วันที่ 24 มี.ค. 65 ประชาชนชาวตำบลสามพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี กว่า 50 คน นำโดยนายบรรจบ พรหมถาวร ได้เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี เรื่อง "ขอร้องทุกข์จากการถูกขับไล่ที่ดินบนพื้นที่สาธารณประโยชน์แปลงโคกขุมปูน" โดยนำเอกสารหลักฐาน อาทิ หนังสือขออนุญาตใช้พื้นที่เพื่อการดำเนินการจัดตั้งวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก วิทยาเขตอุดรธานี หนังสือขอใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์แปลงโคกขุมปูน หนังสืออุทธรณ์โต้แย้งคัดค้าน, หนังสือเตือนให้ผู้ฝ่าฝืนออกจากที่ดินสาธารณประโยชน์โคกขุมปูน และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในที่ดิน พร้อมชูป้ายข้อความว่า เคยถามชาวบ้านไหมก่อนที่จะมายึดพวกเรา มาขอความเป็นธรรม ขอคัดค้านการรื้อถอนที่ทำกินของชาวบ้านพื้นที่ 500 ไร่ อย่าใช้อำนาจมาทำลายมรดกผืนสุดท้ายเรา

 

 

นายบรรจบ พรหมถาวร ตัวแทนประชาชน เปิดเผยว่า เหตุผลที่มายืนคำร้องทุกข์ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีในวันนี้ เนื่องจากว่าชาวบ้านสามพร้าว ตำบลสามพร้าว ประมาณ 140 ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนจากการที่ทางสถาบันพระบรมราชชนก มาขอใช้พื้นที่จำนวนห้าร้อยไร่ที่ดินสาธารณประโยชน์โคกขุมปูน ตำบลสามพร้าว เรื่องดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 สถาบันพระบรมราชชนกส่งหนังสือมาที่สาธารณะสุขจังหวัด แล้วส่งเรื่องไปอำเภอเมือง วันที่ 7 มีนาคม แล้วอำเภอส่งหนังสือไปที่ อบต.สามพร้าม ไปขอทำเรื่องขอใช้พื้นที่จนวน 500 ไร่

จากนั้นวันที่ 17 มกราคม 2565 อบต.ทำหนังสือแจ้งชาวบ้านให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนแล้วย้ายออกภายใน 30 วัน ซึ่งทางชาวบ้านเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย โดยออกจากพื้นที่ในวันที่ 21 มกราคม 2565 ชาวบ้านเลยทำเรื่องคัดค้านการขอใช้พื้นที่กับ อบต.นวันที่ 31 มกราคม 2565 หลังจากนั้นเราจึงขอพบคณะบริหาร อบต.วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 แต่ อบต. ก็ไม่สามารถที่จะให้แนวทางเราได้ เพียงแต่บอกว่าทำตามคำสั่งตามหนังสือ เราเลยมาวันนี้เพื่อจะร้องทุกข์ผู้ว่าราชการจังหวัด

 

 

นายบรรจบ กล่าวอีกว่า ที่ดินแปลงนี้ชาวบ้านได้มาอย่างไรไม่เคยมีใครมาสอบถาม แต่ชาวบ้านก็มีเอกสารหลักฐานว่าเขาได้รับมรดกตกทอดมา ยกตัวอย่างเช่น นายหนู  อินนาศรี มีเอกสารเป็นที่ดินแบบแจ้งการครอบครองที่ดินตั้งแต่ปี 2498 แสดงว่าเค้าทำมากินมานานแล้ว "ทราบราชการไปขึ้นทะเบียนเป็นที่สาธารณะประโยชน์ นสร.แล้วก็มีหนังสือแจ้งให้อ่านหนังสือสำคัญที่หลวงใน วันที่ 8 พฤศจกายน 2522 นั้นคือหลังจากที่ชาวบ้านไปทำกินมาตั้งนานแล้ว" เราไม่ได้มาร้องเรียนคัดค้านการก่อสร้าง แต่เรามาขอความเมตตาขอความเป็นธรรม อยากให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราได้ลงพื้นที่ไปดูหน่อยว่าชาวบ้านเขาอยู่อย่างไร ตอนนี้ชาวบ้านกลัวมาก

 

 

ตอนนี้เรารู้มาว่าท่านผู้ว่าฯ มีคำสั่งตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 แต่การดำเนินการของทีมงานสืบสวนสอบสวนยังไม่โปร่งใส แล้วท้ายหนังสือผู้ว่าฯ แจงว่าหากตรวจสอบเสร็จแล้ว ให้รายงานเพราะว่าเพื่อตัดสินใจภายในวันที่ 31 มีนาคมนี้ "ถ้าเกิดว่าข้อมูลคณะกรรมการไปทำซึงเราไม่รู้ ไม่รับทราบเลย หากเกิดมาลักไก่หรือเสนอข้อเท็จจริงที่ไม่เป็นความจริงต่อผู้ว่าฯ เราเดือดร้อนแน่นอน"