วันที่ 11 เม.ย.66  สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ พบอดีตหนุ่มโรงงาน จ.ชลบุรี ตัดสินใจพาภรรยากลับมาอยู่บ้านเกิด ทำสวนเกษตรผสมผสาน  ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  ตามรอยพ่อหลวง ร.9 ที่หมู่บ้านลันแต้  ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ โดยใช้พื้นที่นาใกล้หมู่บ้านจำนวน 10 ไร่ ด้วยการขุดสระและคลองไส้ไก่ ทำโคกหนองนา 7 ไร่ เพื่อปลูกผลไม้ผสมผสานต่างๆและเลี้ยงปลา แบ่งพื้นที่ไว้ทำนาอีก 3 ไร่  มานานกว่า 5 ปีแล้ว  ทำให้ผลไม้ต่างๆเริ่มเติบโต จากน้ำในคลองไส้ไก่ที่ซึมซับเข้าไปในพื้นดิน ทำให้ดินมีความชุ่มฉ่ำอยู่ตลอดเวลา แทบจะไม่ต้องเปิดน้ำรดต้นไม้  ทำให้พืชพรรณผลไม้เติบโตได้เป็นอย่างดี และปีนี้เริ่มออกผลผลิตให้เห็น ไม่ว่าจะเป็น มะพร้าว มะม่วง ขนุน น้อยหน่า กล้วย และทุเรียนที่กำลังออกดอก คาดว่าปีหน้าจะให้ผลผลิต และที่สำคัญลิ้นจี่ พันธุ์นครพนม 1 กว่า 40 ต้น ที่กำลังสุก  และถือว่าเป็นสวนลิ้นจี่แห่งแรกของอำเภอสังขะ และในจังหวัดก็ว่าได้ ที่มีการปลูกจำนวนหลายต้นและมีผลผลิตให้เห็น ซึ่งผลไม้บางอย่างที่ผ่านมา  ก็สามารถสับเปลี่ยนหมุนเวียนเก็บไปวางขายที่หน้าร้านขายกาแฟของภรรยาที่อยู่ในหมู่บ้าน สร้างรายได้หมุนเวียนได้อย่างไม่ขาดมือ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีในการพลิกฟื้นผืนดินที่แห้งแล้งให้มีความอุดมสมบูรณ์ และมีผลผลิตหล่อเลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี

 

นายวีระ  มณฑล  อายุ 44 ปี เกษตรกรสวนผลไม้ผสมผสาน อยู่บ้านเลขที่ 189 ม.6 ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ลิ้นจี้ตนเองปลูกครบ 3 ปีพอดี เริ่มออกลูก เป็นพันธุ์นครพนม 1 หลักๆตนใส่ปุ๋ยคอก ส่วนระบบน้ำใช้ระบบสปริงเกอร์ ตนรดน้ำวันเว้นวัน  แทบไม่ต้องรด เพราะมีคลองไส้ไก่ที่มีน้ำคอยหล่อเลี้ยงและซึมซับในพื้นดินให้ชุ่มช่ำอยู่ตลอดเวลา ส่วนทุเรียนกำลังออกดอก ลินจี่ปีนี้ยังไม่ขาย  ตนจะเอาไว้กินและแจกญาติพี่น้องก่อน ปีหน้าถึงจะขาย และจะตอนกิ่งพันธุ์ขายด้วย ส่วนสาเหตุที่กลับมาอยู่บ้าน เนื่องจากอิ่มตัวกับงานโรงงาน  จึงคิดกับภรรยาว่าจะกลับมาหาอะไรทำแบบพอเพียงอยู่ที่บ้านเกิด  ตนจึงเปิดร้านปะยางรถยนต์ที่บ้าน ส่วนภรรยาก็เปิดร้านขายน้ำหวาน-กาแฟ  ก่อนจะมีลูกสาวฝาแฝดด้วยกัน  และขุดโคกหนองนา ทำสวนผลไม้ผสมผสาน  จนเริ่มออกผลผลิตหลายชนิด ได้หมุนเวียนเก็บมาวางขายที่ร้านได้ตลอด หากใครสนใจจะมาดูงานก็ยินดี สามารถติดต่อตนได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0861428830