วันพฤหัสบดี ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567 08:07 น.

ภูมิภาค

“ร.ร.ขอนแก่นวิทยายน"ปรับตัวเร็ว เปิดสอนออนไลน์ห่างไกลไวรัสโควิด

วันอังคาร ที่ 04 พฤษภาคม พ.ศ. 2564, 15.05 น.

ขอนแก่นวิทยายน ฝ่าวิกฤตโรคห่าโควิด-19 ระบาด เปิดห้องเรียนออนไลน์ให้นักเรียนนั่งเรียนอยู่ที่บ้าน เด็กปลอดภัย ผู้ปกครองสบายใจ โดยนำร่องห้องเรียน EP ไปแล้วตั้งแต่ 27 เม.ย.ขณะที่ห้องเรียนอื่นเริ่มเรียนเปิดเทอมจริง อีกครึ่งค่อยหิ้วกระเป๋าไปนั่งเรียนห้องเรียนจริงที่โรงเรียน

 

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ 4 พฤษภาคม 2564 ที่ห้องห้องเลปเขียว 1027 ชั้น 2 อาคารโครงการ English Program โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน ถนนกลางเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ดร.ยุทธศาสตร์ กงเพชร ผู้อำนวยการ(เชี่ยวชาญ)โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน พร้อมด้วย นางอักษรศรี ชาติศรี หัวหน้าโครงการ English Program  ได้เชิญสื่อมวลชนหลากหลายแขนงเข้าชมการจัดการเรียนการสอนห้องเรียนออนไลน์ หรือ Online Teaching Course ซึ่งจัดสอนนำร่องสำหรับนักเรียนสายชั้น EP พร้อมทั้งพิธีมอบทุนการศึกษา และเกียรติบัตรนักเรียนที่สอบเข้าได้คะแนนสูงสุดระดับ ม.1ใน 3 รายวิชาคือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และภาษาอังกฤษ และนักเรียน ม.4 ที่สอบเข้าได้คะแนนสูงสุด พร้อมได้รับทุนเรียนฟรี โดยมีผู้ปกครองตลอด จนตลอดจนบุคลากรครูที่เกี่ยวข้องร่วมงานดังกล่าว


 

ดร.ยุทธศาสตร์   กงเพชร ผอ.(เชี่ยวชาญ) รร.ขอนแก่นวิทยายน กล่าวว่าต้องขอขอบพระคุณผู้ปกครองคณะครูและตลอดจนสื่อมวลชนที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในการมอบทุนการศึกษา และเกียรติบัตรนักเรียนที่สอบเข้าได้คะแนนสูงสุด ม.1 และ ม.4 ปีการศึกษา 2564 โครงการ English Programโรงเรียนขอนแก่นวิทยายนนั้น เด็กนักเรียนที่สอบเข้า โครงการ English Program ของโรงเรียนขอนแก่นวิทยายนได้ ส่วนทุนที่มอบรางวัลในครั้งนี้คือทุนการศึกษาที่สอบได้ ทั้งม.ต้นและม.ปลาย ซึ่งทางโครงการ English Program ได้กำหนดวันที่มอบทุนการศึกษาให้ เป็นประจำทุกปี สำหรับเด็กนักเรียน สามารถสอบเข้าม.1 โครงการ English Program ได้ ทุนในการมอบคือทุนการเรียนฟรี ตลอดระยะหลักสูตร คือเรียนฟรีตั้งแต่ระดับ ม. 1 ไปจนถึงม.3 คือลูกๆที่ได้ทุนเรียนฟรี ในครั้งนี้คือตลอดหลักสูตรไม่ต้องเสียค่าเทอม จะมีเฉพาะจ่ายค่าบำรุงการศึกษา ส่วนเด็ก มปลายก็เป็นเด็กนักเรียนเก่าของทางโรงเรียนอยู่แล้ว ของโครงการ English Program ที่สามารถสอบเข้า ม. 4 ได้ ก็ได้รับทุนเช่นกัน คือเรียนฟรีตลอดระยะหลักสูตร ส่วนจำนวนนักเรียนที่เข้าสอบใน ม. 1 ในหลักสูตร ep.ในครั้งนี้มีทั้งหมด 191 คน ซึ่งทางโรงเรียนรับได้แค่ 90 คน ส่วนม.ปลาย มีนักเรียนมาสมัคร 125 คน แต่ทางโรงเรียนรับได้แค่ 90 คน เช่นกัน ซึ่งส่วนมากเป็นนักเรียนเก่า ที่สามารถสอบเลื่อนขึ้นมา
  

