วันเสาร์ ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567 13:06 น.

ภูมิภาค

ป.ป.ช.พิจิตร เดินหน้าแก้ปัญหาการขุดลอก-สร้างศาลากลางน้ำบึงสีไฟ

วันอังคาร ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 20.19 น.
วันที่ 11 ส.ค. 2563 นางอรดี ไกรยุทธศักดิ์ ผอ.สนง.ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยเครือข่าย STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดพิจิตร ได้จัดการประชุมเพื่อถกปัญหาการพัฒนาบึงสีไฟ  โดยมี  นายสมเกียรติ  เขียวย้อย  ผอ.สนง.พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 2  , นายศักดิ์ดา  ฤกษ์ล้วน  วิศวกรปฏิบัติการผู้ควบคุมโครงการกรมเจ้าท่า  , นายประธานวิทย์  ยูวะเวส  รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองพิจิตร , นายอำนาจ  อินทร์วงศ์แก้ว  ผอ.โครงการชลประทานพิจิตร  และผู้ที่เกี่ยวข้องรวมแล้วกว่า 50 คน โดยในช่วงเช้ามีการพูดคุยถึงปัญหาการพัฒนาบึงสีไฟที่กรมเจ้าท่าจัดงบประมาณ 341 ล้านบาท เพื่อการขุดลอกทำให้มีดินจำนวนหลายล้านคิวขุดขึ้นมากองอยู่รอบบึงสีไฟเป็นการทำลายทัศนียภาพด้านการท่องเที่ยว อีกทั้งศาลากลางน้ำโดยเทสบาลเมืองพิจิตร ได้ใช้งบประมาณ 9 ล้านบาทเศษ เพื่อดำเนินการก่อสร้าง แต่ปรากฏว่าผู้รับจ้างมีปัญหาบางประการ จึงทำให้การก่อสร้างล่าช้า ส่งผลให้บึงสีไฟไม่สามารถเป็นห้องรับแขกหรือต้อนรับนักท่องเที่ยวได้ จึงส่งผลให้การท่องเที่ยวของจังหวัดพิจิตรเงียบเหงาซบเซา
 
ซึ่งหลังจากซักถามปัญหาในที่ประชุมแล้ว ช่วงบ่ายก็ได้มีการลงพื้นที ซึ่ง  นายประธานวิทย์  ยูวะเวส  รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองพิจิตร กล่าวว่า การก่อสร้างศาลากลางน้ำบึงสีไฟเสร็จแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ และได้เร่งรัดผู้รับจ้างให้คำมั่นสัญญาว่า จะเร่งทำงานสร้างศาลากลางน้ำบึงสีไฟให้เสร็จภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2563 นี้ ส่วนจะทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่นั้นคงต้องขอหารือกับผู้ว่าฯพิจิตร
 
ในส่วนของ นายศักดิ์ดา  ฤกษ์ล้วน  วิศวกรปฏิบัติการผู้ควบคุมโครงการกรมเจ้าท่า , นายสมเกียรติ  เขียวย้อย  ผอ.สนง.พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 2  ก็เปิดเผยถึงการแก้ปัญหากองดินที่อยู่รอบบึงสีไฟ ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 64 กอง เป็นกองดินขนาดใหญ่ 2 กอง กองแรกขนาด 9 แสนคิว ,  กองที่สองขนาด 1.3 ล้านคิว ส่วนที่เป็นกองดินเล็กๆ อีก 62 กอง ได้มีการประมูลขายไปได้แล้ว 47 กอง   ซึ่งผู้ที่ประมูลขอซื้อดินไปได้แล้วนั้นก็ต้องเร่งขุดขนตามสัญญาที่กำหนด คือ ภายใน 60-90 วัน โดยเริ่มนับหนึ่งตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563  เป็นต้นมา และดินอีกส่วนหนึ่งก็นำไปถมบริเวณหลังศาลากลางจังหวัดพิจิตรเพื่อให้ได้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่ต่อไป
 
ดังนั้นปัญหาของบึงสีไฟขณะนี้เริ่มคลี่คลายลงแล้ว ซึ่งทุกปัญหา ป.ป.ช.พิจิตร พร้อมด้วยเครือข่าย STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดพิจิตร และสื่อมวลชนได้เฝ้าเกาะติดสถานการณ์รับรู้รับทราบปัญหาในทุกมิติ ซึ่งต่อไปในอนาคตหากจะมีการพัฒนาบึงสีไฟไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตามจะต้องมีการทำเวทีประชาคมรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้านและทุกองค์กรต้องทำงานไปในทิศทางเดียวกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่ส่อไปในทางทุจริต หรือ การละเว้นต่างๆอีกด้วย

หน้าแรก » ภูมิภาค