วันที่ 21 เม.ย.66 เมื่อใกล้ถึงวันฮารีรายออีดิลฟิตรี ทุกบ้านจะทำขนมเพื่อเตรียมรองรับแขก หรือญาติมิตรที่มาเยี่ยมเยียน ขนมในวันรายอมีหลากชนิดแล้วแต่ความประสงค์ของเจ้าภาพ บ้างทำตูปะ ข้าวต้มเหนียวใบกะพ้อ บ้างก็ทำปูโละลือแม ข้าวหลามบาซูก้า  บ้างทำวุ้น กูเวฮางิ หรือ สังขยาน้ำตาลไหม้  หรือขนมชนิดอื่นๆ อีกมากมาย

 

ส่วนบ้านไหนที่คุณแม่บ้านไม่มีเวลาทำ ก็จะต้องหาซื้อตามร้านขนม ร้านอาหาร ที่มีจำหน่ายเฉพาะในห้วงท้ายของเดือนรอมฎอน เพื่อต้อนวันฮารีรายออีดิลฟิตรี  โดยเฉพาะที่ร้านเก๊าะ  ตั้งอยู่สีแยกตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา  เป็นร้านที่ได้รวบรวม กูเวรายอ  มาจากหลากหลายพื้นที่ ใน อ.เบตง มาจำหน่ายหน้าร้านให้กับผุ้ที่จะซื้อไปทานหรือซื้อไปเป็นของฝาก หรือซื้อใว้รองรับแขกที่มาเยี่ยมเยียนที่บ้านในวันฮารีรายอที่ใกล้จะมาถึงนี้

 

น.ส.เดียนา รอเซะ แม่ค้าขายขนมรายอ เล่าว่า  ขนมรายอ หรือ ขนมที่ชาวมุสลิมในพื้นที่ เรียกว่า กูเวรายอ เป็นขนมทานเล่น ทำเพื่อรองรับแขกที่มาเยี่ยมเยียน หรือแจกจ่ายให้เพื่อนบ้านในวันฮารีรายอของชาวไทยมุสลิม โดยกูเวรายอที่นำมาขายส่วนใหญ่จะเป็นกูเวของกลุ่มแม่บ้านในพื้นที่ อ.เบตง ที่ได้รวมกลุ่มกันทำโดยใช้เวลาในช่วงเดือนรอมฎอน ทำกูเว หลากหลายชนิด อาทิ ขนมไข่  ขนมกลีบลำดวน  ขมมผูกรัก ขนมรังผึง เปาะเปี๊ยะ คุกกี้ช็อคโกแลตชิพ  ขนมถั่วอัด ถั่วกวน ถั่วทอดกรอบ  และขนมอื่นๆอีกมากมาย  นำมาฝากขายที่ร้านของตน มีราคาเริ่มตั้งแต่ 3 กล่อง 100 บาท กล่องละ 50 บาท และกล่องละ 100 บาท   ทำให้ช่วงนี้มียอดขายที่ดีมากๆ 

 

กูเวรายอ เป็นขนมที่กินหลังจากรับประทานข้าวหมก หรือ ข้าวหลาม ข้าวต้มเหนียวจิมแกงแล้ว จากนั้นก็จะกินกูเวรายอจิบกับน้ำชาร้อนๆ เพิ่มความอร่อยมากยิ่งขึ้น  โดยกูเวรายอ นี้ไม่เพียงแต่ทำกินรับรองแขกเท่านั้น ยังเป็นขนมที่รู้จักกันดีและนิยมแพร่หลาย ใช้เป็นขนมในการจัดขันหมากในพิธีแต่งงานของชาวไทยมุสลิมอีกด้วย

 

อย่างก็ตาม สำนักจุฬาราชมนตรีได้ประกาศให้ดูดวงจันทร์ ในวันที่ 20 เมษายน 2566 นี้ ถ้ามีบุคคลเห็นดวงจันทร์ ก็จะถือว่าวันถัดไปเป็นวันฮารีรายอ คนทั่วโลกที่นับถือศาสนาอิสลามก็จะฉลองและทำพิธีละหมาดอีดิลฟิตตรีพร้อมกันในเวลาเช้าโดยพร้อมเพรียงกันรวมทั้ง ได้พบปะสังสรรค์กับเพื่อน ญาติพี่น้อง เพื่อขออภัย ( มาอัฟ )ซึ่งกันและกัน