อยู่ในร่มยังไม่รอดฟ้าผ่าวัวชาวนา อ.ประโคนชัย บุรีรัมย์ ตายรวดเดียว 5 ตัวจาก 10 ตัว ในคอก เจ้าของวัววัย 68 ปีเล่าระทึกเสียงดัง 2 เปรี้ยง ตัวเองโดนแรงสายฟ้ากระเด็นไปโดนรถไถนาได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะมีไฟลุกไหม้ริมคอก พยายามจะหาน้ำมาดับไฟแต่ลุกไม่ขึ้น 5 นาทีกล้ามเนื้อคลายตัวพบว่าวัวในคอกตาย 5 ตัว

วันที่ 29 มี.ค.66 เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายวราชัน ชาวดร ผู้ใหญ่บ้านโคกเพรช ต.โคกม้า อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ มีฟ้าผ่าวัวชาวบ้านตาย 5 ตัวรวด ส่วนเจ้าของวัวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นคอกวัวสร้างขึ้นอยู่กลางทุ่งนา ห่างจากหมู่บ้านโคกเพชรประมาณ 500 เมตรบริเวณดังกล่าวเป็นคอกวัวสร้างติดกัน 2 คอกคอกแรกมีวัวนอนตายอยู่ในรอก 3 ตัวจากทั้งหมด 8 ตัว คอกที่ 2 มีวัว 2 ตัวตายทั้งสอง

บริเวณเสากระท่อมข้างคอกวัว 2 เสา มีร่องรอยการถูกฟ้าผ่าจนเปลือกไม้กระเด็นออกมาหล่นอยู่กับพื้นดิน ชาวบ้านต่างออกมาแสดงความเห็นใจ เจ้าของวัว และรู้สึกหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพบฟ้าผ่ากลางกระท่อมกลางนา จุดลงที่เสากระท่อม 2 เสา

ชาวบ้านที่ออกมาดูต่างเห็นใจเจ้าของวัวที่เสียวัวไปในคราวเดียวถึง 5 ตัว มูลค่าไม่น้อยกว่า 150,000 บาท หลายคนผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะจุดที่ฟ้าผ่าอยู่ในร่มไม่ใช่อยู่กลางทุ่งนา หรือมีต้นไม้ใหญ่

สอบถามนายสนอง วันประโคน อายุ 68 ปี บ่านเลขที่ 67 หมู่ 4 บ่านโคกเพรช ต.โคกม้า อ.ประโคนชัย เจ้าของวัว และเป็นคนประสบเหตุด้วยตัวเอง เล่าด้วยความระทึกว่า

ก่อนฟ้าจะผ่ามีฝนโปรยปรายมาเพียงเล็กน้อย ตัวเองอยู่ในกระท่อมข้างกับคอกวัว กำลังเย็นกระสอบถุงปุ๋ย ทันใดนั้นได้ยินเสียงเปรี้ยง 2 ครั้ง พร้อมกับตัวลอยกระเด็นไปโดนกับรถไถนาเดินตามที่จอดข้างๆ ทำให้บริเวณคางมีรอยแผล

หลังสิ้นเสียงฟ้าผ่า เห็นมีควันไฟลุกขึ้นบริเวณริมคอกวัว พยายามจะลุกขึ้นเอาน้ำไปดับ แต่ลุกไม่ขึ้นต้องนอนนิ่งประมาณ 5 นาที จึงลุกขึ้นมา พบว่าวัวในคอก 2 คอกตายไป 5 ตัวดังกล่าว ยอมรับว่าน่ากลัวมากในช่วงเกิดเหตุไม่คิดว่ารอดชีวิตมาได้ เพราะตนอยู่ติดกันกับคอกวัว หลังจากนี้น่าจะไปทำบุญ

ขณะที่นายวราชัน ชาวดร ผู้ใหญ่บ้านโคกเพรช สาเหตุส่วนตัวคาดว่าเป็นเพราะหลังคาเป็นสังกะสี น่าจะเป็นชนวนล่อฟ้าได้ ส่วนวัวที่ตายบางส่วนน่าเกิดจากรางให้อาหารวัวเป็นสังกะสีเช่นเดียวกัน ซึ่งวัวที่ตายน่าจะกำลังกินอาหาร ส่วนวัวที่รอดอาจจะอิ่มแล้วยืนอยู่ห่างรางอาหาร สำหรับวัวทั้งหมดจะต้องให้ชาวบ้านช่วยกันชำแหละแล้วแบ่งเป็นกองขายราคาถูกให้กับคนทั่วไป