วันที่ 12 มี.ค. 63  มีผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ หงษ์ทอง ทิมแก้ว โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คส่วนตัว มีข้อความว่า"บ้านหนองกระเบา คอนแวนต์ เอาแล้วมั้ยล่ะ ดวงไฟอะไรสีเขียวลอยไปลอยมา ดาวอะไรจะลอยต่ำขนาดนั้น  ขนลุกไปหมดแล้ว พอเอาโทรศัพท์มาถ่าย

 

ผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยังเจ้า ของเฟซบุ๊คเพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 65 ม.3 ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้พบกับ นส.หงษ์ทอง ทิมแก้ว อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 ม. 3 ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี คุณหงษ์ทอง กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 11 มีค.63 ที่ผ่านมา เวลา 22.00 น. ขณะที่เธอรู้สึกร้อนอบอ้าว จึงอยากเปิดหน้าต่างบ้านแม่ที่เป็นบ้านไม้สองชั้นทางด้านทิศใต้ เมื่อเดินมาถึงจึงใช้มือเปิดหน้าต่างบานนั้นออกเพื่อให้ระบายลมด้านนอกเข้าสู่ภายในห้อง

 

ทันใดนั้นต้องเบิกตากว้างขนหัวขนแขนลุกเกียวไปทั้งตัว  เบื้องหน้าบนยอดมะขามห่างจากบ้านแม่ราว 50 เมตร ดวงไฟดวงนั้นค่อยไปเลื่อนลอยคล้อยไปอย่างช้าไป ตอนนั้นกลัวก็กลัวแต่อีกใจหนึ่งอยากรู้ก็อยากรู้ มองกลับมาในบ้าน แม่กับน้องและลูกๆพากันหลับแล้ว จึงรีบหยิบโทรศัพท์เดินลงมาจากบ้านและทันได้เห็นแสงไฟดวงนั้น และค่อยๆลอยลงด้านหลังกอไผ่ห่างจากบ้านแม่ 50 เมตร  มองซ้ายมองขวาแล้วรีบขึ้นบ้านทันที เมื่อมาเปิดดูเห็นเป็นดวงไฟแดงไม่ ไม่แน่ใจว่าเป็นดวงไฟอะไร ในใจอดคิดว่าเป็นแสงไฟของผีกระสือหรือผีปอบไม่ได้

 

ที่ผ่านมาตอนสมัยเธอเด็กๆอายุราวๆ 15-16 ปี ที่บ้านเคยซักผ้าตากไว้ที่ราวรั้วข้างบ้านเคยพบเห็นคล้ายคราบเลือดเป็นรูปริมฝีปากคนเช็ดเสื้อผ้า 1-2 ครั้ง และแถวหมู่บ้านเคยมีปอบอยู่แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจว่าจะยังมีอยู่หรือไม่ แสงไฟนี้เคยเห็นมา 1-2 ครั้ง ไม่ใช่เธอเห็นคนเดียวมีคนเห็นหลายคนเหมือนกัน 

 

หลังจากนั่งดูรูปในโทรศัพท์แล้วก็นอนไม่หลับเลยและได้โพสต์ลงเฟซบุ็คให้เพื่อนๆได้ช่วยกันดูว่าดวงไฟที่เห็นนั่นมันคือดวงไฟอะไรกันแน่ หลังจากสอบถามว่าตรงต้นมะขามมีอะไรหรือไม่คุณหงษ์ทอง กล่าวว่า ที่ต้นมะขามในหมู่บ้านมีศาลพระภูมิเจ้าที่ใต้ต้นมะขามใหญ่อายุนับร้อยปี ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปดูพบว่าที่ใต้ต้นมะขามใหญ่อายุนับร้อยปีมีศาลพระภูมิเจ้าที่จริง เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในหมู่บ้านนี้ และดวงไฟที่เห็นลอยเลื่อนไปและหายลับก่อไผ่หลังหมู่บ้านนี้