เวลา 09.30 น.วันที่ 21 กันยายน 2566 ที่ห้องประชุมสำนักงานยุติธรรมจังหวัดตราด นางสาวกาญจนา คำสัวรรณ ผู้อำนวยการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดตราด(ป.ป.ช.ตราด)พร้อมเจ้าหน้าที่ เปิดการแถลงข่าวผลการดำเนินงานของป.ป.ช.ตราด ทั้งกลุ่มภารกิจปราบปรามการทุจริตและกลุ่มงานป้องกันการทุจริตรอบ 12 เดือน มีสื่อมวลชนท้องถิ่นตราดและเครือข่ายร่วมกว่า 100 คน 

นางสาวกาญจนา กล่าวว่า ตามภารกิจและหน้าที่ของสำนักงานป.ป.ช.ตราดที่เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทหน้าที่ในเรื่องการป้องกัน และปราบปรามการกระทำทุจริตของหน่วยราชการ และองค์กรปกครองท้องถิ่นนั้น จากการดำเนินงานมาในรอบ 1 ปี มีเรื่องราวร้องเรียนมายังสำนักงานจำนวน …เรื่อง และได้มีการดำเนินการไต่สวน หาข้อมูลเพิ่มเติม ลงพื้นที่หาข้องเท็จจริง และดำเนินการจนสิ้นสุด ในปี 2566 (รวมปี 2565ที่ยกยอดมา )แล้วจำนวน 71 เรื่อง ดำเนินการพิจารณาและหาข้อเท็จจริง แล้ว 22 เรื่อง และสามารถดำเนินแล้วเสร็จไปแล้ว 1 เรื่อง ส่วนเรื่องที่ได้มีสื่อมวลชนสอบถามถึงการดำเนินการของป.ป.ช.ตราดเกี่ยวกับร้านกาแฟและรีสอร์ทที่ก่อสร้างบนสะท่าเทียบเรือทรัพย์ชโรทร อ.คลองใหญ่ จ.ตราดนั้น หลังปรากฏบนสื่อออนไลน์ ท่าเทียบเรือทรัพย์ชโลทร (ท่าเทียบเรือชโลม) และได้มีการร้องเรียนขึ้น โดยระบุว่า เจ้าของท่าเรือทรัพย์ชโรทรได้มีการดัดแปลงท่าเทียบเรือให้เป็นร้านกาแฟและที่พัก ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตราด ได้ลงพื้นที่ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566  และได้ข้อมูลว่า ส่วนที่ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินคดี และมีการรื้อถอน ในส่วนที่ไม่ได้รับอนุญาตเรียบร้อยแล้ว โดยมีบางส่วนที่ยังมีข้อพิพาท ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และส่วนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่เป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. สำนักงานจังหวัดตราดดำเนินการเสร็จแล้ว รอผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ต่อไป  ส่วนใครจะผิดนั้นต้องรอการสอบสวนของคณะกรรมการป.ป.ช.ในส่วนกลางว่าจะมีคำสั่งอย่างไร 

ขณะที่นายวิจิตร พาพลงาม นายอำเภอคลองใหญ่ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ ทางกรมเจ้าท่าได้ทำหนังสือถึงอำเภอคลองใหญ่ระบุว่า เมื่อกลางเดือนสิงหาคม 2566 กรมเจ้าท่าได้ทำหนังสือถึงเจ้าของท่าเทียบเรือทรัพย์ชโรทรว่าให้ดำเนินการรือสิ่งปลูกสร้างทั้งร้านกาแฟ และรีสอร์ทที่พักที่ปลูกสร้างอยู่บนท่าเทียบเรือทั้งหมดภายใน 15 วัน หลังจากได้รับหนังสือ ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งทางปกครอง ที่เจ้าของท่าเทียบเรือสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองได้ ส่วนจะดำเนินการหรือไม่นั้น เป็นสิทธิของเจ้าของ อย่างไรก็ตาม การที่เจ้าท่าทำหนังสือมาครั้งนี้แสดงว่า ผิดจริง และถ้าหากเจ้าท่าไม่ดำเนินการก็จะผิดกฎหมายฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งคำสั่งที่ออกมาถือว่า ชอบแล้ว ทั้งนี้ ผู้เป็นเจ้าของท่าเทียบเรือยังไม่มีการรื้อสิ่งปลูกสร้างที่เป็นรีสอร์ท และร้านกาแฟในขณะนี้ แต่เรื่องนี้โดยความเห็นส่วนตัวแล้ว หลักฐานมันชัดเจนและผิดกฏหมาย 100%ยากที่จะหาช่องทางกฏหมายอื่นมาพลิกได้ และหากมีการฟ้องร้องผ่านขั้นตอนแล้วหากเป็นคำสั่งศาลแล้วจะเกิดปัญหากับเจ้าของท่าเรือมากกว่า 

นอกจากนี้ ป.ป.ช.ตราด ยังได้กล่าวเน้นย้ำในเรื่องการตรวจสอบบัญชี้ทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของจังหวัดตราด ที่จะแสดงบัญชีให้ป.ป.ช.ตราด เพื่อประกาศให้ประชาชนรับรู้ โดยระดับอบจ. ได้แก่ นายอบจ.,เทศบาลเมือง ได้แก่ นายกเทศมนตรี,รองนายกฯ และสมาชิกสภาเทศบาล และสุดท้ายเทศบาลตำบล ได้แก่นายเทศมนตรี กับรองนายกอบจ.ส่วนอบต.ให้นายอบต.และรองนายกอบต ทั้งนี้สามารถยื่นให้แล้วเสร็จและมีกำหนดเปิดใช้ระบบใหม่ในวันที่ 1 ตุลาคม 2566 นี้