วันที่ 25 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า จากกรณีน้องโม (นามสมมติ) อายุ 23 ปี สาวสวยอาชีพเอ็นเดอะเทรนลูกค้าที่จ.อุดรธานี ได้โพสต์เตือนภัยสาวเอ็นทั้งหลายระวังโดนลูกค้าหลอก  มีข้อความว่า ขู่ว่าพ่อเป็นผู้กำกับ สามารถทำให้เราไม่ได้ทำงานได้เลย…แต่ตัวเองจ้างเด็กไป จ่ายตังไม่ครบ ทะยอยจ่าย 2-3อาทิตย์ 1-2 พัน แพ้พนันบอลบ้าง (เล่นแพ้ไม่จ่ายค่าเด็ก) ทะเลาะกับที่บ้านบ้างทะเลาะกับน้องบ้าง จะติดคุก จะบวช นู่นั่นนี่ ไม่ชอบให้เราขู่นะ แต่ตัวเองขู่เราสารพัด ขู่จะตามไปถึงที่พักของเด็กบ้าง ไม่โอนสักที พอถึงเวลาต้องโอน มักจะขู่ตลอด แต่ไม่ยอมโอน งงนะคะ ลูกตำรวจยศใหญ่ยังไงเอ่ย เงินไม่กี่บาท แต่ไม่ยอมโอน พ่อเก่งจริง โอนเงินมาค่ะ เงินแค่นี้ พ่อพี่ตั้งด่านไม่กี่คนได้เงินละค่ะ!!! และน้องโมได้เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ว่า ถูกชายชื่อเล่นว่า เสี่ยอัฐ ในจ.อุดรธานี  อายุประมาณ 34 ปี ได้ว่าจ้างให้ไปเอนเตอร์เทนที่บ้านแล้วจ่ายเงินไม่ครบตามที่ตกลงไว้ ค่าเอ็น 5,000 บาทบวกเวลาเพิ่มอีก 14 ชม.ๆ ละ 500 รวม 7,000 บาท รวมเป็นเงิน 12,000 บาท แต่เสี่ยอัฐจ่ายมาเพียง 10,000 บาท แต่กว่าจะได้เงินหมื่นก็ทวงแล้วทวงอีก สุดท้ายเมื่อทวงถามกลับขู่เอาชีวิตและขู่ฆ่า จะเอาให้ตายไปข้างหนึ่ง และยังอ้างเป็นลูกชายผกก.ในจ.อุดรานี และรู้จักนายตำรวจระดับอีกหลายคน แถมรู้จักนักเลงด้วย หนุ่มจ้างสาวเอ็นบอกอีกว่า อย่ามาทวงเงินที่เหลือเดี๋ยวจะตายไปข้างหนึ่ง พอเกิดเรื่องก็บอกปัดจะหนีไปบวชแล้วอย่ามาทวงอีก  เรื่องราวที่เกิดขึ้นเกรงจะไม่ปลอดภัยในชีวิตเนื่องจากตนเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า กรณีหนุ่มคนนี้อ้างเป็นลูกชายผมไปเบี้ยวเงินสาวเอ็นฯ ยืนยันผมมีลูกชายอายุเพียง 7 ขวบเท่านั้นไม่มีลูกชายคนนี้ครับ หากผู้เสียหายมาแจ้งความจะได้เรียกหนุ่มรายนี้มาสอบปากคำอีกที ส่วนเบอร์ ผกก.สมที่นายอัฐกล่าวอ้างว่าเป็นพ่ออีกคน ที่ชื่อ ผกก.สม ปรากฏว่าเป็นตำรวจจริง ชื่อ พ.ต.อ.สม วาโย มีตำแหน่งเป็นผกก.(สอบสวน) อยู่ที่ตร.ภูธร ภาค 4  ผู้สื่อข่าวจึงโทรไปสอบถามเรื่องนี้จาก ผกก.สม  บอกว่า ได้ยินแล้วก็ตกใจ ผมไม่มีลูกชื่ออัฐครับ และไม่รู้จักคนชื่ออัฐด้วย ส่วนเรื่องไปเบี้ยวสาวเอ็น หากเป็นลูกผมจริง ลูกผมไม่ได้ชั่วขนาดนี้ ลูกผมมีคนเดียว เป็นตร.อยู่สกลนครนะครับ ส่วนคนชื่ออัฐไม่ใช่ลูกผมแน่นอน

