วันพุธ ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 02:03 น.

ภูมิภาค

ตะลุยเที่ยวเมืองสามบุรี หลากวิถีหลายเรื่องราว

วันพุธ ที่ 02 กันยายน พ.ศ. 2563, 16.19 น.

ตะลุยเที่ยวเมืองสามบุรี
หลากวิถีหลายเรื่องราว

จังหวัดสุพรรณบุรี,กาญจนบุรี และราชบุรี อยู่ในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ลักษณะภูมิประเทศมีแม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำแคว ไหลผ่านมีเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์ เป็นแหล่งกักเก็บน้ำไว้ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “ดินแดนมหัศจรรย์แห่งสายน้ำและขุนเขา ความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติเหมาะแก่การเกษตรกรรม

หากพิจารณาในมุมมองของโครงข่ายเชื่อมโยงการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ ในยุทธศาสตร์ในแผนพัฒนาภาคกลางในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พบว่า เส้นทางซึ่งเชื่อมโยงสุพรรณบุรี -กาญจนบุรี และราชบุรี เป็นส่วนหนึ่งของ “เส้นทางโบราณในยุคทวารวดี” เป็นเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในกลุ่มประวัติศาสตร์และศาสนาของโครงข่ายกาญจนบุรี-สุพรรณบุรี-พระนครศรีอยุธยา-อ่างทอง-สิงห์บุรี-ชัยนาท-ลพบุรี-สระบุรี-นครปฐม-ราชบุรี-เพชรบุรี

สถานที่ท่องเที่ยวในสามจังหวัดบอกได้เลยว่า มีเยอะแยะมากมาย ไปจังหวัดละ2วัน ก็ดูไม่หมดเพราะเวลาไม่พอแน่นอน มีทั้งเส้นทางสายทวาราวดี  ศิลปะวัฒนธรรม วัดวาอาราม วิถีชุมชนพื้นบ้าน อาหารโบราณทั้ง คาว-หวาน สวนเกษตร  เรื่องของสินค้าชุมชนหรือ โอท็อปส์ โฮมสเตย์  อาชีพเกี่ยวกับการจักสาน ทอผ้า ฯลฯ

ทริปนี้ขอนำเสนอสถานที่น่าสนใจบางกิจกรรม โดยทางองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เขต 7(อพท.)ร่วมกับ บริษัท แกรนด์เทค จำกัดนำคณะอาจารณ์ จากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ จากส่วนกลาง พร้อมสื่อมวลชน มาสำรวจและศึกษาเส้นทางท่องเที่ยว 3 จังหวัด ในโครงการกิจกรรมพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์เชื่อมโยงจังหวัดสุพรรณบุรีตามโปรแกรมทดลองเที่ยว “เส้นทางสามบุรี” หลากวิถี หลายเรื่องราว

จุดแรกที่แวะไปเยือนคือ ชุมชนเขาพระ ตำบลอู่ทอง อ.อู่ทอง สุพรรณบุรี ไปดูศูนย์การเรียนรู้การทำกาละแมตำนานดิน ดูการสาธิตการทำกาละแมโบราณจากวัตถุดิบท้องถิ่น  เคล็ดลับ อยู่ที่การใช้ข้าวเหนียวแท้ๆ ไม่ใช่แป้งข้าวเหนียว ผสมผสานกับสมุนไพรท้องถิ่น   ส่วนต้นตำนานดิน ใช้ได้หมดทั้งใบ ลำต้นผสานรสหวานด้วย เกสรผึ้ง ที่นำมาเลี้ยงไว้เอง ใช้กำลังชายฉกรรจ์ช่วยกันกวน ไม่ให้ไหม้ติดกระทะ ใครจะทดลองกวน หรือ ชิมลิ้มรส ความหอมหวานนุ่ม ของกาละแมร้อนๆ เชิญได้เลย รับรองอร่อยประทับใจ

จากนั้นไปเยือน ศูนย์การเรียนรู้ตุ๊กตาหัวโตชุมชนต้นแจงพัฒนา ที่อยู่ใกล้ ๆกัน ที่นี่เน้นให้ผู้มาเยือนร่วมกิจกรรมทดลองทำยาดมสมุนไพร มี “ป้าต้อย”หรือเครือวัลย์ คล้ายจินดา เจ้าของและเป็นวิทยากรเอง จุดเด่นอยู่ที่ฝาปิดบรรจุภัณฑ์ทำเป็นรูปตุ๊กตาหัวโต พร้อมนำมาให้ผู้มาเยือนได้แสดงฝีมือระบายสี ตามจินตนาการ เป็นผลงานชิ้นเดียวในโลกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ได้ประกวดประชันฝีมือกันพอหอมปากหอมคอ

ไม่ไกลจากที่นั่น พวกเราแวะวัดเขาพระศรีสรรเพชญาราม ชื่อเดิมคือ วัดเขาพระ ที่นี่มีพระพุทธไสยาสน์ หลวงพ่อสังฆ์ ประดิษฐานอยู่ เป็นที่เคารพสักการะของชาวชุมชนอู่ทอง ส่วนบนยอดเขามีมณฑปซึ่งภายในประดิษฐานรอยพระพุทธบาทหินทรายแกะสลัก และเจดีย์โบราณก่ออิฐสอปูน

