เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ฝนตกหนักต่อเนื่องมาเป็นเวลานานหลายวันในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์  ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ ต.ท่าเสา อ.เมืองอุตรดิตถ์ โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ 4 บ้านหนองคำฮ้อย และ  หมู่ 9 บ้านหนองหิน บ้านหนองช้างเพรียง ส่งผลทำให้พื้นที่การเกษตรปลูกข้าวเกือบ 1,000 ไร่ รวมถึงพื้นที่อยู่อาศัยของราษฎรได้รับความเดือดร้อน นางชุติมา  อาจณรงค์กร  นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าเสา  ได้รายงานให้นายประเดิม เดชายนต์บัญชา นายอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ รับทราบ พร้อมลงพื้นที่ร่วมกับนายนพฤทธิ์  ศิริโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ตรวจเยี่ยมและให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร โดยมีหน่วยงานจากทหารในสังกัดมณฑลทหารบกที่ 35 “ค่ายพระยาพิชัยดาบหัก” , เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ , เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์ ,เจ้าหน้าที่จากชลประทานจังหวัดอุตรดิตถ์ ,  อาสาสมัครกู้ภัยท่าเสา , กู้ภัยวัดวังโป่ง ตลอดจนคณะผู้บริหารเทศบาลตำบลท่าเสา , กำนัน , ผู้ใหญ่บ้านตำบลท่าเสา   นำเครื่องมืออุปกรณ์ อาทิ เรือท้องแบนพร้อมถุงทราย เร่งช่วยเหลือขนทรัพย์สินขึ้นที่สูง นำถุงทรายปิดกั้นการไหลของน้ำเข้าท่วมบ้าน ปริมาณน้ำฝนได้หลากเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวชาวบ้านเกือบ 1,000 ไร่ จำเป็นต้องอาศัยเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ขนาด 12 นิ้ว และ 14 นิ้ว  จากสำนักงานชลประทานที่ 3 กรมชลประทาน จำนวน 2 เครื่อง เพื่อเร่งสูบน้ำระบายออกจากพื้นที่นาข้าวให้กับเกษตรกร โดยผันน้ำออกมาทางด้านหน้าหมู่บ้านแฮปปี้โซนติดถนนบายพาด สายท่าเสา-โลตัส เข้าท่อระบายน้ำลงสู่ลำน้ำคลองโพธิ์ เขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ เพื่อระบายความเดือดร้อนน้ำท่วมขังบ้านเรือนราษฎรและท่วมพื้นที่การเกษตร หมู่ 4 บ้านหนองคำฮ้อย

ทั้งนี้นางชุติมา นายกเทศมนตรีตำบลท่าเสา ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เทศบาลพร้อมแม่ครัวเร่งทำข้าวกล่องแจกจ่ายมอบให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ไม่สะดวกต่อการเดินทางออกมาหาซื้ออาหารนำไปปรุงที่บ้านได้ นำข้าวกล่องแจกพร้อมกับน้ำดื่มเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และ  นำทรายบรรจุลงถุงปุ๋ย ปิดกั้นการไหลของเข้าเข้าท่วมบ้านในครั้งนี้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมขังในเขตตำบลท่าเสา ประกอบด้วย หมู่ 1 หมู่ 4 หมู่ 6 หมู่ 7 และ  หมู่9 ประกอบด้วย หมู่ที่ 1 บ้านแม่พร่องคลองห้วยไผ่ พื้นที่ซอยจารุชาติน้ำเซาะตลิ่งพัง  , ซอยมีปิ่นน้ำท่วมขังไม่มีที่ระบายน้ำเทศบาลตำบลท่าเสา   ได้ทำการสูบระบายน้ำ, ซอยแว่นจันทร์น้ำท่วมขังไม่มีที่ระบายน้ำเทศบาลตำบลท่าเสา    ได้ทำการสูบระบายน้ำ  , ซอยประภัสสรน้ำท่วมขังระบายน้ำไม่ทันเทศบาลตำบลท่าเสา  ได้ทำการสูบระบายน้ำ  , ซอยแสงเทียนน้ำท่วมขังไม่มีทางระบายน้ำเทศบาลท่าเสา    ได้ดำเนินการสูบน้ำระบายน้ำท่วมขังถนนทางหลวงก่อสร้างกีดขวางทางระบายน้ำเดิม ที่น้ำไหลมาจากทางทิศเหนือไม่สามารถระบายน้ำได้คล่องตัว   พื้นที่หมู่ 2 บ้านหนองบัว ถนนเส้นหนองบัว-บ้านห้องสูงซึ่งอยู่ในความดูแลขององค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)อุตรดิตถ์ ฝนตกทำให้น้ำระบายไม่ทันและไหลบ่าเข้าสู่บ้านของประชาชนและท่วมขังเป็นแห่ง  ๆ   บริเวณศาลปู่อื้อและท่วมขังบนผิวถนนทำให้การสัญจรลำบาก , พื้นที่หมู่3 บ้านหนองผา ซอยสวนผัก น้ำท่วมขังเทศบาลตำบลท่าเสาได้ทำการสูบระบายน้ำสาเหตุไม่มีรางระบายน้ำและไม่มีแหล่งระบายน้ำ , บริเวณแยกโรงเรียนไตรศาสตร์ ถนนบายพาดตัดใหม่ เร่งระบายน้ำไหลเข้าท่วมบ้านและพื้นที่ราษฎร สาเหตุเกิดจากการไม่มีรางระบายน้ำ 

บริเวณถนนสายดังกล่าวซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์  , บริเวณซอย 4 หนองผาน้ำท่วมขังไม่มีทางระบายน้ำเทศบาลตำบลท่าเสาได้ทำโครงการก่อสร้างรางระบายน้ำซึ่งโครงการดังกล่าวอยู่ในปีงบประมาณ 2567, พื้นที่หมู่ 4 บ้านหนองคำฮ้อย ซอยหมู่อุบลน้ำท่วมขัง เทศบาลตำบลท่าเสาได้ดำเนินการสูบน้ำเพื่อระบายน้ำสาเหตุถนนทางหลวงขวางทางระบายน้ำ , บริเวณหมู่บ้านแฮปปี้โซน ซอยหมาดำพื้นที่หลังหมู่บ้านหนองคำน้อยน้ำท่วมขังในนาข้าว ถนนเป็นวงกว้างสาเหตุจากคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา (โครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์)  ได้กีดขวางทางน้ำและมีทางระบายน้ำเพียงช่องเดียว ประกอบกับถนนเส้น ง 1 ที่ได้สร้างแล้วเสร็จกีดขวางทางระบายน้ำทำให้น้ำระบายไม่ทันเช่นกันพื้นที่หมู่ 7 บ้านดงตะขบ บริเวณคลองชลประทานในซอยเจริญทองคำ น้ำเอ่อล้นคันคลองชลประทานท่วมบ้านเรือนประชาชน สาเหตุเนื่องจากฝนตกหนักและน้ำในคลองชลประทานเกิดการชะลอตัวไม่มีการขุดลอกมาเป็นระยะเวลานาน  , หมู่ที่ 8 บ้านดงตะขบน้ำเซาะตลิ่งพังบริเวณซอยลุงหมานสาเหตุเนื่องจากน้ำเปลี่ยนทิศทำให้เซาะตลิ่งพัง   จากปัญหาทั้งหมด ทางคณะผู้บริหารพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศบาล ฯ  ได้เร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฯ   ให้เข้ามาช่วยเหลือและร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำขึ้นมาอีกครั้ง   หากมีปริมาณฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง   ปริมาณน้ำจะได้เกิดการไหลคล่องตัวไม่ก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังหรือไหลไม่ทัน อันก่อให้เกิดปัญหาความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านในพื้นที่ตามที่ได้รับทราบกัน.