วันที่ 23 กุมภาพันธ์ นายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดหลังมีการผ่อนปรนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ว่า มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่จังหวัดประจวบฯเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและจังหวัดประจวบฯที่ให้การสนับสนุนการท่องเที่ยว ซึ่ง จ.ประจวบฯ ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับประเทศและระดับโลกมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายที่ชาวต่างชาติสนใจเข้ามาเที่ยว โดยมีตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทยเข้ามาเที่ยวจำนวนมากปีละประมาณ 8-10 ล้านคน จังหวัดประจวบฯมีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆมากมาย ทั้งทะเล ภูเขา น้ำตก ถ้ำ เขื่อน ดำน้ำดูประการัง วัดต่างๆ นอกจากที่ อ.หัวหินแล้วในตัวเมืองประจวบฯ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น อ่าวมะนาว อ่าวประจวบ อ่าวน้อย อ่าวคั่นกระได แหล่งท่องเที่ยวที่เปิดใหม่อย่างเขาตาม่องล่าย สถานที่กางเต็นท์อ่างเก็บน้ำคลองบึง สะพานสราญวิถี เขาช่องกระจก เขาล้อมหมวก ศาลหลักเมือง วัดอ่าวน้อย คลองวาฬ ศูนย์วิทยาศาสตร์หว้ากอ ด่านสิงขร ฯลฯ แต่ละสถานที่มีประวัติศาสตร์และจุดชมวิวที่สวยงาม เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวและการพักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ส่งเสริมการท่องเที่ยว จ.ประจวบคีรีขันธ์ก็ยังคงมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มข้น

พร้อมกันนี้ได้นำสื่อมวลชนมาถ่ายทำสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบฯ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น มีคนมาท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามน่าสนใจแต่นักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยมีใครรู้จัก เช่น เขาตาม่องล่าย เขื่อนคลองบึง หาดวนกร เกาะจาน น้ำตกห้วยยาง เกาะจาน และ เกาะท้ายทรีย์ อุทยานแห่งชาติหาดวนกร อ.ทับสะแก ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่มีชายหาดสวยงาม กว้างใหญ่ยาวสุดลูกหูลูกตา ชายหาดขาวสะอาด น้ำทะเลใส เงียบสงบเหมือนชายหาดหัวหินในสมัยก่อน มีแนวทิวสนทะเลและสนประดิพัทธ์ทำให้ร่มรื่นเย็นสบาย คลื่นกระทบฝั่งอยู่ตลอดเวลา น้ำใสสะอาดเหมาะสำหรับการเล่นน้ำอย่างมาก และเป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังที่สวยที่สุดในอ่าวไทย ซึ่งทางอุทยานมีการจัดที่พักและเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว มีร้านอาหารทะเลที่แม่ครัวปรุงรสชาติอร่อยมาก มีร้านกาแฟน่ารักๆ บริการคอกาแฟนั่งกินลมชมวิวกันได้อย่างมีความสุข

นอกจากนี้ยังได้ไปตรวจเยี่ยมด่านสิงขรเพื่อดูบรรยากาศการค้าชายแดนระหว่างไทย-เมียนมาหลังจากปิดมาร่วม 2 เดือน หลังจากผู้ว่าฯลงนามในคำสั่งศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา ผ่อนผันการใช้ช่องทางจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมือง เฉพาะการนำเข้าส่งออกสินค้าตามมาตรการโควิดอย่างเข้มงวด โดยกำหนดจุดขนถ่ายสินค้าที่บริเวณแนวสันแดนช่องทางด่านสิงขร ด้านหน้าศาลเจ้าพ่อหินกองใกล้จุดตรวจ ตชด.ที่ 146 ล่าสุดเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยมีความพร้อมอำนวยความสะดวกในการนำเข้าส่งออกสินค้าตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น. โดยเฉพาะสินค้าด้านการประมงเป็นอาหารทะเลแช่แข็งจาก จ.มะริด นำเข้ามากกว่าร้อยละ 80 ขณะที่มูลค่าการส่งออกนำเข้า ก่อนปิดด่านสิงขรที่ผ่านมามีผลประกอบการเดือนละกว่า 200 ล้านบาท เนื่องจากเส้นทางขนส่ง 180 กิโลเมตร มีความสะดวกใช้เวลาเดินทางจาก จ.มะริดถึงด่านสิงขรเพียง 3 ชั่วโมง ขณะนี้ยังไม่อนุญาตให้บุคคลเดินทางผ่านเข้าออกผ่านจุดผ่อนปรนพิเศษ และได้กำชับทุกหน่วยป้องกันปัญหาการลักลอบเข้าประเทศผ่านช่องทางด่านสิงขรและช่องทางธรรมชาติ เนื่องจากช่วงนี้ขบวนการค้าแรงงานเถื่อนข้ามชาติมีความพยายามนำแรงงานเถื่อนลักลอบเข้ามาหางานทำในประเทศ หลังจากภาครัฐยุติการลงทะเบียนแรงงานผิดกฎหมาย.