อีกสถานที่ คือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง แหล่งโบราณคดี ที่มีการจำลองแผนที่ชุมชนโบราณ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ จนเข้าสู่วัฒนธรรมทวารวดี  นักวิชาการเชื่อว่าอู่ทอง มีความสัมพันธ์กับดินแดน "สุวรรณภูมิ" ศูนย์กลางการค้าของโลกยุคโบราณเมื่อประมาณ 2,500 ปีมาแล้ว และยังเป็นจุดที่พระพุทธศาสนาเข้ามาประดิษฐานเป็นแห่งแรกในประเทศไทย

จากสุพรรณบุรี เรามุ่งหน้าไปยังจังหวัดกาญจน์บุรี ตรงเข้าศูนย์ศึกษาและเรียนรู้นวัตกรรมเกษตรทฤษฎีใหม่และเกษตรอินทรีย์ ศูนย์ศึกษาแบบครบวงจร นั่นคือ ชุมชนบ้านหนองทรายตำบลหนองสาหร่าย อำเภอพนมทวน เป็นชุมชนต้นแบบกลุ่มเกษตรกรดีเด่น ที่ได้น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้ เพื่อพัฒนาเกษตรที่ยั่งยืน และมั่นคง

พวกเราได้นั่งรถลากตระเวณไปตามชุมชน เพื่อชมหน้าตาของโฮมสเตย์ ที่มีไว้ให้บริการกับผู้มาเยือน ชมการทำพริกแกง สูตรเด็ดเฉพาะตัวของบ้านหนองทรายที่หอมและเข้มข้นถึงเครื่อง แวะ ชิม ทดลองทำขนมนางเล็ด / การทอผ้า ทอพรมเช็ดเท้า ชมการสาธิตและทดลองสานภาชนะด้วยเส้นพลาสติคสีสวยเรียนรู้การทำไอศกรีมข้าวไรซ์เบอร์รี่ เรียนรู้ระบบการจัดการข้าว การแปรรูปข้าว และชมพระอาทิตย์ตก ณ แปลงนาหญ้าแพงโกล่าหญ้าคุณภาพสูง ที่ใช้เลี้ยงม้า ก่อนจะไปรับประทานอาหารเย็น พร้อมชมการแสดงเพลงเหย่ยที่คล้ายเพลงอีฉ่อย เพลงกองยาว ที่เราคุ้นหู

วันต่อมา คณะเรามุ่งหน้าไปเยือน บ้านห้วยกระบอก ชุมชนชาวจีนแคะ หรือ ฮากกาดินแดนที่ตั้งอยู่บนรอยต่อของ 3 จังหวัด ต.กรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ที่นี่เป็นชุมชนชาวจีนแคะ ที่อพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่นับร้อยปีในอดีตชุมชนแห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้า ที่ประชาชนทั้ง 3จังหวัดเดินทางมาค้าขายกันทื่นี่ ตลาดห้วยกระบอกแห่งนี้จึงเป็นศูนย์กลางของชาวจีนแคะที่มีอายุยาวนานและใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยทีเดียวและยังมีการทำขนมหว่องฟ้ามู่ปั้น ขนมโบราณของชาวจีนแคะ จำหน่ายแก่ผู้มาเยือน

ปิดท้ายก่อนเดินทางกลับขอแนะนำให้แวะ “กาดวิถีชุมชนคูบัว” หรือ ภาษาภาคกลางจะเรียกกันว่า ตลาดวิถีชุมชนคูบัว”ตั้งอยู่ภายในวัดโขลงสุวรรณคีรี ต.คูบัว อ.เมือง จ.ราชบุรี ที่สร้างขึ้นด้วยความร่วมแรงร่วมใจของชาวไทยวนในพื้นที่เสน่ห์ของกาดแห่งนี้คือ วิถีชีวิตชุมชนชาวไทย-ยวน ที่มีอาหารของกิน ของใช้ ของพื้นบ้านขายโดยชาวบ้านในตำบลคูบัว และย้อนเวลาหาอดีตที่”เมืองโบราณคูบัว” สมัยทวาราวดี ประมาณ 1,300 ปีมาแล้ว

เมืองคูบัวเป็นเมืองท่าและตลาดการค้าที่สำคัญ เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางความรุ่งเรืองของอาณาจักรทวาราวดี และการทอผ้าซิ่นตีนจก ที่มีลายเป็นเอกลักษณ์ ทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ จะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาสัมผัสกับบรรยากาศแบบวิถีชุมชนของชาวบ้านกันมากมาย  มานั่งทานอาหารหลากหลายชนิดพร้อมชมการแสดงของชาวไทยวนที่สวยสด งดงาม หาดูที่ไหนไม่ได้แล้ว พบกันฉบับหน้ารับ

 

หน้าแรก » ภูมิภาค