อัยการถอนฟ้องน.ส.นันทวรรณ คุ้มศิริ สาวลูก 4 ที่ถูกบริษัท บีอีเอ็มซี ปลอมแปลงเอกสารให้เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ก่อนถูกกรมสรรพากรเรียกเก็บภาษี 3.2 ล้านบาท

        
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 21 ก.ค.ที่สำนักงานเกรียงศักดิ์และเพื่อนทนายความการบัญชี จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 1287 ตลาดธรรมสาโรจน์ ถนนสุขุมวิท ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง สมุทรปราการ ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ พร้อมด้วย น.ส.นันทวรรณ คุ้มศิริ สาวลูก 4 คน เป็น พนักขายของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่าน ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าเมื่อปี พ.ศ.2559 ถูกกรมสรรพากร เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สุเทพ เพ็งสุข รอง สว (สอบสวน) กก.2บก.ปอศ.(กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ) ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.นันทวรรณ ในคดีอาญา ข้อหาแจ้งข้อความเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรฯเป็นเงินจำนวน 3.2 ล้านบาท ในฐานะที่ น.ส.นันทวรรณ เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีอีเอ็นซี จำกัด

ในครั้งนั้น น.ส.นันทวรรณ คุ้มศิริ ก็เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนมาโดยตลอดและปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวเนื่องจากตนเองไม่เคยได้ยอนหรือรู้จัก บริษัท บีอีเอ็นซี มาก่อนเลย กระทั่งเมื่อมาถึงวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 พนักงานสอบสวนก็ได้เรียกตนไปสอบอีก ตนก็ยังปฎิเสธเหมือนเดิมว่าไม่รู้จักบริษัทดังกล่าวมาก่อนเลยโดยอ้างว่า ตนยังเป็นคนจนอยู่เลย มีลูก 4 คน มีแม่ชราที่ต้องเลี้ยงดู ทำงานก็ได้เงินวันละ 300 บาท ยังเช่าบ้านอยู่ จะไปเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ได้อย่างไร

ต่อมากับ ร.ต.อ.สุเทพ เพ็งสุข รอง สว (สอบสวน) กก.2บก.ปอศ.ได้ทำสวนส่งฟ้องน.ส.นันทวรรณ ในข้อหา “แจ้งข้อความเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร” อย่างไรก็ตามได้มี ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี เจ้าของสำนักงานเกรียงศักดิ์และเพื่อนทนายความการบัญชี และทนายความ ซึ่งเป็นทนายขวัญใจสื่อมวลชนปากน้ำ ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา

กระทั่งช่วงเช้าวันนี้ เวลา 09.30 น.สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายอาญามีนบุรี ได้ถอนฟ้อง น.ส.นันทวรรณ เนื่องจากสืบทราบความเป็นจริงว่า นางสาวนันทวรรณ คุ้มศิริ จำเลย ไม่ได้เป็นกรรมการบริษัทดังกล่าวและไม่รู้จักบริษัทดังกล่าวและไม่เคยเป็นกรรมการบริษัทนี้และไม่มีส่วนรู้เห็นและไม่เคยทำธุรกิจในคดีนี้แต่อย่างใด

ดังนั้นผม ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี และน.ส.นันทวรรณ คุ้มศิริ จำเลย ขอขอบคุณท่านอธิบดีอัยการศาลอาญามีนบุรีและท่านอัยการเจ้าของสำนวนศาลอาญามีนบุรี และ ต้องขอขอบคุณอธิบดีกรมสรรพากร และ ขอขอบคุณอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญามีนบุรีและเจ้าหน้าที่อัยการศาลอาญามีนบุรีและเจ้าหน้าที่ศาลอาญามีนบุรีทุกท่านที่ให้ความเป็นธรรมกับจำเลยและผมจะได้ไปยื่นคำร้องไม่คัดค้านการถอนฟ้องของท่านอัยการศาลอาญามีนบุรี.