เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่  1 พ.ค. 66 ที่ผ่านมาบริเวณสนามกีฬาเทศบาลเมืองสระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว นางขวัญเรือน เทียนทอง ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระแก้ว เขต 1 เบอร์ 4 พร้อมทีมงานหาเสียงของพรรค ลงพื้นที่เปิดเวทีปราศรัยหาเสียง โดยมี นายฐานิสร์ เทียนทอง นายก อบจ.สระแก้ว บุตรชาย  เดินทางมาช่วยปราศรัยหาเสียง โดยทีมงานของผู้สมัครได้ขึ้นเวที นำนโยบายของพรรคพลังประชารัฐมาบอกกล่าวและแจ้งให้ชาวบ้านในพื้นที่ ต.สระแก้ว ต.หนองบอน  อ.เมืองสระแก้ว เกือบ 5,000 คน ได้รับทราบ โดยเฉพาะแนวนโยบายการขับเคลื่อน 3 นโยบายหลัก ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ตั้งใจมอบให้กับประชาชนหากได้เข้าไปเป็นรัฐบาล อาทิตามสโลแกนของพรรค “ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่” เน้นย้ำเรื่องการสานต่อนโยบาย มุ่งเน้นแก้ปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ โดยเฉพาะนโยบายเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจาก 300 บาท เป็น 700 บาท และเพิ่มเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจาก 600-700 บาท เป็น 2,000-3,000 บาทต่อเดือน ที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีเนื่องจากเข้าถึงประชาชนคนรากหญ้าชัดเจน

ทั้งนี้หลังนางขวัญเรือน เทียนทอง และทีมผู้สมัครเดินทางมาถึง ได้ออกพบปะทักทายกับชาวบ้านและประชาชนที่มาร่วมเวทีปราศรัยฯทันที พร้อมรับมอบดอกไม้และพวงมาลัยดอกดาวเรืองให้กำลังใจ ก่อนเริ่มเปิดเวทีปราศรัย เวลาประมาณ 18.00 น.เศษ โดยนายฐานิสร์ เทียนทอง นายก อบจ.สระแก้ว ได้ขึ้นเวทีปราศรัยก่อนเพื่อขอคะแนนจากคนตำบลสระแก้วและตำบลหนองบอน  ซึ่งเป็นฐานคะแนนเสียงหลัก ให้กับนายแม่ขวัญเรือน เทียนทอง เพื่อให้ได้เป็น ส.ส.เขต 1 โดยนายฐานิสร์ บอกว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาตนเองกับน้องสาว “ตรีนุช เทียนทอง” ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ลูกหลานชาวสระแก้ว ก็มีโอกาสได้เข้าไปเป็น ส.ส. ก็ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งก็สามารถทำงานได้อย่างดีตลอด 2 ปีที่ผ่านมา สามารถนำโครงการต่าง ๆ และงบประมาณมาพัฒนาด้านการศึกษาในพื้นที่ได้ไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท

