เวลา 17.00 น. วันที่ 5 ก.พ.66 ที่วัดห้วยสัก ต.ยางฮอม อ.ขุนตาล จ.เชียงราย พล.ต.ต.ธนธัช น้อยนาค รอง ผบช.สยศ.ตร.ปฏิบัติราชการ ภ.5 พล.ต.ต.ดุลเดชา อาชวะสมิตระกูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย นำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประกอบพิธี ถวายน้ำหลวงอาบศพ  ด.ต.เปรม ตั๋นตุ้ย อายุ 41 ปี ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เวียงชัย จ.เชียงราย ท่ามกลางความโศกเศร้าของบรรดาญาติ และเพื่อนร่วมงาม  

โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบเงินชดเชยให้ครอบครัวของ ด.ต.เปรม  ในฐานะผู้เสียสละขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยได้เลื่อนยศ ขั้นพิเศษ 5 ขั้น 4 ชั้นยศ  เป็น พ.ต.ต. ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้นจะมีเงินงินช่วยเหลือจาก ตร.ภ.5 ภ.จว.เชียงราย และ สภ.เวียงชัย สหกรณ์ตำรวจ ฌานกิจสงเคราะห์ ตร.กองทุนมูลนิธิต่างๆ สมาคมตำรวจ กองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด บำเหน็จตกทอด  เบื้องต้นประมาณ 2,500,000 บาท 

สำหรับเหตุการณ์ยิง ด.ต.เปรม เสียชีวิตเกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าอาจมีผู้มีอาวุธปืนผิดกฎหมายจึงได้เข้าตรวจค้นที่บ้านที่ของนายวุฒิไกร เครือสาร อายุ 36 ปี ที่ บ้านพักหมู่บ้านชัยภูมิ หมู่ 10 ต.เวียงชัย อ.เวียงชัย จ.เชียงราย แต่นายวุฒิไกรได้วิ่งหลบหนีออกไปทางด้านหลังบ้านทำให้ ด.ต.เปรม และพวกวิ่งติดตามไปจนเข้าประชิดตัวจึงถูกนายวุฒิไกรใช้อาวุธปืนยิงก่อนจะวิ่งหลบหนีไปอยู่กลางทุ่งนาและถูกเจ้าหน้าที่ติดตามไปจับกุมได้ช่วงเย็นวันเดียวกันพร้อมยึดของกลางเป็นอาวุธปืนพกสั้น 2 กระบอก ลูกกระสุนอีกเป็นจำนวนมาก โดยในเบื้องต้นทางพนักงานสอสวน สภ.เวียงชัยได้ตั้งหาข้อเบื้องต้นว่า "ฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่หรือได้กระทำตามหน้าที่,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ไดรับอนุญาต,พาอาวุธปืนติดตัวในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ" ซึ่งนายวุฒิไกรให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา.
 

โดยญาติๆ กล่าวว่า ด.ต.เปรม เป็นคนมีน้ำใจรักเพื่อนฝูง  และยังรู้จักคุ้นเคยกับนายวุฒิไกร ผู้ก่อเหตุเป็นอย่างดีเนื่องจากเคยไปทำหน้าที่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาแล้วด้วย ซึ่งเพื่อนร่วมงานและญาติเชื่อว่าช่วงเกิดเหตุ  ด.ต.เปรม พยายามวิ่งไล่นายวุฒิไกรไปตามหน้าที่และเมื่อประชิดตัวได้พยายามเข้าปลุกปล้ำเพื่อจับกุมตัว แต่กลับถูกนายวุฒิไกลชักอาวุธปืนยังที่ท้องและศีรษะจนเสียชีวิตขณะที่ ด.ต.เปรม ยังไม่ได้ชักปืนออกมาโดยปืนยังเหน็บคาอยู่ที่กางเกงด้านหน้า