ภูมิภาค
เปิดเส้นทางสายบุญ ฟังเทศนา "พระครูพุฒ" อริยทรัพย์ 7 ประการ ทางสู่สุข
วันอาทิตย์ ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 14.43 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

ได้มีโอกาสเดินทางไปจังหวัดยโสธร เพื่อฟังธรรมเทศนา จากพระภิกษุสงฆ์ นำมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต พบเจอแต่สิ่งดีๆ มีความสุขนั่นเอง
วัดอัมพวันเหนือ ตั้งอยู่บ้านตาดทอง ต.ตาดทอง อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร หนึ่งในอีกหลายวัด จัดให้เป็น เส้นทางสายบุญ ซึ่งต้องเดินทางเข้าไปกราบไหว้ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์และฟังธรรมเทศนา จากเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน คือ พระครู พุฒ กิจโสภณ อายุ 62 ปี บวช 32 พรรษา ปกครองพระสงฆ์ 5 รูป ไม่มีสามเณรและแม่ชี มรรคนายก 1 คน บนเนื้อที่ 5 ไร่ เป็นที่ตั้งของ กุฎิ อุโบสถ ศาลาการเปรียญ ฯลฯ สังกัด มหานิกาย
สำหรับวัดอัมพวัน ถึงแม้จะเป็นวัดขนาดเล็ก ทว่า มีบรรดาพุทธศาสนิกชน ญาติโยมทั้งหลาย ต่าง เดินทางเข้ามาทำบุญ สร้างกุศล ปฏิบัติธรรม อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ การได้ฟังธรรมเทศนา จาก พระครูพุฒ กิจโสภณ จะทำให้จิตใจแจ่มใส สบายใน คลายทุกข์ หายโศก กลับไปทุกรายเลยทีเดียว
พระครูพุฒ กิจโสภณ เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน บ้านตาดทอง ต.ตาดทอง อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร เทศนา ตอนหนึ่งว่า พระพุทธเจ้าตรัสเทศนาสอนราหุลกุมารในตอนที่พระมารดาให้ไปขอทรัพย์สมบัติ พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า ทรัพย์ภายนอกไม่มั่นคงถาวร มีภัยอันตรายนานาประการ พึ่งพาอาศัยได้แต่ตอนที่เรามีชีวิตอยู่เท่านั้น ไม่เหมือนทรัพย์ภายใน คือ “ อริยทรัพย์” ควรแสวงไว้ให้มีในสันดานในจิตใจของพวกเราทั้งหลาย อริยทรัพย์มีอยู่ 7 ประการ คือ 1.ศรัทธา เชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ คือ เชื่อในสิ่งที่ประกอบด้วยเหตุผลและประกอบด้วยปัญญาความรู้ ซึ่งเรียกว่า ศรัทธาญาณสัมปยุตต์ ไม่ควรเชื่อโดยไร้เหตุผล ซึ่งเรียกว่า เชื่ออย่างงมงาย ศรัทธานี้ท่านจัดไว้ 4 ประการ คือ 1.กรรมศรัทธา เชื่อกรรม สิ่งที่เรากระทำด้วย กาย วาจา ใจ ทั้งดีและชั่วก็ตาม ย่อมอำนวยผลให้แก่ผู้กระทำโดยแท้ 2.วิปากศรัทธา เชื่อผลของกรรม คือ เชื่อว่าบุคคลที่ได้รับความสุขหรือความทุกข์ ก็เป็นผลเนื่องมาจากเหตุ บุคคลได้รับความสุขเกิดจากกุศลกรรม ผู้ที่ได้รับทุกข์เกิดจากอกุศลกรรมที่ตนได้กระทำไว้ 3.กัมมัสสกตาตศรัทธา เชื่อความที่สัตว์มีกรรมเป็นของตน ทุกคนเกิดมาในโลกนี้ จะดีบ้าง ชั่วบ้าง ประณีตบ้าง เลวบ้าง เกิดจากรรมที่เขาได้กระทำไว้ ดังพุทธภาษิตว่า กัมมัง สัตเต วิภัชชะติ กรรมย่อมจำแนกสัตว์ ที่กระทำให้ประณีตและเลวต่างกัน