ดร.ยุทธศาสตร์  กล่าวเพิ่มเติมว่าในส่วนของมาตรการ covid นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบให้ทุกคนหรือทั่วโลกก็ว่าได้ ทั้งทุกอาชีพทุกแขนงทุกกิจกรรม ในส่วนของโรงเรียนขอนแก่นวิทยายนนั้น ได้มีการเตรียมพร้อมในเรื่องนี้มาโดยตลอด ตั้งแต่มีการแพร่เชื้อของ โรคไวรัสโควิค โคโรน่า ตามมาตรการของกระทรวงและของทางราชการ ซึ่งทางโรงเรียนเราก็ได้เข้าร่วมกับทางราชการมาได้ 2 ปีแล้ว ส่งผลกระทบให้หลายๆกิจกรรมต้องมีการปรับ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่แพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ซึ่งทางโรงเรียนเราก็ถือปฏิบัติตามมาตรการมาโดยตลอด ของทางราชการ ไม่ว่าจะเป็นทางรัฐบาล ในการประกาศมาตรการต่างๆออกมา ทางจังหวัดขอนแก่นโดยผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ท่านก็ได้ ทำงานกับเรามาโดยตลอด และอีกอย่างเราก็ได้สนองตามนโยบายของทางราชการ สำคัญที่สุดเราคำนึงถึงผลกระทบที่เกิด กับตัวเด็กนี่คือปัจจัยสำคัญที่เราต้อง ในส่วนที่ เราต้องเลื่อน ประกาศ การสอบนั้น ซึ่งตรงนี้เราก็สามารถปรับและเลื่อนได้ เพราะเราคำนึงถึงความปลอดภัย ต่อสังคมและชุมชน เราก็มีการเตรียมแผนรองรับตลอดเวลา
 

 

ซึ่งมีผู้ปกครองหลายท่านถามว่าจะมีการสอบ ตามกำหนดเดิมไหม ในการประกาศเลื่อนก็ขอกราบเรียนท่านทุกคนว่าขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ในการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ถ้ามีการเลื่อนเราก็พร้อม พร้อมที่จะดำเนินการ แต่ในส่วนของการจัดการเรียนการสอน หรือกิจกรรมอะไรต่างๆเราก็ได้จัดเตรียมการเรียนการสอนไว้แล้ว เพื่อให้ลูกๆ นักเรียนที่ อยู่ที่บ้าน หรือแม้แต่ ครูต้อง work from home ขณะนี้นักเรียนโครงการ English Program ได้ทำการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ เพื่อให้นักเรียนใหม่ที่เตรียมความพร้อมระดับ ม. 1 และ ม. 4 ที่เข้ามาใหม่
   

จึงขอบอกว่าในส่วนมาตรการที่มีการเลื่อน ทางโรงเรียนเราได้มี การเตรียมพร้อม เพื่อจะรองรับการประกาศของทางจังหวัด ได้ตลอดเวลา ถ้าเกิด มีมาตรการได้กลับมาเรียนหรือสอนปกติเหมือนเดิม ทางโรงเรียนเราก็มีการจัดความพร้อมทั้งทางในด้านเรียนออนไลน์และ on site  นั้นคือเรียนที่โรงเรียน โดยมีการเตรียมแผนคือเรียน on site หรือมาโรงเรียนครึ่งหนึ่ง เรียนออนไลน์ครึ่งหนึ่ง หรืออาจต้องสลับวัน เว้นวันในการมาเรียนที่โรงเรียน ทั้งนี้ทั้งนั้น ตามแต่สถานการณ์ของการแพร่ระบาดเชื้อโรค
    

ด้านนางอักษรศรี ชาติศรี นางอักษรศรี ชาติศรี หัวหน้าโครงการ English Program (ep.) กล่าวว่า โครงการ English Program(ep.) ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ  ซึ่งในปีนี้ ได้เปิดการเรียนการสอน เป็นปีที่ 17 ที่ได้ตั้งโครงการนี้มา ส่วนผลสัมฤทธิ์ออกมาค่อนข้างดีมาก เพราะนักเรียนเราทั้งหมดสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ 100% เต็ม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้ตั้งแต่รอบที่ 1 ที่เขาเรียกว่ารอบ portfolio ซึ่งมี 2 มหาวิทยาลัยที่นักเรียนขอนแก่นวิทยายนสอบได้ ก่อนรอบ portfolio ก็คือ รอบ fast track คือ KKU IC และมหิดลอินเตอร์ ถ้าถามว่าคิดว่าเด็กๆที่สอบได้มหาวิทยาลัยสอบได้กี่เปอร์เซ็นต์ กล้าตอบได้เลยคือ 100% เต็ม

 

 

