วันที่ 5 ธ.ค.63 สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สุราษฎร์ธานี ในช่วงเช้าฝนหยุดตกเริ่มมีแสงแดดเป็นวันที่ 2 แล้ว ระดับน้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำและระดับน้ำในแม่น้ำตาปีเขตเทศบาลเมืองท่าข้าม อ.พุนพิน เริ่มลดลงประมาณ 10-20 ซม. น้ำในแม่น้ำตาปีไหลช้ากว่าไม่เชี่ยวกรากเหมือนเมื่อวานที่ผ่านมา ชาวบ้านจากพื้นที่รอบนอกทยอยออกจากบ้านมาถ่ายรูปเช็คอินตรงริมสะพานข้ามแม่น้ำตาปี เขตเทศบาลเมืองท่าข้าม  ขณะที่ชาวบ้านริมน้ำเริ่มนำเรือออกหาปลาเป็นรายได้ บางส่วนก็นำเสื้อผ้ามาซักตากแดด

 

ส่วนตรงบริเวณบนสะพานจุลจอมเกล้า ริมทางรถไฟ /ชาวบ้านชุมชนใต้โค้ง เขตเทศบาลเมืองท่าข้าม ประมาณ 15 ครัวเรือนยังคงอาศัยเป็นที่พักชั่วคราว เพราะถึงแม้ว่าระดับน้ำลดลงในช่วงเช้าแต่ยังแห้งไม่สนิท และยังต้องเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนในช่วงบ่ายหรือช่วงเย็นอีก ยังจำเป็นต้องอาศัยอยู่ในเต๊นส์ที่พักชั่วคราวจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ โดยในช่วงเช้ามีมูลนิธิหลายแห่งนำอาหารกล่องมาแจกจ่ายผู้ประสบภัย ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้พิการและผู้สูงอายุ ส่วนคนวัยทำงานยังต้องทำงานตามปกติ

 

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สุราษฎร์ธานีโดยภาพรวมพื้นที่ทางโซนฝั่ง อ.ดอนสัก /กาญจนดิษฐ์ ลดลงหลายพื้นที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ในโซนของ ต.ท่าข้าม/ต.ท่าโรงช้าง/ต.เขาหัวควาย และเขตเทศบาลเมืองท่าข้าม พื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำตาปี ถึงแม้น้ำลดลงระดับแต่ยังไม่พ้นวิฤต ชาวบ้านยังต้องอาศัยอยู่บนถนนหรือที่พักชั่วคราวอีกระยะหนึ่ง

 

ขณะที่ทางจังหวัดได้สรุปสถานการณ์อุทกภัยช่วงวันที่  29  พ.ย. - 5 ธ.ค.  2563 ตามที่ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจำนวน  16 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ดอนสัก /อ.กาญจนดิษฐ์ /อ.วิภาวดี /อ.ท่าฉาง/ อ.บ้านนาเดิม/อ.เคียนซา/อ.ชัยบุรี/ อ.พุนพิน  อ.เวียงสระ/อ.คีรีรัฐนิคม/อ.ไชยา/อ.ท่าชนะ / อ.เมืองสุราษฎร์ธานี / อ.บ้านนาสาร / อ.พระแสง และ อ.พนม จำนวน 109 ตำบล  850 หมู่บ้าน 95  ชุมชน  ราษฎรได้รับผลกระทบ จำนวน 30,128  ครัวเรือน 90,530  คน ไม่มีผู้บาดเจ็บและไม่ผู้เสียชีวิต 

 

ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สนับสนุนถุงยังชีพ จำนวน 4,000 ชุด โดยจังหวัดสุราษฎร์ธานีมอบให้อำเภอพุนพิน  500 ชุด อำเภอท่าฉาง   700 ชุด อำเภอท่าชนะ 500 ชุด อำเภอเคียนซา 500 ชุด  อำเภอบ้านนาเดิม  400 ชุด  อำเภอกาญจนดิษฐ์  400 ชุด และอำเภอดอนสัก  750 ชุด ไปแจกจ่ายผู้ประสบอุทกภัย.