3.ตถาคตโพธิศรัทธา เชื่อปัญญาการตรัสรู้ของพระคถาคตเจ้า คือ เชื่อว่า พระพุทธเจ้ารู้ดีรู้ชอบด้วยพระองค์เองก่อนแล้ว และสอนผู้อื่นให้รู้ดีรู้ชอบด้วย และพระธรรมคำสอนย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติปฏิบัติตาม ให้ได้รับความสุขความเจริญตามกำลังความสามารถของแต่ละคน พระสงฆ์สาวกเป็นผู้ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าและสอนคนอื่นให้ประพฤติปฏิบัติตามด้วย นี่คือ อริยทรัพย์ข้อที่ 1 ศีล คือ การสำรวม กาย วาจา ใจ ให้สงบเรียบร้อย ปราศจากอกุศลกรรมและโทษอันบัณฑิตติเตียน ครหาว่าไม่ดี ศีลจึงเป็นทรัพย์ภายในที่สำคัญข้อ 2 หิริ คือ ความละอายต่อบาปทุจริต
4.โอตตัปปะ คือ ความสะดุ้งกลัวต่อบาปทุจริต ว่าเป็นเรื่องชั่วร้ายไม่ยอมเข้าใกล้ บรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นอยู่เวลานี้ก็มีดีบ้าง ชั่วบ้าง สุขบ้าง ทุกข์บ้าง ที่เป็นดังนี้ ก็ล้วนมาจากผลกรรมบันดาลให้เป็นไปทั้งนั้น ผู้ที่ฝึกเกลียดชั่ว กลัวบาปเป็นนิสัย ละเว้นความชั่วทุจริตนั้น ทั้งในที่แจ้งและที่ลับ เช่นนี้ ชื่อว่า โอตตับปะ หิริโอตตัปปะ ทั้งสองนี้ เป็นปัจจัยให้คนประกอบคุณงามความดี รักษาสัตว์ไม่ให้ตกไปในทางชั่ว เป็นธรรมรักษาโลกให้มีแต่สุขหรือว่าธรรมคุ้มครองโลก ถ้าโลกปราศจากธรรม 2 ประการนี้ จะเดือดร้อนวุ่นวายไม่เป็นสุข จึงถือว่า ธรรม 2 ข้อนี้ เป็นอริยทรัพย์ด้วย
5.พาหุสัจจะ จัดว่า เป็นอริยทรัพย์ เพราะผู้ได้รับรู้ได้ยินได้ฟังมากทั้งทางโลกและทางธรรม เรียกว่า คงแก่เรียนวิทยาการต่างๆ ผู้มีคุณธรรมคือ พาหุสัจจะ แม้จะไม่มั่งคั่งสมบูรณ์ด้วยทรัพย์ศฤงคาร แต่ก็เป็นผู้ได้รับการยกย่องนับถือด้านปัญญา ความรู้ เรียกว่า รวยปัญญา เป็นพหูสูต แม้จะอยู่ในหมู่ใดย่อมองอาจกล้าหาญ เป็นที่เคารพยกย่อง เชื่อถือในการพูดจา ไม่ยาก ไม่จน ดังนิพนธ์สุนทรภู่ว่า “มีวิชาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน จะตกถิ่นฐานใดก็ไม่แคลน ถึงยากแค้นก็ยังพอประทังตน” จะเห็นได้ว่า พาหุสัจจะนี้ เป็นมงคลสูตรของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
