ชาวบ้านเกือบ 100 คนรวมตัวขับไล่พระมหาเดชาธร สุภชโย กนกรัตนาพรรณ รักษาการเจ้าอาวาสวัดอู่ตะเภา  ตำบลหัวนา อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี มีด้วยสาเหตุที่ว่าหลังจากรักษาการเจ้าอาวาสรูปนี้ เข้ามาอยู่ก็ได้กระทำการหลายอย่างโดยไม่บอกกล่าวไม่ปรึกษาชาวบ้าน กรรมการวัดรวมถึงผู้นำชุมชน ให้รับรู้ กระทำการโดยพลการ ทำให้วัดเสียหาย ชาวบ้านรับไม่ได้จึงรวมตัวกับขับไล่ และร้องเรียนไปถึงเจ้าคณะตำบลหัวนา ซึ่งเป็นพระชั้นปกครองให้ย้ายรักษาการ ออกไปแต่ก็ไม่เป็นผลโดยเจ้าคณะตำบล ได้นัดให้มาฟังผลมติที่ประชุมคณะสงฆ์  และวันนี้ชาวบ้านจึงได้มารวมกันที่วัดหัวนา แต่เจ้าคณะตำบลมาช้ากว่าเวลสนัด ทำให้ชาวบ้านที่มารอไม่พอใจ  

 

ชาวบ้านทั้งชายและหญิงหมู่ 1 หมู่ 2 และหมู่ 10 เกือบ 100 คนได้มารวมตัวกันที่ลานหน้ากุฏิพระครูกัลยาณธรรมโชติ เจ้าคณะตำบลหัวนา และเจ้าอาวาสวัดหัวนา เพื่อรอฟังคำตอบจากหลวงพ่อเจ้าคณะตำบล ตามที่นัดหมายไว้ หลังจากที่ พระครูกัลยาณธรรมโชติ เจ้าคณะตำบลหัวนา พร้อมพระปลัดประจักร์ปภาโส  เลขานุการเจ้าคณะตำบลหัวนา เดินทางมาถึงพระปลัดประจักร์ปภาโส  เลขานุการเจ้าคณะตำบลหัวนา ได้ส่งเอกสารคำแก้ต่างของพระมหาเดชาธร รักษาการเจ้าอาวาสวัดอู่ตะเภา ให้ชาวบ้านเปิดอ่านเองจะไม่อ่านให้ชาวบ้านฟังทำให้ชาวบ้านไม่พอใจตะโกนโห่ใส่ เลขาเจ้าคณะตำบลจึงยอมอ่านให้ชาวบ้านฟัง แต่ชาวบ้านก็ยังไม่พอใจ เพราะต้องการให้รักษาการเจ้าอาวาสวัดอู่ตะเภา มาพูดคุยชี้ให้ชาวบ้านฟังด้วยตัวเอง ก็ได้รับคำตอบว่ารักษาการเจ้าอาวาส ไม่กล้ามาเพราะกลัวความสามัคคีของชาวบ้าน  ยิ่งทำให้ชาวบ้านไม่พอใจมากยิ่งขึ้น  

 

เมื่อชาวบ้านสอบถามถึงข้อสรุปว่าเจ้าคณะตำบลได้ดำเนินการอะไรไปบ้าง เพราะชาวบ้านต้องการให้เจ้าคณะตำบล ออกคำสั่งให้รักษาการเจ้าอาวาส ออกไปจากวัด มาจากที่ไหนให้กลับไปที่เดิม หรือพระวัดไหน นำมาก็ให้ไปอยู่วัดนั้น ชาวบ้านอู้ตะเภา ไม่ต้อนรับพระแบบนี้ ถ้าไม่เจ้าคณะตำบล ดำเนินการอะไรไม่ได้หรือไม่ดำเนินการก็ให้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะตำ เสีย ให้พระรูปอื่นมาทำหน้าที่แทน ไม่ใช่มาเข้าข้างกันช่วยเหลือกัน โดยไม่สนความเดือดร้อนของใจชาวบ้าน ถ้าพูดกันดีๆไม่รู้เรื่องก็อย่ามาชาวบ้านไม่ดีก็แล้วกัน  มีปัญหาไม่เคยออกมาพูดคุยกับชาวบ้าน  

 

