นครราชสีมา วันนี้ (8 สิงหาคม 2566)  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 นครราชสีมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรวังน้ำเขียว  ผู้นำชุมชน ชาวบ้านในพื้นที่ และนางสิริญาวดี  สิริธนคุณาภรณ์ อดีตข้าราชการสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เจ้าของที่ดินไร่วังตะวัน ในพื้นที่หมู่ 12  ต.ระเริง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา หลังจากเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เพื่อยื่นหนังสือต่อ พ.ต.ท.จิตรกร โพธิ์คำ รอง ผกก.สอบสวน สภ.วังย้ำเขียวฯ พร้อมประสานร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้ำเขียวฯ นำโดย พ.ต.ต.อณุรักษ์ มุ่งชัยภูมิ สารวัตร(สอบสวน) สภ.วังน้ำเขียวฯ เพื่อร่วมในการตรวจสอบที่ดินพิพาทที่ดินไร่วังตะวันดังกล่าว โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง , เจ้าหน้าที่สำนักงานป่าไม้ที่ 8 และ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 12  ต.ระเริง จำนวนกว่า 10 นาย ได้เดินทางลงตรวจสอบพื้นที่และได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ข้างเคียงไร่วังตะวัน ของนางสลิด สุริงาม เพื่อทำการรังวัดที่ดินดังกล่าวให้มีความชัดเจน หลังจากนางสิริญาวดีฯได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบที่ดินของนางสลิดฯ ว่าอยู่ในเขตพื้นที่ใดกันแน่ หลังนางสลิดอ้างว่าเคยเป็นเจ้าของที่ดินบริเวณไร่วังตะวันมาก่อน
 

สำหรับพื้นที่ไร่วังตะวันที่เกิดข้อพิพาท มีพื้นที่จำนวนกว่า 131 ไร่ ระหว่างพระสงฆ์กับเจ้าของที่ดินเดิม คือ นางสิริญาวดี สิริธนคุณาภรณ์ ซึ่งเจ้าของที่ดินเดิม ต้องการที่จะทวงคืนพื้นที่ดังกล่าวคืน หลังเคยตั้งใจบริจาคให้ใช้พื้นที่เพื่อสร้างเป็นวัด และทำประโยชน์ทางพระพุทธศาสนา แต่กลับถูกนำไปใช้ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่เคยตั้งใจไว้ เจ้าของที่ดินเดิมจึงดำเนินการฟ้องร้องขอทวงพื้นที่คืน และประสานขอให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าร่วมตรวจสอบพื้นที่ และบริเวณที่ดินข้างเคียงของชาวบ้านเพื่อความชัดเจน
 

          
นางสิริญาวดี  สิริธนคุณาภรณ์ เจ้าของที่ดินเดิม  เปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดิน สปก.มีทั้งหมด 131 ไร่ โดยมีเจ้าของ 3 คน คือ ตนเอง ลูกชาย และบิดาของตน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองใช้ประโยชน์ในที่ดินเพื่อทางการเกษตร แต่มีจิตศรัทธาตั้งใจที่จะบริจาคที่ดินดังกล่าวเพื่อเป็นสาธารณสงฆ์ตั้งแต่ปี 2560 โดยหวังว่าการสร้างวัดหรือสำนักสงฆ์เพื่อบำรุงพระพุทธศาสนา แต่ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน พระที่เข้ามาดูแลพื้นที่ไม่ได้ทำตามเจตนารมณ์ดังกล่าว ตนจึงออกมาเรียกร้องดำเนินการขอคืนที่ดินและขอความเป็นธรรมกรณีพิพาท ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ตนเองเสียชื่อเสียงอย่างมาก สังคมมองว่าตนเองเป็นคนไม่ดี ตนจึงอยากจะออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม และกู้ชื่อเสียงที่เสียไปกลับคืน
 

        
ขณะที่พระภิกษุสงฆ์ที่ดูแลพื้นที่ดังกล่าว เปิดเผยว่า พระสงฆ์ไม่ได้มีเจตนาที่จะขัดแย้งกับชาวบ้าน แต่ในเมื่อพื้นที่ดังกล่าวกำลังมีข้อพิพาท พระสงฆ์ก็พร้อมที่จะออกจากพื้นที่ไปจำวัดที่อื่นก่อน เพื่อให้ได้ข้อสรุป โดยอยากให้ทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบเพื่อความชัดเจน และเพื่อความสบายใจของเจ้าของที่ดิน