6.จาคะ คือ สละสิ่งของ ของตนให้แก่คนที่ควรปัน จาคะเป็นกุศลกรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งสามารถกำจัดมัจฉริยะ ความตระหนี่ อันมีความโลภเป็นมูลเสียได้ เป็นเครื่องชำระจิตให้ผ่องใส แต่เพราะอารมณ์เป็นมลทินเข้ามาเกลือกกลั้ว ก็ย่อมเศร้าหมองได้ คำว่า อารมณ์มีมาก จะกล่าวแต่เฉพาะ 2 อย่าง คือ มัจฉริยะและความโลภ มีลักษณะแสวงหาทรัพย์ โดยไม่เป็นธรรม เช่น ฉ้อโกง โจรกรรม หลอกลวงด้วยเล่ห์กลโกงบ้าง ทั้งสองอย่างเป็นกิเลสชั่วร้าย เข้าสู่จิตใจผู้ใดทำให้ผู้นั้นเศร้าหมองขุ่นมัว ดุจผงหรือเขม่าเข้าจับกระจกเงาทำให้ขุ่นมัว ไม่อาจจะส่องมองดูหน้าได้ฉันนั้น จิตใจของคนเรา เมื่อถูกกิเลส 2 อย่างเข้าครอบงำแล้ว จะไม่อาจมองเห็นธรรมอันเป็นกุศลได้ ฉะนั้น พวกเราต้องแสวงหาหนทางขจัดมลทินโทษเหล่านั้นออกไปให้ได้ ก็คือ จาคะพึงให้เกิดมีขึ้นในตนเอง
7.ปัญญา คือ ความรอบรู้ รู้ทั่วหรือรู้ชัด คือ ความเฉลียวฉลาด สามารถรู้ทางเสื่อม ทางเจริญ สามารถนำตนให้พ้นความชั่ว ความเสียหายได้ จึงชื่อว่า รอบรู้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ อันคุณธรรม คือ ปัญญานี้ เมื่อมีในบุคคลใดย่อมทำให้บุคคลนั้นรู้เห็นสมบัติและวิบัติ บรรดาแสงสว่างทั้งหลาย เช่น แสงสว่างของพระอาทิตย์ มีในเวลากลางวัน แสงสว่างจากดวงจันทร์มีในเวลากลางคืน หรือ แสงสว่างจากประทีปก็ดี ย่อมเหมาะสำหรับจักษุฉันใด แสงสว่างคือปัญญา ก็หย่อมเหมาะสำหรับจิตใจ ฉันนั้นเหมือนกัน ดังพุทธสุภาษิต ที่ว่า ปัญญา โลกัสมิ ปัชโชโต ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก นัตถิ ปัญญาสะมา อาภา แสงสว่างเสมอด้วยปัญญา ไม่มี ดังนี้เป็นต้น ปัญญา เป็นคุณธรรมอันวิเศษ เป็นเหตุให้บุคคล ตั้งตนได้ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าและรู้ความจริง คือ อริยสัจ 4 ได้ ทำให้บุคคลถึงซึ่งความผ่องใส ความบริสุทธิ์ บรรลุวิมุตติ เป็น พระอริยเจ้าได้ก็เพราะปัญญานั่นเอง....
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » ภูมิภาค
Top 5 ข่าวภูมิภาค
![]()
- มือมีดรับสารภาพ! ฟันหลานเลือดอาบ หลังทะเลาะเดือดกลางบ้าน 23 พ.ค. 2568
- คณะกรรมการสถานศึกษามหาราช 7 มีมติไม่รับครูคืนโรงเรียน หวั่นกระทบครู-นักเรียน 23 พ.ค. 2568
- “มาดามหน่อย” ลุยหนุนการศึกษา โคราชยกเครื่องสร้างอนาคตด้วยทุน 23 พ.ค. 2568
- ปะทะเดือด! ทหารกะเหรี่ยง-เมียนมา ที่เมืองบอระแค๊ะ หามคนเจ็บส่งโรงพยาบาลขุนยวมโกลาหล 23 พ.ค. 2568
- ดับสยองสองหนุ่ม ประสานงากระบะสยอง 23 พ.ค. 2568
ข่าวในหมวดภูมิภาค
![]()
พะเยา จัดยิ่งใหญ่! เทศกาลงานลิ้นจี่ของดีอำเภอแม่ใจ ปี 68 21:26 น.
- ชาวกาฬสินธุ์เฮ! รมช.คมนาคมลงพื้นที่เล็งพัฒนาเส้นทาง 3 อำเภอ มุ่งสู่เมืองแหล่งท่องเที่ยว 20:59 น.
- หนองคาย ขนส่งเคาะประมูลเลขสวยหมวด กท 20:33 น.
- แฉทำกันเป็นขบวนการใหญ่ นายทุน ผู้มีอิทธิพล จนท.รัฐ เก็บปาล์มน้ำมันในป่าสงวนพื้นที่หมดสัมปทานกว่า 2 หมื่นไร่ 20:26 น.
- อาถรรพ์เชือกแดง! ดช.วัย 11 ปี แกล้งคล้องเล่นสุดท้ายตายจริงคาบ้าน 20:06 น.