โคราชธีมเลือกตั้งเทศบาลนครเมืองย่าโมโค้งสุดท้าย กกต.สร้างสีสันเสื้อลายดอกเดินรณรงค์ใช้สิทธิเลือกตั้ง ขณะที่ผู้สมัคร 2 กลุ่มลุยตลาดสดหาเสียงช่วงชิงคะแนนจัดตั้งคึกคัก “เด็กสุวัจน์” ฟิตจับ FC แน่น ด้านเด็ก”มาดามหน่อย”-“อดุลย์” เจ๊สั่งสู้ทุกรูปแบบ

นครราชสีมา วันนี้( 30 เมษายน 2568 ) ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานเปิดกิจกรรมเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์การออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง สมาชิกสภาเทศบาลนครนครราชสีมาและนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา โดยมีนายสุรพงษ์ ทิพย์โอสถ ผอ.กกต.นครราชสีมา , พ.ต.อ.คเชนทร์ เสตะปุตะ กกต.ประจำเทศบาลนครนครราชสีมา รอง ผบก.ภ.นครราชสีมา และนางนงคราญ สุคนธสาคร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลนครนครราชสีมา โดยมีหัวหน้าส่วนงาน เจ้าหน้าที่ นักเรียน และผู้เข้าร่วมเดินรณรงค์รวมกว่า 1,000 คน โดยขบวนรณรงค์เชิญชวนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง สมาชิกสภาเทศบาลนคร นครราชสีมาและนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมาในวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. มีการจัดกิจกรรมสร้างสีสันบรรยากาศให้คึกคักด้วยธีมเสื้อลายดอก มีวงดนตรีเพลงลูกทุ่ง มีการขับร้องเพลง เปิดเพลงลูกทุ่งพื้นบ้าน ทั้งร้อง ทั้งเต้น จัดแดนเซอร์ใส่กระโปงลายดอกสีบานเย็น และชุดไทยประยุค์    

ทั้งนี้กิจกรมดังกล่าวตั้งเป้าหมายในการเลือกตั้งให้เป็นการเลือกตั้งที่มีคุณภาพ และมีความสำคัญต่อประชาชนชาวเทศบาลนครนครราชสีมาทุกคน เพื่อส่งเสริมความเข้าใจ และความพร้อมของทุกภาคส่วนในการเลือกตั้ง เพื่อมุ่งเน้นให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างมีคุณภาพ และ ให้เป็นไปด้วยความสุจริต โปร่งใส และ ชอบด้วยกฎหมาย ภายใต้คำขวัญที่ว่า “สร้างสรรค์ประเทศไทย พร้อมใจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง” โดยจัดขบวนรณรงค์จำนวน 4 ขบวนแห่ไปรอบตัวเมืองเขตเทศบาลนครนครราชสีมา 98 ชุมชน นอกจากนี้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้จัดทำแอปพลิเคชัน Smart vote” เพื่อให้ทุกคน เข้าถึงข้อมูลการเลือกตั้ง ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเป็นอีกก้าวหนึ่ง ในการสร้างอนาคตที่ดีแก่ประเทศไทย ดังเจตนารมณ์ของกิจกรรมในวันนี้ “สร้างสรรค์ประเทศไทย พร้อมใจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง”

นายสุรพงษ์ ทิพย์โอสถ ผอ.กกต.นครราชสีมา กล่าวว่า กิจกรรมนี้ทางเทศบาลนครฯมีการจัดในธีมลายดอกดูแลมีสีสันสวยงาม มีลวดลายหลายหลากสีแสดงให้ถึงความเป็นกลาง บ่งบอกถึงการสร้างจิตสำนึกในการไปใช้สิทธิใช้เสียงอย่างอิสระ ในการรณรงค์มาใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมาและสมาชิกสภาเทศบาลนครนครราชสีมาในวันที่ 11 เม.ย. 2568 โดยพร้อมเพียงกัน ซึ่งเราคาดว่าผู้มาใช้สิทธิไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ส่วนความตื่นตัวตอนนี้ประชาชนผู้มีสิทธิให้ความสนใจในระดับที่ดีอยู่ และเรายังต้องรอดูให้ใกล้ๆวันก่อน โดยตอนนี้เข้าสู่โค้งสุดท้ายแล้ว โดยขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนการฝ่าฝืนกฎหมายเข้ามาอยู่บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่เรื่องการปิดป้ายหาเสียง เรื่องการแจกสิ่งของในห้วง 180 วันก่อนครบวาระ ฉะนั้นเราก็อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน รวมทั้งเรื่องการซื้อเสียงตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานเข้ามา

