วันที่ 4 พ.ค.64 เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา (อบจ.) ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีการเร่งรัดให้ทางเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุข อ.เมืองฉะเชิงเทรา เดินทางมาทำการซักประวัติสอบสวนหาความเสี่ยงของโรค และทำการสวอป (Swab) พนักงานและเจ้าหน้าที่ภายในสำนักงาน อบจ. รวมกว่า 400 คน เพื่อส่งไปตรวจหาเชื้อโรคโควิด 19 อย่างเป็นการเร่งด่วน

 

สอบถามจาก นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ได้กล่าวเปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (3 พ.ค.64) ได้รับทราบถึงผลการตรวจหาเชื้อว่า มีพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในสำนักงานกองคลัง อบจ.ฉะเชิงเทรา เป็นผู้ติดเชื้อโควิด 19 และมีผู้มีความเสี่ยงสูงมากถึง 23 คน ซึ่งทำงานอยู่ภายในหน่วยงานเดียวกัน ในวันนี้จึงได้สั่งการให้พนักงานและข้าราชการ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในสำนักงาน อบจ.ฉะเชิงเทรา จำนวนกว่า 200 คน เดินทางมาทำการสวอปเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด 19 ในทันที

 

ส่วนเจ้าหน้าที่ อบจ.อีกกว่า 200 ราย ที่อยู่ภายนอกในหน่วยงานอื่นให้ตัดสินใจเข้ามาตรวจหาเชื้อตามความสมัครใจ เพื่อเป็นการสร้างความสบายใจและความเชื่อมั่นต่อประชาชนที่จะเข้ามาติดต่อราชการกับทาง อบจ.ฉะเชิงเทรา นอกจากนี้ยังอยากเรียกร้องไปถึงยังผู้ป่วยด้วยโรคโควิด 19 หรือผู้มีประวัติสัมผัสโรคและมีความเสี่ยงสูง ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลสู่สังคมเช่นเดียวกันกับตน ที่เคยกระทำมาก่อน เมื่อครั้งที่เป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 รายแรกของ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 15 มี.ค.63 ที่ผ่านมา

 

เพื่อเป็นการสกัดกั้นและลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ที่ได้ผลดีอีกทางหนึ่ง และยังช่วยให้บุคคลภายนอกได้รับรู้ถึงข้อมูลข่าวสารของการแพร่ระบาด ว่าได้เข้ามาสัมผัสเสี่ยงกับผู้ติดเชื้อหรือไม่ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้าง ส่วนอาการป่วยหลังจากที่ได้เคยรับการรักษาจนหายดีแล้วนั้น ตอนนี้ถือว่าร่างกายกลับมาแข็งแรงเป็นปกติดีทุกอย่างอีกครั้งแล้ว นายกิตติ กล่าว

 

และยังกล่าวต่ออีกว่า สำหรับแนวทางในการป้องกันรักษาโรค ที่เชื่อว่าน่าได้ผลดีนั้น รัฐบาลควรจะเปิดโอกาสให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น สามารถจัดสรรงบประมาณมาอุดหนุน ในการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ให้แก่ประชาชนได้เอง ซึ่งจะสามารถกระทำการฉีดเพื่อป้องกันโรคได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็วมากกว่า นายกิตติ กล่าว

 

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวยังได้รับการเปิดเผยข้อมูลจาก จนท.ฝ่ายประชาสัมพันธ์ อบจ.ฉะเชิงเทรา และหัวหน้ากองคลังว่า สำหรับหญิงสาววัย 27 ปี ที่ตรวจพบเป็นผู้ติดเชื้อโควิด 19 นั้น เป็นนักวิชาการการเงินและบัญชีปฏิบัติการ สังกัดกองคลัง อบจ.ฉะเชิงเทรา ติดเชื้อโควิด 19 มาจากแฟนหนุ่มวัย 37 ปี ซึ่งเปิดอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ และได้ไปซื้ออะไหล่รถ จยย.มาจากร้านอะไหล่ ซึ่งมีเจ้าของร้านป่วยด้วยโรคโควิด 19

 

หลังจากทราบผลว่าทางร้านอะไหล่เป็นผู้ติดเชื้อโควิด 19 แล้ว ทาง อบจ.ฉะเชิงเทรา จึงได้ให้หญิงสาวรายนี้ทำงานอยู่ที่บ้าน และแยกตัวออกห่างจากแฟนตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 เม.ย.64 ก่อนที่จะทราบผลการตรวจออกมาเมื่อวันที่ 28 เม.ย.64 ว่าแฟนเป็นผู้ติดเชื้อโควิด 19 แต่ผลการตรวจของหญิงสาวรายนี้ที่ได้ไปตรวจพร้อมกันกลับไม่พบเชื้อ จึงได้ให้เดินทางไปตรวจซ้ำอีกเป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 2 พ.ค.64 ที่ รพ.เกษมราษฎร์ฉะเชิงเทรา และผลการตรวจออกมา เมื่อวันที่ 3 พ.ค.64 ในเวลา 18.00 น.ว่าเป็นผู้ติดเชื้อในที่สุด