ปธ.กำนันผู้ใหญ่บ้านเมืองกาญจน์เดือดบุกโรงพักแจ้งความนายทุนลักลอบขุดลำห้วยสาธารณะ ปะทะคารมกับตำรวจหลังไม่รับแจ้งแค่ให้ลงประจำวัน พานักข่าวลงพื้นที่พบลักลอบขุดลำห้วยสาธารณะนำดินปรับที่ส่วนตัวทอดยายติดแม่น้ำแควใหญ่ ร่วม 600 เมตร พร้อมปรับหน้าดินสูง 20-30 เมตร

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 22 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายสยาม รักชาติ ผู้ใหญ่บ้านบ้านวังจาน หมู่ 8 และนายเจริญพงศ์ เปียสนิท ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่ามะนาว หมู่ 2 ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรีว่า มีนายทุนรายใหญ่ใช้เครื่องจักรลักลอบขุดลำห้วยสาธารณะที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันระหว่าง หมู่ 2 และ หมู่ 8 โดยดินที่ขุดได้นำไปปรับพื้นที่ของนายเอง ซึ่งขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ

หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ ไปถึงพบนายอรรถพล แก่นทรัพย์ ปลัดอำเภอเมืองกาญจนบุรีฝ่ายความมั่นคง นายนิติกร แสงทอง ส.อบจ.กาญจนบุรี ว่าที่ร้อยโทนครินทร์ ปรกแก้ว ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลวังด้ง นายนิจสัย แสงทอง กำนันตำบลวังด้ง ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอเมืองกาญจนบุรี นายอุสาห์ รอดหยู่ เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากาญจนบุรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ อส.อ.เมืองกาญจนบุรี และชาวบ้านจำนวนหนึ่ง กำลังตรวจสอบพื้นที่บริเวณลำห้วยสาธารณะที่ถูกนายทุนลักลอบขุดเอาดินไปถมที่ของตนเอง

จากสภาพพื้นที่โดยรอบพบว่าดินที่อยู่ในลำห้วยถูกนายทุนขุดขึ้นไปกองเอาไว้ในพื้นที่ของตนเอง และมีการปรับบริเวณริมลำห้วยฝั่งที่ดินของตนเองสูงถึงตั้งแต่ 10-30 เมตร โดยการขุดเริ่มจากหัวมุมที่ดินฝั่งซ้ายใกล้กับทางสาธารณะทอดยาวไปตามชายที่ดินของนายทุนถึงแม่น้ำแควใหญ่เป็นระยะทางกว่า 600 เมตร โดยคณะทั้งหมดได้ใช้เวลาในการเดินตรวจสอบอยู่ประมาณ 40 นาที จึงแล้วเสร็จ

โดยนายอุสาห์ รอดหยู่ เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพื้นที่ที่อยู่ติดกับแม่น้ำแควใหญ่ ปรากฎว่าพื้นที่ดังกล่าวนั้นอยู่นอกเขตรับผิดชอบของเจ้าท่าภูมิภาคสาขากาญจนบุรี แต่อยู่ในเขตรับผิดชองของ อบต.วังด้ง ดังนั้นผู้ที่ต้องร้องร้องทุกกล่าวโทษต่อผู้กระทำผิดจึงเป็นหน้าที่ของ อบต.วังด้ง” นายอุสาห์ รอดหยู่ เผย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะทั้งหมดได้รวมตัวกันไปพบ พ.ต.อ.เตชินท์ บรรจง ผกก.สภ.ลาดหญ้าฯ และ พ.ต.ท.ธรรมนูญ ธรรมวงศ์ รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.ลาดหญ้า เพื่อนำหลักฐานเอกสารแนวเขตแปลงที่ดินกับแนวเขตลำห้วยสาธารณะ พร้อมภาพประกอบไปมอบให้เพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้แล้วเป็นหลักฐาน แต่ทางตำรวจอธิบายว่า ตอนนี้ทางตำรวจสืบสวนได้เก็บหลักฐานเกี่ยวตัวผู้ถูกกล่าวหาไว้แล้ว รวมถึงพร้อมรับคดีแต่ทางส่วนราชการที่เป็นผู้เสียหายต้องมึเอกสารหรือภาพสำเนาแผนที่ระวางที่สามารถรับรองสถานะที่เกิดเหตุ ว่าเป็นคลองสาธารณะประโยชน์จริงมาประกอบการร้องทุกข์กล่าวโทษ

ซึ่งทางนายนิจสัย แสงทอง กำนันตำบลวังด้ง ได้โต้แย้งเสียงดังว่า ทางกำนันผู้ใหญ่บ้านต่างโต้แย้งว่าพวกตนเป็นผู้นำท้องที่มีหน้าที่ดูแลที่ดินสาธารณะประโยชน์ มาแจ้งความแต่ไม่รับแจ้ง แบบนี้ต่อไปจะทำงานกันยังไง ตั้งแต่เมื่อสานที่ลงพื้นที่ด้วยกัน แต่ไม่ทำอะไร ใช้ไม่ได้

โดยในวันพรุ่งนี้ (23 ก.พ.66) เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยมีเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กก.5บก. ปทส.)ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบด้วย