ขณะที่การหาเสีนงของผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา และสมาชิกสภาเทศบาลนครนครราชสีมา ในช่วงโค้งสุดท้ายผู้สมัครแต่ละกลุ่มออกตะเวณหาเสียงกันอย่างขะมักเขม่น เดินเข้าพื้นที่ตามชุมชนแบบเคาะประตูบ้าน มีการใช้โทรโข่งถือพูดนโยบายที่จะทำ และแจกจ่ายแผ่นพับชื่อผู้สมัคร เบอร์ผู้สมัคร และกลุ่ม โดยทีมโคราชชาติพัฒนา นำโดยนายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา เบอร์ 2 และทีมผู้สมัคร ส.ท.เบอร์ 7-12 ตะเวรลงพื้นที่ในชุมชนต่างๆ รวมทั้งตลาดสด ตลาดขายส่ง ร้านโซห่วย ร้านค้า แผงลอยในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ได้เสียงตอบรับอย่างอบอุ่น มีการทักทายแบบเป็นกันเอง โดยเฉพาะ FC แฟนคลับที่อยู่ในชุมชนยังให้การสนับสนุนด้วยดี โดยขณะเข้าไปในชุมชนหรือตลาดสดชาวบ้านก็จะพูดว่า คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน โดยมีนโยบายต้องการโอกาสจากประชาชนในการพัฒนาโคราชให้เป็นมหานครแห่งโอกาส เป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ การขนส่ง การศึกษา การแพทย์ และการท่องเที่ยวของภาคอีสาน และการเตรียมความพร้อมรับการเติบโตของเมือง เช่น การเปิดใช้มอเตอร์เวย์ การมาถึงของรถไฟความเร็วสูง และการเป็นเจ้าภาพงานพืชสวนโลกในปี 2572 และจะต้องเร่งแก้ไขปัญหาพื้นฐานที่หมักหมม เช่น ขาดแคลนน้ำประปา น้ำเสีย น้ำท่วม และขยะ  โดยในด้านน้ำประปา ปัญหาไม่ได้เกิดจากแหล่งน้ำขาดแคลน แต่เกิดจากท่อส่งน้ำเก่า เสื่อมสภาพ จนเกิดการรั่วไหลสูงถึง 50% ซึ่งตนได้เสนอแผนยกเครื่องระบบประปาด้วยการเปลี่ยนท่อเก่า และใช้เทคโนโลยี DMA ตรวจจับการรั่วไหล พร้อมผลักดันโครงการผันน้ำจากเขื่อนป่าสักฯ มาเสริมลำตะคอง เป็นต้น

ขณะกลุ่มพลังเทศบาลนครนครราชสีมา นำโดยนายอดุลย์ อยู่ยืน อดีตที่ปรึกษา ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ผู้สมัครนายกเทศมนตรี เบอร์ 4 และทีม ส.ท.เบอร์ 13-18 เช่นเดียวกันออกตะเวรเดินหาเสียงตั้งแต่เช้าจรดเย็นและค่ำของทุกวันตลอดสีปดาห์ไปทุกชุมชนมีการพบปะทักทายผู้ประกอบการค้า พ่อค้า แม่ค้า แผงลอย ร้านโซห่วย ร้านอาหาร และตามตลาดสด ขณะเดินหาเสียงพี่น้องประชาชนที่กำลังเดินจับจ่ายมาจับจ่ายใช้สอยเข้ามาทักทายกันอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งมีการอธิบายนโยบายในเอกสารแผ่นพับที่เน้นนโยบายในการมุ่งมั่นทำงานดูแลคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนทั้ง 98 ชุมชนให้ดีกว่าเดิม โดยทิศทางการดำเนินงานความพร้อม อาทิ พร้อมแก้ไขปัญหาโครงสร้างพื้นฐานทุกด้านขยะ น้ำท่วม น้ำแล้งไม่ให้ขาดตกบกพร่อง , พร้อมฟื้นฟูเศรษฐกิจแก้ไขปัญหาปากท้อง สร้างรายได้ให้ท้องถิ่น , พร้อมการมีส่วนร่วม บริหารงานโปร่งใส ตรวจสอบได้ และพร้อมใช้เทคโนโลยี่