วันจันทร์ ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2568 02:16 น.

ภูมิภาค

ชลประทานโคราชเผยมีฝายเก่ากว่า 10 แห่ง ใน 2 อำเภอลุ่มน้ำลำเชียงไกรที่ต้องเร่งรื้อถอน

วันอังคาร ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2565, 13.21 น.

ชลประทานโคราช ระบุ มีฝายเก่า กว่า 10 แห่ง ใน 2 อำเภอลุ่มน้ำลำเชียงไกรที่ต้องเร่งรื้อถอน แต่ต้องรอการประชาคมจากชาวบ้านในพื้นที่ มั่นใจหากรื้อถอนแล้วจะทำให้การระบายน้ำในลำเชียงไกร มีความสามารถเต็มศักยภาพลดปัญหาน้ำท่วมในช่วงหน้าฝน

 

 

 

 

 นครราชสีมา วันนี้(14 มิถุนายน 2565) ที่สำนักงานโครงการชลประทานจังหวัดนครราชสีมา นายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครราชสีมา เปิดเผยถึงการดำเนินงานแก้ไขปัญหาทางน้ำในลำน้ำต่างๆว่า สำหรับความคืบหน้าในการเข้าดำเนินการรื้อถอนสิ่งกีดขวางทางน้ำภายในลุ่มน้ำลำเชียงไกร ทั้งในพื้นที่ อ.โนนไทย และอ.โนนสูง ของจังหวัดนครราชสีมา ตามโครงการโคราชไม่ท่วมไม่แล้ง หลังจากได้มีการประชุมหารือร่วมกับนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้ารื้อถอนสิ่งกีดขวางทางน้ำในพื้นที่ทั้ง 2 อำเภอ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ขณะนี้ได้บูรณาการร่วมกันหลายหน่วยงานทำการรื้อสิ่งกีดขวางทางน้ำซึ่งส่งผลให้น้ำไหลช้าหรือทำให้เกิดน้ำท่วม โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานโครงการชลประทานนครราชสีมา สำนักงานชลประทานที่ 8 จังหวัดนครราชสีมา เทศบาลตำบลโนนสูง และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งร่วมบูรณาการเครื่องจักรเครื่องมือ และบุคลากรในการรื้อ ฝายบ้านบัว 2 ต.โนนสูง ซึ่งเป็นฝายเก่าหน้าประตูระบายน้ำบ้านบัว หลังจากที่อำเภอโนนสูงและเทศบาลตำบลโนนสูงได้จัดทำประชาคม ให้รื้อฝายเดิม ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอโนนสูงเป็นประจำ และไม่สามารถเร่งระบายน้ำไปท้ายน้ำได้ ประกอบกับ มีประตูระบายน้ำบ้านบัว ที่สามารถใช้ในการเก็บกักน้ำและระบายน้ำได้ดีกว่า จึงมีความเห็นร่วมกันให้รื้อฝายดังกล่าว ซึ่งเป็นสิ่งกีดขวางทางน้ำออก จังหวัดนครราชสีมา จึงได้บูรณาการเครื่องจักรเครื่องมือและบุคลากร เร่งเข้าดำเนินการ


 

 

 


ทั้งนี้เราคาดว่าจะ ใช้เวลา 7-10 วัน จะดำเนินการแล้วเสร็จ ให้ทันฤดูฝนปีนี้ และสามารถใช้ประตูระบายน้ำให้เต็มศักยภาพของลำน้ำได้ และควบคุมบริหารจัดการน้ำได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งป้องกันความเสี่ยงในการเกิดอุทกภัยในพื้นที่ตัวอำเภอโนนสูงได้ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการรื้อถอนฝายเก่าไม่ได้ใช้งาน ในพื้นที่ ต.กำปัง อ.โนนไทย แล้ว จำนวน 3 จุด จากเป้าหมาย 5 จุด ส่วนในพื้นที่ อ.โนนสูง ยังคงเหลือฝายเก่าที่คาดว่าจะต้องรื้อถอน แต่รอการทำประชาคมจากชาวบ้าน ในพื้นที่ ต.เมืองปราสาท จำนวน 3 แห่ง และ ต.จันอัด อีกจำนวน 6 แห่ง หากฝายเก่าทั้งหมดถูกรื้อถอนจะช่วยให้น้ำสามารถระบายลงลำน้ำมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงหน้าฝนลดปัญหาน้ำท่วมได้ นายกิติกุล กล่าว

 

 

 

 

หน้าแรก » ภูมิภาค