พระครูกัลยาณธรรมโชติ เจ้าคณะตำบลหัวนา กล่าวว่าได้รับเรื่องร้องเรียนจากญาติโยมชาวบ้านอู่ตะเภา หลายเรื่อง รวมแล้วประมาณ 11 เรื่องโดยร้องว่า รักษาการเจ้าอาวาสวัดอู่ตะเภา กระด้างกระเดื่อง ทำอะไรไม่ปรึกษาญาติโยมชาวบ้านและผู้นำชุมชน ทั้งเรื่องรื้อกุฏิสงฆ์ ซึ่งสภาพยังดี การทุบกระถางต้นไม้ข้างโบสถ์  การจัดงานหลายครั้ง และอีกหลายเรื่อง ซึ่งรักษาการเจ้าอาวาสทำโดยพลการไม่ยอมบอกกล่าวให้ชาวบ้านได้รับรู้ ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจจึงมาร้องเรียน หลังจากได้รับการร้องเรียน อาตมาก็ได้เรียกประชุมฝ่ายคณะสงฆ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อเท็จจริง และอยู่ระหว่างดำเนินการ แต่อาจจะล่าช้าไปบ้างเพราะต้องเป็นไปตามขั้นตอนประกอบกับอาตมาไม่ค่อยสบายต้องเดินทางไปรักษาตัวที่กรุงเทพและวันนี้ก็ได้รับหนังสือชี้แจงแก้ข้องกล่าวหาของชาวบ้าน จากรักษาการเจ้าอาวาส จึงนำมาชี้แจงให้ชาวบ้านทราบแต่ชาวบ้านไม่ยอมรับไม่ให้รักษาการเจ้าอาวาสอยู่อีกต่อไป ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสถานการณ์แบบนี้ทั้งรักษาการณ์เจ้าอาวาสและชาวบ้านคงอยู่ร่วมกันต่อไปไม่ได้อาตมาก็จะให้พระเลขาทำหนังสือความเห็นให้รักษาการเจ้าอาวาส ลาออกจากตำแหน่ง ส่งถึงเจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะจังหวัด เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยกระหว่างวัดกับชาวบ้านขึ้น 

 

ทางด้านชาวบ้านอู่ตะเภา หลายคนเปิดเผยว่าเมื่อก่อนที่วัดอู่ตะเภา แห่งนี้ไม่เคยมีปัญหา ทั้งเจ้าอาวาส หรือพระลูกวัดกับชาวบ้าน เราอยู่กันมาอย่างสงบ และมีความสุข ตามประสาชาวบ้านบ้านนอก แต่พอรักษาการเจ้าอาวาสรูปนี้เข้ามาอยู่ได้ไม่นานปัญหาก็เกิด เพราะรักษาการ ทำอะไรตามอำเภอใจของตัวเอง ทำอะไรไม่ปรึกษาชาวบ้าน กรรมการวัด และผู้นำชุมชน การกระทำของรักษาการ รูปนี้ทั้งเรื่องรื้อกุฏิ ที่ยังดีอยู่ ให้คนมาทุบกระถางล้อมต้นไม้ข้างโบสถ์ การจัดงานต่างๆ ในช่วงสถานการณ์โควิด กำลังระบาด หวงของใช้ในวัดซึ่งเป็นของส่วนรวม เช่นถ้วยชามต่างๆเวลาชาวบ้านมีงานจะมาขอยืม ต้องให้แจ้งล่วงหน้าก่อน 3 วัน ทั้งเรื่องเงินวัด ที่ไปเปิดบัญชีใหม่ โดยให้เหตุผลว่าจะไม่ยุ่งกับเงินในบัญชีเก่าของวัด ซึ่งบัญชีใหม่มีชื่อผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านและ อบต.ร่วมอยู่ด้วย หลังจากเปิดบัญชีใหม่ได้จัดงานทอดผ้าป่า 3 ครั้ง หลังทอดผ้าป่า 3 ครั้งรักษาการเจ้าอาวาสไม่เคยแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านและคนที่มีชื่อร่วมในบัญชีทราบเลยว่ามีเงินเข้าบัญชีกี่บาทและนำเงินไปใช้อะไรบ้าง ไม่เคยแจ้งไม่เรียกประชุม ซ้ำร้ายยังไปร้องเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดอีกว่าผู้นำชุมชนเป็นผู้มีอิทธิพล จะพาคนเข้าไปทำร้ายตัวเอง และยังเตรียมดูข้อกฎหมายจะเก็บค่าเช่าที่กับโรงเรียนวัดอู่ตะเภา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ในเขตวัดมาช้านาน แบบนี้ชาวบ้านจะเอาไว้ได้อย่างไร 

 

หญิงชาวบ้านอู่ตะเภาหลายรายกล่าวด้วยความช้ำใจว่าหลังจากรักษาการเจ้าอาวาส รูปนี้มาอยู่ก็มีแต่ปัญหา เวลาชาวบ้านมีงานจะไปยืมของใช้ในงานก็ไม่ให้ ชาวบ้านไปทำบุญใส่บาตรถวายให้ฉัน เพื่อุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับแต่พระรูปนี้ก็ไม่ฉันแถมยังพูดเสียงดังใส่ชาวบ้านอีกว่า ไม่ฉันข้าวเย็น จะฉันเฉพาะข้าวร้อน แบบนี้ถ้าอยู่ต่อไปชาวบ้านคงต้องมาหุงข้าวที่วัด เพื่อเจ้าอาวาสจะได้ฉันข้าวร้อน ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา   พวกเราชาวบ้านอู่ตะเภาไม่ศรัทธา ไม่ยอมรับอย่างเด็ดขาด