วันเสาร์ ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 07:52 น.

ภูมิภาค

"เอกภาพ พลซื่อ" โค่นแชมป์เก่า 2 สมัย นั่งเก้าอี้ นายก อบจ.ร้อยเอ็ด

วันจันทร์ ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2563, 16.26 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด อย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งเป็นการชิงชัยกันของ 2 ขั้วอำนาจ ในที่สุดเก้าอี้ตกเป็นของ นายเอกภาพ พลซื่อ" ผู้สมัครอิสระที่มีกลุ่มตระกูลการเมืองเก่าแก่อย่าง "จุรีมาศ" ให้การช่วยเหลือ จนคว้าเก้าอี้มาครองได้  ในการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการต่อสู้กันระหว่าง นายมังกร ยนต์ตระกูล ผู้สมัคร หมายเลข 3 พรรคเพื่อไทย ลงเพื่อรักษาตำแหน่ง แล้วจะทำงานต่อ แข่งขันกับนายเอกภาพ พลซื่อ ผู้สมัครอิสระ ไม่สังกัดพรรค ซึ่งเป็นอดีตส.ส.ร้อยเอ็ด และก่อนหน้านั้นเคยสมัครส.ส.ในนามพรรคพลังประชารัฐแต่ต่อมาลาออกจากพรรคมาสมัครอิสระ ได้หมายเลข 1 โดยการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการต่อสู้กันระหว่าง 2 คน คือหมายเลข 1 และหมายเลข 3 ในขณะที่มีหมายเลข 2 นายสถาพร ว่องสัธนพงษ์ ลงสมัครในนามกลุ่มก้าวหน้า 
 
ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการจากกกต.ร้อยเอ็ด สรุปเบื้องต้นว่า ผู้ชนะคือ นายเอกภาพ พลซื่อ ผู้สมัครหมายเลข 1 ได้คะแนน 221,751  คะแนน นายมังกร ยนต์ตระกูล หมายเลข 3 ได้ อันดับที่ 2 ได้คะแนน 215,694 คะแนน นายมังกร ยนต์ตระกูล อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด ต่อมามาสังกัดพรรคเพื่อไทยและมาลงการเมืองท้องถิ่น ในตำแหน่งนายกอบจ.ร้อยเอ็ด ต่อกัน 2 สมัย และ คสช.ให้อยู่ต่อ 4 ปี รวมเป็น 12 ปี และยังคงสมัครนายก อบจ.หลังจากลาออกจากพรรคเพื่อไทยเมื่อปี 2561 และให้รองนายกจุรีพร สินธุไพร นำไปสมัครเข้าพรรคพลังประชารัฐ และมาสมัครนายกอบจ.ต่อ โดยมีผู้สมัครนายกอบจ. 6 คนในพื้นที่ แต่ต่อสู้กันจริง ๆ เพียง  3 คน 
 
โดย เอกภาพ พลซื่อ อดีต สส.ร้อยเอ็ด ลาออกจากพลังประชารัฐ ลงสมัครอิสระไม่สังกัดพรรค ได้หมายเลข 1 นายสถาพร ว่องสัทธนพงษ์ อดีตประธานสภาอบจ.ร้อยเอ็ดสมัครกลุ่มก้าวหน้า ได้หมายเลย 2 และนายมังกร ยนต์ตระกูล ได้หมายเลข 3ได้ลงพื้นที่หาเสียง แต่โดนกระแสย้ายพรรคและกระแสตก จึงให้นายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์ สส.เพื่อไทยพากลับไปสมัครเข้าพรรคเพื่อไทยในเดือนธ.ค.ขณะที่กำลังมีการหาเสียงเลือกตั้งเพื่อเอาสัญลักษณ์พรรคมาหาเสียงสร้างกระแสต่อ และให้ นายจาตุรน ฉายแสง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รวมถึงคุณหญิงหน่อยสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มาช่วยลงพื้นที่หาคะแนนเสียงแต่ก็ยังสู้ไม่ได้  
 
ในที่สุดก็พ่าย นายเอกภาพ พลซื่อ ที่สร้างกระแสให้คนร้อยเอ็ดอยากที่จะเปลี่ยนคนใหม่และอาสาทำหน้าที่ได้ดีกว่า โดยมีพันธะสัญญา กับ นายอนุรักษณ์ จุรีมาศ พรรคชาติไทยพัฒนา ว่าจะเข้ามาทำหน้าที่ร่วมกันพัฒนาจังหวัดร้อยเอ็ดในทุกระดับและเทตัวผู้สมัครส.อบจ.ทุกเขตที่ตระกูล "จุรีมาศ"หนุนหลังอยู่เข้ามาช่วยนายเอกภาพ ซึ่งเดิมมีฐานเสียงเพียง อ.หนองพอก,โพนทอง,เมยวดี และโพธิ์ชัย บางส่วน ให้มีคะแนนแน่นขึ้นในเขต อ.เมือง.ศรีสมเด็จ,และอีกหลายพื้นที่เข้ามาเสริม เพื่อชิงฐานเสียงในกลุ่มก้อนคนเสื้อแดงทั้งของเพื่อไทย  ส่วนหนึ่งของคนเสื้อแดงที่แตกออกไปเป็นฐานเสียงกลุ่มก้าวหน้า ที่นายสถาพร ว่องสัธนพงษ์ หลายเลข 2 ลงมาแบ่งฐานคะแนนออกไป 
 
ทำให้นายมังกร ยนต์ตระกูล ที่แม้พยายามกลับมาสร้างการปลุกกระแสเพื่อไทย ชิงคะแนนกลับ แต่ก็ไม่เป็นผลกลับแพ้กระแสคู่ต่อสู้อย่างสิ้นเชิงกับคำว่า "ต้องการเปลี่ยน"นายกอบจ. คนใหม่ของประชาชน จากการปลุกกระแสของนายเอกภาพ พลซื่อ จนเป็นกระแสแนวคิดของประชาชน ให้ลองเปลี่ยนมาเลือกคนใหม่ดูบ้าง ประชาชนส่วนใหญ่ที่เบื่อการเมืองแบบเก่าๆอยู่แล้วและหวังอยากจะให้อะไรอะไรดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่จึงเทคะแนนให้กับอดีตนักการเมือง"ลูกชาวนา อย่าง เอกภาพ พลซื่อ ให้เข้ามากุมบังเหงียนเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด คนใหม่

หน้าแรก » ภูมิภาค