วันที่ 27 พฤศจิกายน 65 เวลา 10.30 น. พลเอกหม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล เสด็จเป็นองค์ประธานงานประทานประกาศเกียรติบัตรวิทยฐานะและโล่เกียรติคุณ "ปูชนียบุคคลแห่งชาติกินรีทองคำ" ประจำปีพุทธศักราช 2565 ณ.ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ โดยมี ดร. อำนาจ หมัดสดาย ประธานสมัชชานักจัดรายการข่าววิทยุโทรทัศน์หนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (สว.นท)โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการรณรงค์และส่งเสริมให้เกิดการทำดีในสังคมอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นขวัญกำลังใจและยกย่องบุคคลที่ทำความดีจากหลากหลายสาขาอาชีพทั่วประเทศเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี โดยมีบุคคลหลากหลายสาขาอาชีพเข้ารับรางวัล ในครั้งนี้ 

 

โดยมี ผอ.ฟ้า พรทิพา สุพัฒนุกูล ได้เข้ารับรางวัล "ปูชนียะบุคคลแห่งชาติกินรีทองคำ ", "บุคคลตัวอย่างแห่งชาติ(ครุฑเงิน)","อัครบุคคลแห่งชาติ(พรหมนาคา)" และได้ถวายของที่ระลึกให้กับ พลเอกหม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ในครั้งนี้ด้วย โดยช่วงบ่ายของวันนี้ จะมีการประทานรางวัลและประกาศเกียรติคุณพร้อมโล่รางวัล ในโครงการปฏิธานความดีเพื่อ"แผ่นดินพ่อ"อัครบุคคลแห่งชาติ (พรหมนาคา)ประจำปี 2565 ผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป ส่วนท่านใดไม่สามารถที่จะมาร่วมงานได้สามารถติดตามการถ่ายทอดสดได้ทางฟ้าให้ทีวีช่อง 160 จาน PSI ซึ่งดำเนินการถ่ายทอดมาตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา 

 

ขณะที่ทางด้าน น.ส. พรทิพา สุพฒนุกลู หรือ ผอ.ฟ้า กล่าวว่า ดีใจที่ได้รางวัล ก็ไม่คิดว่าจะได้รางวัลนี้อีก เพราะว่ารอบที่แล้วก็เพิ่งมารับ ที่สำคัญก็สิ่งที่ท่าน ดร. ทำถือว่าเป็นสิ่งที่เราต้องการอยู่แล้ว เพราะว่าอย่างที่เห็นว่าชอบสร้างบุญชอบทำงานเกี่ยวกับด้านการกุศลอยู่แล้วพอหลายๆด้าน มีคนเป็นสะพานบุญเราก็โอเค ก็เลยถือว่าในสิ่งที่ได้ทำไม่ว่าจะเป็นช่วยเหลือเด็กผู้ด้อยโอกาส ทุนการศึกษา หรือ ทางตำรวจชายแดนใต้ หรือแม้กระทั่งเรือนจำ มันเป็นสิ่งที่หลากหลายให้เราเพิ่มบุญเข้าไปอีก เพราะว่าบุญเหล่านี้จะยิ่งทำให้เกิดบารมีแก่ชีวิตของเราด้วย 

 

โดยที่เราไม่คาดคิด สิ่งที่เราทำมาอย่างต่อเนื่อง ก็ไม่ได้คาดคิดว่าผลงานออกมาให้สังคมได้เห็นหรือว่าในองค์กรต่างๆ หรือน้องๆแม้กระทั่งทุกคนก็ พี่ฟ้าอยู่วงการมานาน แต่ทึกคนก็ใช้เวลาเหมือนกัน กว่าจะได้มาเจอและได้รู้จักตัวตนของพี่ฟ้า พี่ฟ้าก็เป็นคนนึ่งที่ตัวเองก็เคยลำบากเคยยากจนมาก่อน เพราะว่าด้วยคุณพ่อเสียชีวิตตั้งแต่เรายังเด็ก แต่สิ่งที่พ่อสอนให้เราเข้มแข็ง ทุกเวลาในการที่ไม่มีพ่อแล้วเพราะพ่อป่วยหลายปี ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต เค้าก็บอกว่า สิ่งหนึ่งให้เราเข้มแข็ง แล้วก็อดทน ขยัน  ถ้าไม่มีพ่อแล้วก็มีตัวแทนพ่อก็คือตัวเราเองนั้นแหละ ในการที่ถ้าเราได้มีโอกาสในการช่วยคน เราก็จะช่วย ถ้าช่วยไม่ได้มากก็ช่วยตามกำลังของเรา เหมืนคนโบราณเขาว่า ช้างขี้ไม่ต้องขี้ตามช้าง แต่ถ้ามันเกิดว่าเราได้มีโอกาสช่วยคน ก็ช่วยไปทีละขั่นตอน ซึ่งก็ไม่คาดคิดว่าสิ่งที่พ่อเหมือนกับสอนเราแต่เป็นคำอวยพร ทำให้เราสำเร็จในชีวิต ในทุกวันนี้ เพราะว่า สิ่งที่หนึ่งการที่เราเป็นผู้ให้มันก็ทำให้เหมือนยิ่งให้ยิ่งได้ 

 

โดยที่เราไม่คาดคิดและสิ่งดีๆก็เกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย พี่ฟ้าก็ทำให้เชื่อเรื่องว่า การที่เราทำบุญอย่างต่อเนื่อง อาจจะเห็นผลช้า แต่เป็นบทพิสูจน์ว่าการทำบุญนี้แหละทำดีได้ดี แล้วก็อาจจะช้ากับการที่เราทำอะไรเหมือนคนที่เขาทำผิด หรือคนทำชั่ว เข้าก็ทำไปเลื่อยๆ ก็เป็นสิ่งที่เราอยากจะบอกให้ฟังว่สบางคนบ่นน้อยใจทำดีไม่เห็นได้ดีเลย แต่พี่ฟ้าเชื่อว่ากานทำดีย่อมได้ดี แล้วหนทางการพิสุจน์ม้ากาลเวลาพิสุจน์คน การทำดีก็ต้องอดทนเพราะความดีไม่มีขายอยากได้ต้องทำเอง แล้วก็อยากให้กำลังใจเด็กๆ เพราะว่าถึงแม้จะเกิดมาจน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือขยันเรียน เมื่อมีโอกาสเรียนก็เรียน เมื่อมีโอกาสอยู่ในสังคมนี้กับสิ่งที่ดีกับผู้คนที่ให้โอกาสก็ทำหน้าที่เรียนให้ดีที่สุด แล้วก็ให้กำลังใจทุกๆคนตำรวจชายแดนใต้ แม้กระทั่งเรือนจำที่ได้ช่วยไปหลายสิ่งหลายอย่างคือความเข้มแข็งอดทน เมื่อเรามีโอกาสเป็นคนดีก็จงทำความดี ทำตามกำลังของเรา และความดีก็จะทำให้เกิดสิ่งดีๆกับชีวิตผู้กระทำ