบหน้า การลูบขึ้นนี้เรียกว่า การปลุก  เสร็จแล้วลูบลง เอามือทั้ง 2 ไปวางไว้บนหลังเท้าทั้ง 2 เช่นเดิม

 


 

สำหรับผู้ที่ไม่เคยกินอาจกลืนลำบาก เนื่องจากว่าข้าวเหนียวมีรสขมมาก บางคนป้อนก้อนแรกถึงกับอาเจียนออกมาก็มี แต่ถ้ากลืนก้อนแรกจนหมดได้ ก้อนต่อไปจะไม่มีปัญหา ซึ่งพระอาจารย์จะป้อนจนครบ 3 ก้อนด้วยกัน ในแต่ละครั้งจะลูบขึ้นลูบลง เช่นเดียวกับครั้งแรก แต่ครั้งที่ 3 นั้นเมื่อศิษย์กินข้าวเหนียวหมดแล้ว...พระอาจารย์จะใช้มือซ้ายกดมือทั้ง 2 ไว้ที่เดิม หัวแม่มือขวาสะกดสะดือศิษย์ ทำทักษิณาวัตร 3 รอบ พร้อมกับภาวนาพระคาถาไปด้วย เป็นการผูกอาคม
 

สำหรับคุณค่าของการกินข้าวเหนียวดำ มีความเชื่อกันว่าใครกินได้ถึง 3 ครั้ง จะทำให้อยู่ยงคงกระพันชาตรี เป็นมหานิยมที่สำคัญว่ากันว่า ยังเป็นยาแก้โรคปวดหลังปวดเอวได้เป็นอย่างดี

หน้าแรก » ภูมิภาค