ภูมิภาค
ชาวบ้านผวาหนัก ไม่กล้าใช้สถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น หลังเกิดเหตุโศกนาฏกรรม
วันพุธ ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2563, 14.24 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

วันที่ 14 ต.ค.63 เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุโศกนาฏกรรมใหญ่ ขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าพุ่งชนรถบัสจนมีผู้ที่กำลังจะเดินทางไปทำบุญร่วมทอดกฐิน ยังที่วัดบางปลานัก เสียชีวิตรวม 19 ศพนั้น บรรยากาศในวันนี้โดยรอบพื้นที่เริ่มกลับเข้าสู่ความเงียบสงบลงอีกครั้ง
โดยมีเพียงกลุ่มจิตอาสาของการรถไฟฯ เดินทางเข้ามาพัฒนาจัดระเบียบและปรับปรุงพื้นที่ บริเวณจุดเกิดเหตุเท่านั้น ขณะที่บริเวณภายในตัวสถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุออกไปอีกประมาณ 60 เมตรนั้น ได้มีนักศึกษาสาวมายืนรอขึ้นรถไฟแค่เพียงรายเดียวเท่านั้น โดยที่ได้ให้ผู้ปกครองทั้งผู้เป็นบิดามารดา มานั่งรอคอยเฝ้าส่งขึ้นขบวนรถ หรือคอยอยู่เป็นเพื่อนตลอดเวลา
.jpg)
โดย น.ส.ปิยวรรณ ชื่นบาน อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/4 ม.4 ต.คลองเปรง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ปกติตนเองจะเดินทางมาขึ้นขบวนรถไฟในทุกเช้าของวันจันทร์ หรือหลังจากวันหยุด เพื่อเดินทางไปเรียนหนังสือยังในพื้นที่ กทม. และจะกลับมาบ้านอีกครั้งในวันศุกร์ โดยที่จะมาขึ้นรถไฟเป็นประจำยังที่สถานีแห่งนี้ในทุกๆ เช้าของวันจันทร์ต้นสัปดาห์
แต่ในตอนขากลับ คือ วันศุกร์นั้น จะนั่งเลยจากสถานีคลองแขวงกลั่น ไปลงยังที่สถานีบางพระ ซึ่งอยู่เลยถัดไปอีก 1 สถานี เนื่องจากสถานีแห่งนี้ไม่มีไฟฟ้าไม่มีแสงไฟส่องสว่าง ต้องใช้ไฟฉายติดตัวมาส่องทาง จึงทำให้บรรยากาศดูวังเวงน่ากลัว เนื่องจากเป็นสถานีร้าง จึงไม่กล้าที่จะลงจากขบวนรถที่สถานีแห่งนี้ และ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงยิ่งทำให้ตนไม่กล้าที่จะเดินทางมารอขึ้นขบวนรถไฟเพียงลำพังอีก ในวันนี้จึงได้ให้ผู้เป็นบิดา คือ นายบุญเชิด ชื่นบาน อายุ 55 ปี และมารดา คือ นางติ๋ม ลิ้มตัง อายุ 53 ปี เดินทางมาส่ง และมาช่วยนั่งรอรถไฟเป็นเพื่อนด้วย
.jpg)
ขณะที่ นายปัญญา ศิริตาหนึง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/1 ม.7 ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ปกติช่วงเย็นค่ำจะมีชาวบ้านมานั่งรวมตัวพูดคุยสนทนากันอยู่ที่บริเวณร้านค้าของนางกบ ซึ่งตั้งอยู่ริมทางรถไฟตรงจุดเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุการณ์แล้ว ชาวบ้านที่เคยมานั่งรวมตัวพูดคุยกัน ต่างพากันกลับบ้านกันเร็วไวขึ้น หรือหลังจากขบวนรถไฟเที่ยวสุดท้ายผ่านไปแล้ว ก็จะพากันกลับบ้านไปกันจนหมดเกลี้ยงในทันที นายปัญญา ระบุ
ส่วนด้าน นายสำราญ ทองวิจิตร อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/1 ม.7 ต.บางเตย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตลอด 3 วันที่ผ่านมาในพื้นที่ไม่ได้มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นยามค่ำคืน และไม่มีแม้แต่เสียงสุนัขหอน โดยทุกอย่างมีแต่เพียงความเงียบสงัด สำหรับตนเองแล้วนั้นไม่ได้กลัวอะไร เนื่องจากไม่ได้มาดูในที่เกิดเหตุ หรือไม่ได้มาเห็นศพ แต่สำหรับชาวบ้านที่เคยมาดูในที่เกิดเหตุ หรือได้มาเห็นศพคนตายแล้วนั้น หลายคนต่างไม่กล้าผ่านเข้ามาในพื้นที่ตรงบริเวณในที่เกิดเหตุอีก หากไม่มีความจำเป็นก็จะไม่มากัน เพราะยังคงมีภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นติดตากันอยู่ตลอดเวลา
.jpg)
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » ภูมิภาค
Top 5 ข่าวภูมิภาค
![]()
- หัวอกแม่! ร่ำไห้สุดห่วงลูกสาววัย 17 ไปฝึกงานกรุงเทพฯหายตัว 9 วันแล้ว วอนช่วยตามหา 9 พ.ค. 2568
- นครศรีธรรมราช ประชุมเตรียมการทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast 9 พ.ค. 2568
- สว.สุพรรณบุรี เรียกร้องรัฐบาลรีบทำ 2 เรื่อง ก่อนประเทศไทย จะย่ำแย่ไปมากกว่านี้ 9 พ.ค. 2568
- "พระครูศรีธรรมวิบูล" ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพบูรณะปิดทองพระประธานวัดหนองหลัก 9 พ.ค. 2568
- อุตุฯ เตือนพายุฤดูร้อนถล่ม 9–12 พ.ค. ทั้งฝน-ลมแรง-ลูกเห็บ 49 จังหวัดเตรียมรับมือ 9 พ.ค. 2568
ข่าวในหมวดภูมิภาค
![]()
เตือนภัย! อ้างเป็นสื่อดังตระเวนขอบริจาคหมื่นแลกเหรียญที่ระลึก 21:14 น.
- “พิชัย” ลุยร้อยเอ็ด ติดตามโครงการพักหนี้ระยะ 2 หนุนเกษตรกรฟื้นฟูอาชีพ 21:04 น.
- บึ้มสนั่น! ถังเคมี 200 ลิตรระเบิด เจ้าของโรงสีอาการโคม่า 20:57 น.
- รองผู้ว่าประจวบฯ ร่วมพิธีเทศน์มหาชาติ พระเวสสันดรชาดก เฉลิมพระเกียรติกรมสมเด็จพระเทพฯ 20:20 น.
- สุดคุ้ม! ร้านนักเรียนลานสักใจป้ำ ปักชื่อ-ตราโรงเรียนฟรีไม่คิดเงินเพิ่ม 20:08 น.