วันพฤหัสบดี ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567 21:11 น.

ภูมิภาค

เมียช้ำจับโป๊ะผัวไปกับสาว แต่กลับโดนฟ้องเรียก3แสน

วันพฤหัสบดี ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 12.25 น.

สาววัย 39 ปี ร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ ถูกหญิงหมู่บ้านเดียวกันฟ้องเรียกเงิน 3 แสน ฐานหมิ่นประมาททั้งที่ไม่เคยไปพูดหรือเอาไปโพสต์ หลังจากพยายามจับผิดสามีที่มักจะไปกับหญิงคนนี้ สุดท้ายเห็นคาตา จึงถ่ายคลิปเอาไว้เป็นหลักฐาน แต่กลับเป็นฝ่ายโดนด่าและทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บ คาดฟ้องแก้เขิน ที่เจอโป๊ะแตก มาซ้ำอีกหลังฟ้องสามีมาเยอะเย้ย “เดี๋ยวก็รู้”


วันที่ 13 ต.ค.65 น.ส.พิชยา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี อยู่ในพื้นที่ ต.สะแกซำ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้นำเอกสารของศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ถูกผู้หญิงในหมู่บ้านเดียวกันฟ้องฐานหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 300,000 บาท พร้อมนำคลิปภาพมาเป็นหลักฐานขณะถูกทำร้าย


คลิปภาพดังกล่าว เป็นภาพของหญิงสาวคนหนึ่งอายุประมาณ 47 ปี คนหมู่บ้านเดียวกัน นั่งมากับสามีของตนสองต่อสอง จากนั้นฝ่ายหญิงเมื่อเห็นตนกำลังถ่ายคลิปได้เปิดฉากด่าทอตนด้วยถ้อยคำรุนแรง โดยเนื้อหาของคำด่า จับใจความไม่ได้ว่าพูดถึงเรื่องอะไรที่ตนไม่รู้ว่าเขาไปไหนกันมา คล้ายเป็นการแก้ตัวที่มาเจอกับตนโดยบังเอิญ   


น.ส.พิชยา เล่าว่า ก่อนหน้านี้ระแคะระคายมานานว่าสามี ไปยุ่งเกี่ยวกับหญิงคนในคลิป จึงไปซื้อ GPS มาติดรถของสามี ปรากฎว่าพบว่ารถไปจอดที่รีสอร์ตเป็นประจำ แต่ตนไม่มีหลักฐาน ได้แค่บอกสามีว่ารู้ไปไหนเท่านั้น ไม่เคยไประรานหรือไปต่อว่าฝ่ายหญิงแม้แต่ครั้งเดียว


ต่อมาตนได้รับหมายจากศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ว่าถูกนางสุดา (สงวนนามสกุล) ฟ้องฐานหมิ่นประมาท พร้อมกับเรียกค่าเสียหาย 300,000 บาท ตกใจมากเพราะไม่เคยเอาคลิปไปโพสต์ เพราะรู้ดี ผิด พรบ.คอมฯพูดแค่กับสามีเท่านั้น ซึ่งสามีอาจจะเอาไปบอกฝ่ายหญิงต่อ ทำให้เกิดความแค้นแล้วจ้างทนายไปฟ้องตน


น.ส.พิชยา เล่าด้วยว่า ตอนนี้เป็นทุกข์มากที่สุด เพราะต้องลาออกจากการเป็นครูโรงเรียนเอกชน เพื่อมาเลี้ยงลูกวัยขวบเศษ หันมาหาแมลงมาทอดขายประทังชีวิต แต่กลับถูกฟ้อง ไปขอความช่วยเหลือสภาทนายความจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้ไปแก้ต่าง โดยสภาทนายความ ยอมช่วยเหลือขอเงินค่าดำเนินการ 5,000 บาท ตนจึงไปกู้เงินรายวันเอามาจำนวน 10,000 บาท จ่ายค่าสภาทนายความ 5,000 บาท เก็บไว้เป็นค่าเดินทางไปศาลและค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก 5,000 บาท และไม่รู้ว่าคดีความจะเป็นอย่างไร เพราะฝ่ายนั้นจ้างพยานเท็จหลายคนในหมู่บ้าน เพื่อต้องการกลั่นแกล้งตนให้ต้องได้เสียเงิน ตามที่สามีตนพูดลักษณะเหมือนเยาะเย้ยว่า “เดี๋ยวก็รู้”

 

หน้าแรก » ภูมิภาค