ล่าสุด ผุ้สื่อข่าวได้คุยกับเสี่ยอัฐแล้ว โดยเสี่ยอัฐให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ตอนนี้ผมมาบวชที่วัดป่าแห่งหนึ่ง คงไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ เพราะเป็นพระ แต่เล่าให้ฟังได้อยู่ว่า เมื่อต้นเดือนธ.ค.66 ที่ผ่านมาผมได้จ้างน้องโมมาจริงมาเอ็นที่บ้าน โดยให้ค่าเอ็นพิเศษ 5,000 บาท พอครบ 4 ชม.น้องโมบอกว่าถ้าจะให้โมอยู่ต่อคิดชม.ละ 500 บาท ผมก็โอเค ต่อไปอีกถึงเช้า น่าจะประมาณ 14 ชม.คิดเป็นเงิน 7,000 บาทรวมกับค่าเอ็นปกติ 5,000 เป็นเงิน 12,000 บาท ผมก็ยอมรับผมไม่ได้จ่ายเงินให้น้องเขาครบจริง เพราะช่วงนั้นติดขัด แต่ก็ทยอยจ่ายให้ จนเหลือ 2,000 บาทสุดท้าย ไม่มีเงินจริงๆ แต่น้องเขายังมาทวงอีก ทำให้โมโหส่งรายชื่อ ที่มีชื่อผกก.คนนั้นคนนี้ ซึ่งทุกคนเป็นของพ่อบุญธรรมของผมให้น้องโมดู ซึ่งเจตนาของผมที่ส่งรายชื่อให้ ไม่มีเจตนาขู่น้องดาว เพียงแค่ให้เห็นน้องดาวรายชื่อตร. อยากให้ดาวใจเย็นและไม่มาทวงเงินที่เหลืออีก 2,000 กับผม แต่ยอมรับบางทีก็โมโหและใจร้อนบ้าง เรื่องขู่ฆ่าก็ไม่มีเจตนา บางทีก็ยอมรับโมโหบ้างที่เห็นน้องเขามาทวงเงิน ส่วนที่มีชื่อผกก ยศใหญ่โต หลายคน สืบเนื่องมาจากมีเคสสาวเอ็นโดนมอมยาก่อนหน้านี้ แล้วน้องมาปรึกษาผม พ่อบุญธรรมเลยเอารายชื่อของผกก.ที่อุดรซึ่งเป็นเพื่อนพ่อให้บอกว่า ถ้ามีปัญหาอะไรให้โทรหาปรึกษาได้เลย ผมไม่คิดว่าจะเป็นราวใหญ่โตเพียงนี้

อยากให้พี่ๆ นักข่าวเห็นใจผมด้วย ตอนนี้ชีวิตผมหนักสุดๆ เจอปัญหาหลายอย่าง บางครั้งโดนแม่ด่า ขอเงินซื้อข้าวกับแม่แม่ก็ไม่ให้ และน้องสาวก็ไม่สบายใจ   สุดท้ายผมอยากจะขอโทษน้องโม ผมก็ลูกผุ้ชายพอ ทำผิดไปแล้ว ยอมรับผิดทุกอย่าง  ต่อไปจะไม่ไปทำกับใครอีกแล้ว ตอนนี้มาบวชสัก 1-2 เดือน อยู่ในร่มกาสาวิพักตร์อยู่เงียบๆ ไปสักระยะ เสี่ยอัฐกล่าวตอนท้าย