เผยภาพวงจรปิดขณะรถสิบล้อฝ่าไฟแดงชนกระบะอย่างจัง คนขับกระบะและคนขับสิบล้อเจ็บสาหัสทั้งคู่ สิบล้อยังเสียหลักไปพุ่งชนตึกแถวข้างทางอีก3 คูหา เจ้าของร้านเผย ระวังแล้วเอารถไปจอดที่อื่น ยังโดนร้าน ตร.อยู่ระหว่างการสอบสวน

วันที่ 1 มิ.ย.64 เมื่อเวลา 03.00 น.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิมชัย เณรธรณี รองสารวัตร(สอบสวน สภ.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถสิบล้อชนกับรถกระบะ บริเวณสี่แยกไปรษณีย์นางรอง ถนนสาย 24 โชคชัยเดชอุดม ต.นางรอง อ.นางรอง จึงประสานหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถสิบล้อทะเบียน 83-5277 อุบลราชธานี ชนกับรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน ถธ 7372 กรุงเทพฯ ทั้งสองคันสภาพพังยับเยิน นอกจากนี้ยังมีตึกแถวข้างทาง เป็นร้านจำหน่ายรถจักรยายนต์ของบริษัท ส.ยานยนต์ ซึ่งมี 4 คู่หา ได้รับความเสียหาย 2 คู่หา และบริษัทสินเชื่อร้านศรีสวัสดิ์ ได้รับความเสียหายทั้ง 2 คูหา

หน่วยกู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างช่วยเหลือคนติดภายในรถทั้งสองคัน ทราบต่อมาคนขับรถสิบล้อคือนายปกรณ์ สาระมู อายุ 32 ปี เลขที่ 127 หมู่ 7 ต ละเอาะ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ส่วนคนขับรถกระบะทราบชื่อ นางจันทรา พูนสุข อายุ 49 ปี เลขที่ 44 หมู่ 1 ต.นางรอง อ.นางรอง ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ต่อมาตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าช่วงนั้นเป็นเวลาประมาณ 03.00 น.บริเวณสี่แยกไฟแดงไปรษณีย์นางรอง ซึ่งเป็นไฟแดงที่บังคับปล่อยรถที่ละฝั่ง ช่วงจังหวะดังกล่าวรถกระบะซึ่งจอดรอไฟเขียวเพื่อต้องการเลี้ยวขวา รถหันหน้าไปทาง อ.หนองกี่ โดยมีรถคันอื่นจอดรอด้วยประมาณ 2-3 คัน

หลังจากมีสัญญาณไฟเขียว รถที่จอดรอ ต่างขับออกไปพร้อมๆกัน โดยรถกระบะของผู้เสียหายได้ขับเลี้ยวขา ทันใดนั้นรถ 10 ล้อคันก่อเหตุ ขับมาด้วยความเร็วโดยไม่มีการชะลอ พุ่งชนรถกระบะอย่างจังแล้วครูดไถลไปตามถนน มีแสงไฟแลบตามตัวรถทั้งสองคัน โดยรถกระบะหมุนเคว้งอยู่จอดอยู่กลางถนน ส่วนรถสิบล้อไปพุ่งชนตึกแถวดังกล่าว

นายเชาวโรจน์ ศาสตร์นอก อายุ 24 พนักงานร้าน ร้าน ส.ยานยนต์ เล่าว่าตนนอนชั้นล่างตึกแถวติดกัน ได้ยินเสียงดังสนั่น เปิดบ้านออกมาดูเห็นสิบล้อพุ่งชนทิ่มบ้านห้องแถวติดกันเป็นร้านศรีสวัสดิ์ จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ ที่ผ่านมาเคยมีเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาก่อน จึงเอารถยนต์ส่วนตัวไปจอดด้านหลัง เพราะเกรงจะเกิดเหตุ สุดท้ายมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจนได้ คราวนี้ทะลุถึงร้าน

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเบื้องต้นรถกระบะเป็นแม่ค้ากลับมาจากซื้อของไปขายจะกลับบ้านที่ อ.นางรอง ส่วนรถ 10 ล้อ ขนสินค้าเบ็ดเตล็ด ยังไม่ทราบว่าเอาไปส่งที่ไหน ซึ่งจะต้องรอการสอบสวนต่อไป