นายฐานิสร์ กล่าวอีกว่า สำหรับตนเองเป็น ส.ส.มา 6 สมัย 26 ปี ที่ชาวบ้านไว้วางใจ และไม่เคยปฏิเสธการช่วยเหลือจากใคร สิ่งที่ตนยึดถือและปฏิบัติมาตลอด คือความเสมอต้นเสมอปลาย ตนไม่เคยปฏิเสธ และที่ผ่านมาคนที่ทำงานอยู่เบื้องหลังของตระกูลเทียนทองตั้งแต่ท่านเสนาะ เทียนทอง ที่มีการชักชวนลูกหลานไปเล่นการเมือง  ผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการดูแลพวกเราชาวสระแก้วมาโดยตลอดคือคุณแม่ขวัญเรือน เทียนทอง  ซึ่งท่านอบรมสั่งสอนพวกเราเสมอมาว่า ทำให้เป็นแบบอย่างที่ดี เราจะต้องเป็นผู้มีจิตอาสา เพราะงานการเมืองนั้นเป็นงานอาสา ไม่มีใครใช้ ไม่มีใครบังคับให้เรามาทำงาน เรามาจากประชาชนเราก็ต้องตอบแทนบุญคุณของพี่น้องประชาชน ห้ามบอกว่าเหนื่อย ห้ามบอกว่าท้อ เพราะฉะนั้น ก็ให้ทำหน้าที่ด้วยความซื้อสัตย์สุจริต และได้พยายามผลักดันถนน แหล่งน้ำและความเจริญต่าง ๆ มาสู่จังหวัดสระแก้วของเราอย่างต่อเนื่อง “วันนี้ผมดีใจและอยากจะฝากคุณแม่ขวัญเรือน เทียนทอง ซึ่งคุณแม่นั้นถือว่า เป็นผู้หญิงเก่งและแกร่ง มีความเป็นผู้หญิงและผู้ชายในคนเดียวกัน ตั้งแต่เล็กจนโตคุณแม่จะทำงานทั้งงานในบ้านก็เรียบร้อย คุณแม่เป็นนักบริหาร ตอนนี้ได้สละทุกสิ่งทุกอย่างให้น้องชายเข้ามาบริหารแทน มาสมัครเป็นนายก อบจ.สระแก้ว ได้ 2 ปี ก็ได้มีการวางแผนโครงการ วางยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะเรื่องโอท็อป รัฐวิสาหกิจชุมชน เรื่องดูแลผู้พิการผู้ยากไร้ ซึ่งแม่ได้ทำไว้เรียบร้อยแล้ว ผมก็จะเข้าไปสานต่อ วันนี้ก็เป็นโอกาสสำคัญอีกโอกาสหนึ่งที่ท่าจะอาสาพี่น้องชาวสระแก้ว พี่น้องชาวตำบลสระแก้วตำบลหนองบอน ไปทำหน้าที่ในสภาอันทรงเกียรติ เพราะว่าท่านได้มีโอกาสเข้ามา สมัคร สส.สระแก้วเขต 1 เบอร์ 4  ดังนั้น ผมเลือกแม่ได้คะแนนเดียว ไม่สามารถส่งแม่ไปเป็นผู้แทนราษฎรได้ คนที่จะส่งแม่ไปเป็น ส.ส.ได้อย่างสมเกียรติและสมศักดิ์ศรี ก็คือพี่น้องชาวตำบลสระแก้วและตำบลหนองบอนเท่านั้น ขอฝากพี่น้อง 2 ตำบล ได้ช่วยแม่ขวัญเรือน เทียนทอง เบอร์ 4 ด้วยนะครับ

ทางด้าน นางขวัญเรือน เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.สระแก้ว เขต 1 กล่าวบนเวทีเป็นภาษาอีสาน หลังทีมงานเปิด VTR ประวัติการทำงานจบ โดยนางขวัญเรือน บอกว่า “ขวัญเรือน เทียนทอง ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชารัฐ สระแก้ว เขต 1 เบอร์ 4 ” คำว่าผู้แทนราษฎรคือการอาสา ไม่มีใครบังคับ ไม่มีใครจ้าง คือจิตอาสา เป็นนิสัยของพวกเทียนทอง ซึ่งทำกันมาตั้งแต่สมัย ป๋าเหนาะ อาสามาตลอด มีอะไรก็ต้องนึกถึงสระแก้ว เพราะเราเกิดสระแก้ว เป็นลูกหลานสระแก้ว เกิดอยู่ที่นี่ก็จะตายที่นี่ล่ะค่ะอยากเข้าไปทำงานเพื่อพี่น้องชาวสระแก้ว อย่าลืมส่งแม่เข้าสภาผู้แทนราษฎร ด้วย แค่ปลายปากกาของท่านเท่านั้น เหมือนกับตอนที่ส่งแม่เข้าไปเป็นนายก อบจ.ในวันที่ 14 พ.ค.ขอให้เข้าคูหาช่วยกาเบอร์ 4 ด้วยคะ