ที่สำคัญ ความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษของเขา นั่นคืออยู่บ้านก็พูดภาษาอังกฤษ คุยกับเพื่อนก็ต้องคุยภาษาอังกฤษเวลาเรียนหนังสือก็คุยเป็นภาษาอังกฤษ เรียนเป็นภาษาอังกฤษหมด ยกเว้นภาษาไทย ถือว่าเก่งมากๆ เพราะ I elts ภาษาอังกฤษ 8.5 I elts ของโลกคือ 9 แต่สูงสุดคือ 8.5 แล้วก็ 8-7 ถ้าได้ต่ำกว่า 7 เขาจะไม่เอาเกียรติบัตรมาให้หัวหน้าโครงการ ไว้โชว์เพราะเขาอาย เพราะมีการแข่งขันกันเยอะมาก ถ้าเรียนต่อปริญญาโท,ปริญญาเอก ที่ต่างประเทศ จะใช้ คะแนนที่ 6.5 ส่วนปริญญาตรีที่ต่างประเทศจะใช้ที่ 5.5 แต่เด็กที่โรงเรียนขอนแก่นวิทยายนได้ 5 ได้เกือบทั้งหมดก็ถือว่าดีมาก
  

อธิบายให้ง่ายๆคือ ทุกวิชาสอนเป็นภาษาอังกฤษหมดยกเว้นภาษาไทย และก็กระตุ้นให้เขาใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน ซึ่งตอนนี้เด็ก โครงการ English Program ก็มีการเรียนออนไลน์ เรียน 5 ชั่วโมง 3 รายวิชา คือคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์และ ภาษาอังกฤษ ขณะนี้กำลังเรียนออนไลน์เป็นวันที่ 8 และอีก 4 วันก็จะครบ 12 วัน ม.1 จะมี 5 กลุ่ม กลุ่มละ 18 คน ส่วน ม. 4 สายวิทย์จะมีอยู่ 4 กลุ่ม และจะมีสายศิลป์ 15 คน  1 กลุ่ม รวมทั้งหมด 10 กลุ่ม ซึ่งกำลังเรียนอยู่ในขณะนี้

 


 

ด้าน ด.ญ.ณัฐธยาน์  คำวิลัยศักดิ์ นักเรียนเก่าโครงการ English Program โรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ที่สอบเข้าเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนขอนแก่นวิทยายนได้ลำดับที่ 1 ในโครงการ English Program (ep.)กล่าวว่า สำหรับการเตรียมตัว เวลาสอบจะมีการอ่านหนังสือมากขึ้น มีการเรียนหนักขึ้น ทั้งเรียนพิเศษ และเรียนรู้ด้วยตนเองที่บ้าน ในส่วนนี้คุณพ่อ,คุณแม่ ก็มีส่วนช่วยเสริม สอนเสริมอยู่ที่บ้านเป็นประจำอยู่แล้ว การเข้ามาสอบ ม. 1 มีความกดดันมากแต่ก็ถือว่ามั่นใจ เพราะเรามีความพร้อมเตรียมตัวมาดี จึงไม่หวั่นใจมากนัก ส่วนเพื่อนๆหรือน้องๆที่อยากจะสอบเข้ามาโครงการ English Program เหมือนตัวเอง คือต้องหมั่นอ่านหนังสือเรียนหนังสือ และมีการเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา แค่เราเตรียมตัวมาดีทุกคนก็ทำได้ ส่วนความฝันโตขึ้นอยากเป็นหมอ ด้านผ่าตัด ของคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  

ส่วนนายเสรี คำวิลัยศักดิ์ พ่อของ ด.ญ.ณัฐธยาน์ กล่าวเสริมว่าพยายามให้น้องอ่านหนังสือทุกวันที่เลิกเรียน เสร็จแล้วจะพยายามสอนหนังสือลูก แค่วันละครึ่งชั่วโมงหรือ 1 ชั่วโมงเป็นต้นไปทุกวัน หรือทำโจทย์ทุกวัน หรืออย่างใดอย่างหนึ่งพยายามเตรียมตัว เราไม่จำเป็นต้องมาหนักในช่วงเตรียมตัวสอบอย่างเดียว ซึ่งจะสอนให้เขาอ่านหนังสือทำทบทวนบทเรียนอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้ตั้งตารางหรือแผนไว้ให้เขาทำเขาทบทวนของเขาเอง เราก็แค่มาเสริมเป็นบางครั้ง ฝึกให้เขามีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเอง คืออ่านหนังสือทุกวันทุกทวนบทเรียนทุกวัน แค่วันละนิดวันละหน่อยแค่นั้นเองครับ ส่วนตัวเองภูมิใจในตัวลูกมากเพราะเขาเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบในหน้าที่ตัวเองมาก และมีความตั้งใจเรียนมาโดยตลอด ก่อนเข้าห้องสอบก็บอกให้เขาทำให้เต็มที่ เพราะในส่วนตัวของผมเองเป็นคนที่สอนลูกทุกวันอยู่แล้ว คือสอนลูกเอง คือช่วงแรกก็จะไม่ให้เรียนพิเศษ เราก็จะสอนและก็พาเขาทำ ช่วงแรกๆเขาอาจจะทำเองไม่ได้ เราก็จะสอนเขาแต่พอช่วงปี ป.4-ป.5 เขาจะมีเริ่มมีความรับผิดชอบเอง ก็จะปล่อยให้เขาหัดทำเอง ได้เราก็จะเบาขึ้น แต่ก็คือถ้าเราสอนเองมันก็จะมีข้อดีมากๆ เพราะเราเลือกเวลาสอนได้ ถ้าเป็นเวลาอ่านหนังสือเขาก็จะไม่เกเรเพราะเขารู้แล้วว่าเวลาไหนเรียนหนังสือเวลาไหนเล่น เขาก็จะมีความรับผิดชอบมากขึ้น

