วันศุกร์ ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567 06:47 น.

ภูมิภาค

เมียผญบ.ฟ้องกลับ! หลังถูกกล่าวหาซื้อเสียง

วันพุธ ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563, 19.26 น.

ควันหลงเลือกตั้ง อบจ.ขอนแก่น เมีย ผญบ.หัวคะแนนฟ้องกลับหลังโดนกล่าวหาซื้อเสียงซึ่งถูก จนท.ตำรวจจับกุมเพราะมีผู้กล่าวหาว่าซื้อเสียงให้กับผู้สมัคร ส.อบจ.รายหนึ่ง อยู่ภายในบริเวณคูหาเลือกตั้ง เข้าแจ้งความกลับเพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่แจ้งความเท็จกับ จนท.ตำรวจ และให้ข้อมูลเท็จกับสื่อมวลชน โดยเจ้าตัวยืนยันไม่มีการซื้อเสียงเป็นการเข้าใจผิด พร้อมโชว์คลิปกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ
 

เมื่อเวลา13.00 น.วันที่21 ธ.ค.นางสำเนียง ทุมพา อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 266 หมู่ 8 บ้านเมืองเพีย ต.เมืองเพีย อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยทนายปกาญจน์ นพศรี ประธานสภาทนายความศาลจังหวัดพล ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ไพโรจน์ สันดี รอง สวส. สภ.บ้านไผ่ เพื่อเอาผิดกับบุคคลที่แจ้งความเท็จกับ จนท.ตำรวจให้มาจับกุมตนเองและให้ข้อมูลอันเป็นเท็จกับสื่อมวลชน โดยกล่าวหาว่าตนเองซึ่งเป็นภรรยาผู้ใหญ่บ้าน พร้อมพวกรวม 3 คน ได้ทำการแจกเงินซื้อเสียงกับประชาชนที่เดินทางมาลงคะแนนเลือกตั้ง นายก อบจ. และ ส.อบจ.ภายในบริเวณคูหาเลือกตั้ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทำให้ตนเองเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นดูแคลนจากบุคคล

 


 


โดยวันนี้ นางสำเนียง ได้นำภาพวงจรปิดในวันเกิดเหตุมาด้วย ซึ่งเป้นกล้องของทางโรงเรียน เนื่องจากหน่วยเลือกตั้งอยู่ภายในบริเวณโรงเรียน โดยนางสำเนียงได้อธิบายให้ ผสข.และ จนท.ตำรวจฟังด้วยว่า รถปิคอัพโตโยต้าสีบรอนด์ที่เห็นในภาพ เป็นรถของตนเอง ซึ่งขณะนี้ตนเองก้าวขี้นรถเพื่อจะกลับบ้าน ก็ได้มีรถเก๋งสีบรอนด์ตามภาพขับเข้ามาจอดด้านหน้ารถตนเอง
 

จากนั้นมีหญิงคนหนึ่งสวมกางเกงดำ เสื้อแขนยาวสีขาว นั่งอยู่ข้างคนขับลงจากรถมาแล้วใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพตนไว้ แล้วเข้ามาแย่งกุญแจรถของตนแต่เอาไปไม่ได้ ทำให้มีผู้หญิงอีกคน สวมเสื้อสีดำ กางเกงสีเหลือง ซึ่งเป็นคนขับรถเก๋งและทราบว่าเป็นภรรยาตำรวจได้ลงมาจากรถ แล้วตรงเข้ามาแย่งกุญแจรถของตนไป
 


หลังจากนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ ที่มาปฏิบัติหน้าที่คุมหน่วยเลือกตั้ง เดินเข้ามา ก่อนที่ผุ้หญิงทั้งสองคนจะกล่าวหาว่าตนเองซื้อเสียง ซึ่งขณะที่พูดอยู่กับ จนท.ตำรวจนั้น ในกาพวงจรปิดจะสังเกตเห็นว่าผู้หญิงที่ใส่เสื้อดำ กางเกงเหลือ ได้เดินย้อนกลับไปเอาเงินอยู่ภายในรถของตนเอง แล้วมาชูอ้างเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เป้นเงินที่ตนเองใช้ในการซื้อเสียง จำนวน 200 บาท ซึ่งตนเองก็ได้ปฏิเสธไปแล้วตั้งแต่นาทีแรกว่าไม่ใช่เงินของตน จากนั้นตำรวจก็ได้เชิญตนเองมาให้ปากคำที่โรงพัก ซึ่งก็เป็นเพียงการเชิญตัวมาสอบถามเท่านั้น จากนั้นก็ลงบันทึกประจำวันไว้เป้นหลักฐาน และปล่อยตนเองกลับบ้านไป
 


นางสำเนียง ได้ให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ได้มาแจ้งความเอาผิดเกี่ยวกับผู้ที่ทำให้ตนเองเสียชื่อเสียง โดยเฉพาะแหล่งข่าวไปให้ข่าวกับ ผู้สื่อข่าวทำให้เสียชื่อเสียงทั้งครอบครัว เนื่องจากตนถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวคะแนนแจกเงิน ซึ่งตนไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ไม่เคยรู้จักกับผู้สมัครคนไหนเป็นพิเศษ แต่กล่าวหาว่าตนเองไปแจกเงิน ให้กับชาวบ้านซึ่งจริงๆมันไม่ใช่อย่างนั้น ไม่มีมูลความจริง ส่วนวันนั้นหลักฐานที่จะเอาผิดตนในที่เกิดเหตุก็ไม่มี ซึ่งตนเองก็ได้ดูข่าวว่าเงินเป็นปึกๆเอามาจากไหน อีกอย่างกล่าวหาว่าโดนจับ 3 คน พร้อมญาติพี่น้อง จริงๆวันนั้นไม่มีการจับ เป็นเพียงการเชิญมาพบเพื่อให้ปากคำ โดยตำรวจเชิญตนมาเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ญาติพี่น้องได้ทราบข่าวก็เลยเดินทางมาดู ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าญาติพี่น้องของตนโดนจับด้วย
 


ด้านนายปกาญจน์ นพศรี ประธานสภาทนายความศาลจังหวัดพล กล่าวว่า วันนี้ตนเองได้รับการร้องขอในฐานะประธานสภาฯ สืบเนื่องมาจาก คุณสำเนียงแกถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวคะแนนให้กับผู้สมัคร ส.อบจ.คนหนึ่ง ซึ่งคุณสำเนียงบอกว่าไม่ได้กระทำเหมือนกับที่ถูกกล่าวหาเลยซึ่งเบื้องต้นได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ว่าเป็นไปตามที่สื่อลงข่าวหรือไม่ว่ามีการแจกเงินหน้าคูหาเลือกตั้ง ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและพยานหลักฐานต่างๆในที่เกิดเหตุก็ เชื่อว่าไม่น่าเป็นไปได้ ตามที่ได้ถูกกล่าวหา หรือที่ถูกออกข่าวไป ตนจึงได้พาคุณสำเนียงมาแจ้งความ เพื่อที่จะดำเนินคดีกับผู้ที่ทำให้แกเสียหาย.

หน้าแรก » ภูมิภาค