เจ้าของวงดนตรีชื่อดัง วัย 63 ปี ดีใจได้สร้อยข้อมือหนัก 1 บาท ที่หล่นหายไป กลับคืนมา หลังหายไปนานกว่า 1 สัปดาห์ ระบุป้าวัย 67 ปี เจอทองที่ขาเก้าอี้ ในศาลาวัด แล้วเอามาคืนเจ้าอาวาส ไม่น่าเชื่อจุดที่พบทอง มีพระมาเก็บกวาดประจำแต่ไม่มีใครเห็น

วันที่ 18 มี.ค.65 พระครูปลัดทอง ดำกิตติวัณโณ เจ้าอาวาสวัดใหม่สระจุด ต.ทุ่งกระเต็น อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ได้นัดหมายนายทศพล ฉิมจาน อายุ 63 ปี เลขที่ 160 บ้านสระขุด  ม 1 ต.ทุ่งกระเต็น อ.หนองกี่ เจ้าของวงดนตรีชื่อดัง”เด่นนภา”มารับมอบสร้อยข้อมือทอง น้ำหนัก 1 บาท จากนางบัวทอง ช่อกลาง อายุ 67 ปี เลขที่ 217 ม.9 ต.ทุ่งกระเต็น หลังนายทศพล ทำสร้อยข้อมือดังกล่าว หล่นหายไปเมื่อกว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา แล้วนางบัวทอง เก็บได้ส่งคืนให้เจ้าอาวาส
 

นายทศพล เจ้าของทอง เล่าว่า ปกติตนจะมาหาพระครูปลัดทอง เป็นประจำ เมื่ออาทิตย์ที่ก่อน หลังกลับจากวัด พบว่าสร้อยข้อมือที่เคยใส่คู่กับนาฬิกา ได้หายไป จึงคุยกับลูกสาวว่าอยากให้ผู้ใหญ่บ้านประกาศหาให้ ลูกสาวบอกว่า ประกาศเท่าไรก็ไม่ได้คืน เพราะเป็นสิ่งของขนาดเล็กแต่มีค่าขายง่าย

จากนั้นพยายามไล่ไทม์ไลน์ของตัวเองว่าไปไหนบ้าง แต่ก็นึกไม่ออกว่าสร้อยข้อมือหล่นที่ไหน จึงตัดสินใจโทรไปบอกให้พระครูปลัดทอง ว่าสร้อยข้อมือหาย พระครูฯได้แค่รับฟังไว้เท่านั้น เพราะไม่รู้จะไปหาที่ไหน
 

ผ่านไปหลายวันก็ยังคิดถึงสร้อยข้อมือ เพราะเสียดาย งานเล่นดนตรีก็ไม่มีมานานตั้งแต่โรคโควิด-19 ระบาด ไม่มีเงินมาใช้จ่ายในครัวเรือน นักดนตรีต่างกระจัดกระจายไปหางานอื่นทำ

ต่อมาเจ้าอาวาสวัด ได้ส่งภาพสร้อยข้อมือมาให้ดูทางไลน์ แล้วถามว่า”ใช่อันนี้ไหม”ตนดีใจตอบกลับพระครูฯไปว่า”อันนี้เลย”แล้วรีบไปพบพระครูฯ ไปดูสร้อข้อมือ มั่นใจเป็นของตัวเอง และมาทราบว่านางบัวทอง เป็นคนเก็บได้ที่ขาโซฟาไม้ภายในศาลา
 

พระครูปลัดทอง บอกว่า วันที่เจอทอง ได้มีญาติโยมมาถวายอาหารเช้า แล้วมาเก็บกวาดบนศาลา เหมือนคนอื่นที่มาวัดประจำ แล้วมาบอกว่า”เก็บได้ทอง”แต่คงจะเป็นทองปลอมที่มีคนเอามาใส่ในสังฆทาน เพื่ออุทิศกุศลให้ผู้ล่วงลับไปแล้ว  แต่มาตกอยู่

จึงเรียกให้เอาทองมาดู พบเป็นสร้อยข้อมือ เหมือนกับนายทศพล เคยถามมาเมื่ออาทิตย์ก่อน จึงถ่ายภาพแล้วส่งให้นายทศพลดู ดังกล่าว สิ่งที่น่าแปลกใจคือ จุดที่พบทอง อยู่กับขาโซฟาไม้ มีทั้งพระ ทั้งโยม มากวาดถูกเป็นประจำ แต่ไม่มีใครเห็นทองเส้นนี้
 

ด้านนางบัวทอง คนเจอทอง บอกว่า ส่วนตัวเชื่อว่า สาเหตุที่คนอื่นไม่เห็น เพราะเทวดา ยังไม่อยากให้เห็น ดีใจที่เจ้าของทองได้ทองคืน ส่วนตัวไม่เคยคิดอยากได้ของคนอื่น โดยเฉพาะช่วงที่เศรษฐกิจเป็นแบบนี้

ยอมรับว่า ตอนแรกคิดว่าเป็นของปลอม กะจะเก็บเอาไปทิ้งถังขยะ แต่ดูมีน้ำหนักเหมือนของจริง จึงใส่เล่น กะจะว่าจะใส่ให้กับคนที่ล่วงลับไปแล้วตามที่เขาเอามาใส่สังฆทาน พอถึงวันพระจึงจะถอดทิ้ง เมื่อพระครู เห็นพวกตนคุยกันเรื่องทอง หลวงพ่อจึงเดินเข้ามาขอดู แล้วบอกว่า”นี่คือทองจริง”ของนายทศพล