คณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภออู่ทองจังหวัดสุพรรณบุรี ได้จัดกิจกรรมโครงการเพิ่มทักษะการมัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณรีฯ (ผ้าฝ้าย) ให้กับสมาชิกกลุ่มทอผ้าโดยมีนายเสกสรร ถนอมกิตติ นายอำเภออู่ทอง เป็นประธานเปิด มีนางพชรพรรณ มาตรศรี ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภออู่ทอง กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของโครงการ มีนายอดิศักดิ์ มาตรศรี กำนันตำบลพลับพลาไชย พร้อมพัฒนาการอำเภออู่ทอง ร่วมให้กำลังใจ

   

นายเสกสรร ถนอมกิตติ นายอำเภออู่ทอง กล่าวว่าเป็นสิ่งน่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง สำหรับทุกคนที่มีโอกาสได้เข้ารับการอบรมในครั้งนี้ แสดงถึงความมุ่งมั่นของคณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภออู่ทอง ที่จะสร้างโอกาสให้สตรีอู่ทองได้มีการเพิ่มทักษะฝีมือการมัดหมี่ การทอผ้า อันเป็นการสืบสานภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ให้สามารถนำมาเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้แก่สมาชิกสตรีอีกทั้งยังเป็นการขับเคลื่อนนโยบายของทางภาครัฐ ในการส่งเสริมให้มีการสวมใส่ผ้าไทยลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ซึ่งเป็นลายผ้าพระราชทานอีกด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้เข้ารับการอบรมจะได้นำความรู้ความสามารถ ทักษะหรือประสบการณ์ที่ได้ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ต่อครอบครัว และต่อชุมชน สร้างชิ้นงาน และสร้างชื่อเสียงให้คนอู่ทอง ต่อไป 

 

นางพธรพรรณ มาตรศรี ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภออู่ทอง กล่าวว่าตามที่ คณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภออู่ทอง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของงานหัตถกรรมการทอผ้า อันเป็นมรดกทางภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ที่ได้มีการสืบทอดกันมา จากรุ่นสู่รุ่น มาจนถึงปัจจุบัน และเป็นการสนองนโยบายภาครัฐ ในการส่งเสริมการสวมใส่ผ้าทอ ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯอันเป็นลายผ้าพระราชทาน จึงได้จัดทำโครงกรเพิ่มทักษะการมัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริ(ผ้าฝ้าย โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดสุพรรณบุรี วัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มทักษะการมัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ให้แก่สมาชิกที่เข้าอบรมให้สามารถนำความรู้มาใช้ในการมัดลายฝ้ายสำหรับทอได้เองในท้องถิ่น ต่อยอดผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายทอมือเป็นการสร้างงานเพิ่มมูลค่า เป็นการส่งเสริมอาชีพ สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้แก่สมาชิก ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท อู่ทองพลาสม่าเอ็นเนอร์ยี จำกัด ให้ใช้สถานที่ในการฝึกอบรม ,uทีมวิทยากรผู้มีความชำนาญในการมัดหมี่จากจังหวัดหนองบัวลำภู มาเป็นผู้ให้ความรู้แก่ผู้เข้าอบรม ที่มีพื้นฐานในการทอผ้า มีความสนใจและมีใจรักในการทอผ้า เป็นตัวแทนมาจากตำบลบ้านโข้ง ตำบลดอนคา และตำบลพลับพลาไชย จำนวน 21 คน