วันอาทิตย์ ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 04:45 น.

ภูมิภาค

แฉทำกันเป็นขบวนการใหญ่ นายทุน ผู้มีอิทธิพล จนท.รัฐ เก็บปาล์มน้ำมันในป่าสงวนพื้นที่หมดสัมปทานกว่า 2 หมื่นไร่

วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 20.26 น.

วันที่ 17 พ.ค.68 จากกรณีที่มีชาวบ้านและกลุ่มอดีตทหารผ่านศึกมากกว่า 1 พันคน มารวมตัวกันที่ศาลาอเนกประสงค์หมู่บ้าน หมู่ที่ 13 ตำบลหงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร นานกว่า 1 เดือนแล้ว เพื่อใช้เป็นศูนย์รวมทำกิจกรรมเรียกร้องถึงหน่วยงานรัฐและรัฐบาล จากปัญหาสวนปาล์มหมดสัมปทานถูกดองมานานนับ 10 ปี จำนวน 2 แปลง ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่ารับร่อและป่าสลุย ในท้องที่ตำบลหงษ์เจริญ เนื้อที่ 7,109 ไร่ 2 งาน 39 ตารางวา และในท้องที่ตำบลรับร่อ เนื้อที่ 16,256 ไร่ 2 งาน 34 ตารางวา รวมกว่า 23,000 ไร่ นั้น
          

โดยพื้นที่สัมปทานตามสัญญาทั้ง 2 แปลง ได้หมดสัมปทานมานานแล้วตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งบริษัทที่หมดสัมปทานได้ยื่นขอต่อสัญญา แต่ถูกชาวบ้านคัดค้านมาตลอด จนปัญหายืดเยื้อมาถึงปัจจุบันปี พ.ศ. 2568 นานถึง 10 ปีแล้ว แต่ในพื้นที่สวนปาล์มหมดสัมปทานทั้ง 2 หมื่นกว่าไร่ ยังมีนายทุนจากบริษัทใหญ่ ผู้มีอิทธิพล กลุ่มบุคคล เข้าไปจัดสรรผลประโยชน์แบ่งพื้นที่กันดูแลเก็บเกี่ยวผลปาล์มน้ำมันออกมาขายอย่างต่อเนื่อง กอบโกยผลประโยชน์กันเดือนละนับร้อยล้านบาท ขณะที่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเกียร์ว่างปล่อยให้ปัญหายืดเยื้อมายาวนานนับ 10 ปี
          

โดยล่าสุดตัวแทนชาวบ้านในเขตพื้นที่หมดสัมปทานในแปลงตำบลหงษ์เจริญ ได้มีมติจัดตั้งเวรยามบริเวณทางเข้าออกสวนปาล์มหมดสัมปทาน เพื่อตรวจสอบกลุ่มบุคคล นายทุน ที่นำเครื่องจักรและแรงงานต่างด้าวเข้าพื้นที่ลักกลอบตัดปาล์มออกมาขาย เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ให้จับกุม และทำกิจกรรมรณรงค์เรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐและรัฐบาลเร่งดำเนินการ ไม่ต่อสัญญาสัมปทานแล้วนำมาบริหารจัดการและจัดสรรที่ดินทำกินแก่ราษฎรตามนโยบายรัฐบาลต่อไป
          

นายประคอง จิตประสงค์ หรือ “ผู้ใหญ่หยีต” อดีตผู้ใหญ่บ้าน  ตัวแทนชาวบ้านเปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า หลังจากที่ชาวบ้านและอดีตทหารผ่านศึก ออกมาเรียกร้องกรณีสวนปาล์มหมดสัมปทานแต่ปัญหายังถูกปล่อยให้ยืดเยื้อมานานถึงปัจจุบัน 10 ปี ขณะที่ในพื้นที่ยังมีนายทุน ผู้มีอิทธิพล กลุ่มบุคคล นำแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก เข้าไปเก็บผลปาล์มออกมาขายอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าเป็นชาวบ้านตาสีตาสาจะถูกจับกุมทันที จึงอยากให้ผู้นำรัฐบาล หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงมาในพื้นที่จะได้รู้ข้อเท็จจริงจากชาวบ้านว่าทำไมปัญหาจึงถูกดึงให้ยืดเยื้อมานานถึง 10 ปีแล้ว
          

นายประคอง กล่าวต่อว่า ตอนนี้สวนปาล์มพื้นที่แปลงหมดสัมปทานในตำบลหงษ์เจริญ ชาวบ้านมีความเข้มแข็งมาก ได้ตั้งกลุ่มจัดเวรยามคอยตรวจสอบบริเวณทางเข้าออก หากพบนายทุน ผู้มีอิทธิพล กลุ่มบุคคล นำเครื่องจักร นำแรงงานต่างด้าว เข้าไปลักลอบตัดปาล์มออกมาขายให้โรงงาน ก็จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่จับกุมทันที
            

นายประคองกล่าวต่อว่า แต่แปลงหมดสัมปทานในพื้นที่ ตำบลรับร่อ อีกกว่า 1 หมื่นไร่ จากการตรวจสอบ ยังมีกลุ่มบุคคลนำเครื่องจักร แรงงาน เข้าไปตัดปาล์มออกมาส่งขายให้โรงงานกันทุกวัน ซึ่งทำกันเป็นปกติ โดยเมื่อวานที่ผ่านมาพวกตนและชาวบ้านได้เข้าไปถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน มีทั้งรถแบ็กโฮ รถบรรทุกปาล์ม แรงงาน และได้แจ้งให้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับกลับมาแต่อย่างใด ซึ่งพวกตนและชาวบ้านอาจจะต้องนำหลักฐานและปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทั้งหมด ไปรวมตัวกันที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯต่อไป
         

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่สวนปาล์มหมดสัมปทานกว่า 2 หมื่นไร ซึ่งบริษัทฯเจ้าของสัมปทานเดิมได้ยื่นขอต่อสัญญาใหม่ แต่ยังไม่ได้รับพิจารณาเนื่องจากชาวบ้านคัดค้าน ซึ่งปัญหายังยืดเยื้อเรื้อรังมายาวนานจนถึงปัจจุบัน 10 ปี ในขณะที่ต้นปาล์มน้ำมันในพื้นที่กว่า 2 หมื่นไร่ ถือเป็นของป่าอยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ ได้มีนายทุนจากบริษัทใหญ่ และกลุ่มบุคคล ที่มีอิทธิพล เข้าไปจัดสรรแบ่งกันโซนรับผิดชอบ แล้วนำเครื่องจักร แรงงานต่างด้าวจำนวนมาก เข้าไปเก็บเกี่ยวผลผลิตปาล์มน้ำมัน ออกมาส่งให้กับลานปาล์มของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ แล้วส่งขายต่อให้กับนายทุนโรงงานบริษัทใหญ่ โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐบางคน จากหลายหน่วยงานเข้าไปเกี่ยวข้องร่วมมือทำกันเป็นขบวนการใหญ่ มีผลประโยชน์เดือนละมากกว่า 100 ล้านบาท จึงทำให้ปัญหายืดเยื้อมาถึงปัจจุบันนาน 10 ปี ดังกล่าว

หน้าแรก » ภูมิภาค