 


  

ส่วนเด็กหญิงพรรวินท์  แก่นศักดิ์ศิริ นักเรียนชั้นม 3 โครงการ English Program รร.ขอนแก่นวิทยายน ซึ่งสามารถสอบเข้าได้ลำดับที่ 1 ระดับชั้น ม.4 รร.ขอนแก่นวิทยายน โครงการ English Program  กล่าวว่าเมื่ออยู่ในห้องตอนครูสอนคุณครูจะถามว่ามีตรงไหนที่บกพร่องหรือไม่เข้าใจบ้าง ดังนั้นเราต้องกลับไปทบทวน ถ้ามีตรงไหนบกพร่องไม่เข้าใจ เราก็กลับมาทำคุณครูใหม่ได้ ส่วนเนื้อหาที่คุณครูสอนก็มีความครอบคลุมอย่างมาก ทำให้ไม่ต้องไปอ่านเพิ่มเยอะ แค่ตั้งใจเรียนในห้อง ก่อนสอบก็มีการอ่านหรือทบทวนอยู่ตลอดเวลา และฝึกทำใจให้สบาย เวลาสอบก็แค่ทำใจให้สบายไม่ตื่นเต้น พยายามทำตัวให้สบาย เพราะมันจะทำให้สมองเราปลอดโปร่งคิดอะไรได้ เพราะไม่ได้กดดันตัวเองมาก หลังเลิกเรียนก็มีการเรียนพิเศษบ้าง ก็เรียนเท่าที่จำเป็น เท่าที่จะใช้ในการสอบ เทคนิคในการบอกเพื่อนๆคือ เรียนเสร็จก็จะมีการ relax พักผ่อนสมองผ่อนคลายความเครียดของตนเอง ให้สมองปลอดโปร่งก็คือ คือพยายามไม่เครียดกับการเรียนให้มาก หลังจากเรียนพิเศษเสร็จก็ทำอาหาร เล่นกับหมา และทำสิ่งที่ชอบ เราจะได้ไม่เครียดไม่ซีเรียสเกินไป ส่วนความใฝ่ฝันตอนโตอยากเรียนบริหารธุรกิจ ที่ มข. เพราะที่บ้านทำธุรกิจส่วนตัว ตัวเองจะได้มาช่วยงานที่บ้านได้
   

ส่วนนายมานะ  แก่นศักดิ์ศิริ พ่อของ ด.ญ.พรรวินท์ กล่าวถึงความรู้สึกว่า ตนก็มีความภูมิใจที่น้องสามารถสอบเข้ามาเป็นคะแนนอันดับหนึ่งได้ แต่ก่อนน้องอยู่ม.หนึ่ง มีความสามารถ สอบได้คะแนน 100 คะแนนเต็ม หรือเกรด 4 เต็มทุกวิชา พอจะขึ้นม .4 น้องเลื่อนลำดับมาอยู่ที่ลำดับต้นก็ถือว่าดี มากกว่าเดิม เทคนิคในการสอนน้องคือ จริงๆก็ไม่มีอะไรมากมาย ให้เขาใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ไม่เข้าใจตรงไหน ก็ให้ถามอาจารย์ในห้องเรียนได้ตลอดเวลา แล้วก็กลับมาทบทวนบทเรียน ที่บ้าน แล้วก็อ่านหนังสือเพิ่มเติม ไม่ให้นอนดึกทำใจให้สบาย ถ้าเรามีการเตรียมพร้อมที่ดีมันก็จะไม่ตื่นเต้นอะไรก็จะสามารถทำได้.

หน้าแรก » ภูมิภาค