วันเสาร์ ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567 17:57 น.

ภูมิภาค

เลือกตั้งท้องถิ่นเดือด! “หมอสงค์” ชิงเก้าอี้นายก อบจ.นครพนม ลือสะพัดคนเพื่อไทยแยกวง คาดตาอยู่นั่งยิ้มรอคว้าพุงปลา

วันพุธ ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2567, 12.41 น.

นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) รวมถึงสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ทั่วประเทศจะครบวาระ 4 ปี ในปลายปีนี้ คือ วันที่ 20 ธันวาคม 2567 ทั้งนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งนายก อบจ. และ ส.อบจ.ทั้ง 76 จังหวัด ภายใน 45 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด คือไม่เกินวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568
         
ในส่วนของจังหวัดนครพนม มี นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ หรือน้องขวัญ ลูกสาวของนายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ดำรงตำแหน่งนายก อบจ.นครพนม โดยสามารถโค่น ดร.สมชอบ นิติพจน์ แชมป์ 2 สมัยด้วยคะแนน 161,962 ต่อ 110,592 ห่างกันถึง 51,370 คะแนน โดยนายกขวัญได้ นพ.อลงกต มณีกาศ และ นายชูกัน กุลวงษา เป็นรองนายกฯ ปัจจุบันรองฯทั้งสองคน ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.นครพนม เขต 3 และ เขต 4 สังกัดพรรคภูมิใจไทย

 


วาระการดำรงตำแหน่งทั้งนายกฯ และ ส.อบจ. เหลือเวลาอีกประมาณ 8 เดือน ปี่กลองสนามเลือกตั้งท้องถิ่นก็โหมโรงกันแล้ว ที่เปิดตัวเข้าชิงนายก อบจ.นครพนมรายแรก  คือ “นายกเบียร์” นายอนุชิต หงษาดี นายก อบต.โพนสวรรค์  โดยอาศัยวันหยุดเสาร์-อาทิตย์  ลงพื้นที่พบปะประชาชนตุนคะแนนไว้แต่เนิ่นๆ
         
คอการเมืองในพื้นที่ จึงเอียงหูฟังต่อว่านอกจากนายกเบียร์แล้ว จะมีใครอีกที่ประกาศตัวเป็นผู้ชิงตำแหน่งนายกฯบ้าง  คราวแรกแว่วๆ ดร.วิทยา อินาลา อดีต ส.ว.นครพนม และหัวหน้าพรรคไทยพร้อม ลูกหลานกลุ่มชาติพันธุ์ผู้ไทย ถือเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้านไอที กำลังฟอร์มทีมเตรียมลงสู้ศึก แต่สุดท้ายก็เป็นข่าวโคมลอย เพราะ ดร.วิทยา อินาลา ไม่พิศสวาทเก้าอี้นายก อบจ.ฯ ยังคงมุ่งมั่นเป็น ส.ส.เข้าสภาผู้แทนราษฎร

 


         ล่าสุดอุณหภูมิความร้อนเพิ่มขึ้นมาทันที เมื่อ นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ อดีต รมต.หลายกระทรวง และ ส.ส.นครพนม 13 สมัย ประกาศตัวลงชิงชัยในวัย 88 ปี โดยเข้าไปขอพรสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมมธโช) ณ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กทม. เตรียมลงสู้ศึกเลือกตั้งนายก อบจ.นครพนม เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่เกินความคาดหมาย เพราะหมอสงค์แย็บๆกับคนใกล้ชิดมาตลอด แต่คอการเมืองสงสัยตรงที่คุณหมอเป็นพ่อบุญธรรมของ ดร.เดือน-มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม/ส.ส.นครพนม เขต 2 พรรคเพื่อไทย ทำไมแหกด่านดอนหมากกะทัน ประกาศลงสมัครในนามอิสระ รอยปรินี้เกิดจากอะไรกัน

หรือรอยร้าวอาจเริ่มมาจากในการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศปี 2562 หมอสงค์หลังพ้นถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน  ก็เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย วาดหวังน่าได้ลงสมัคร ส.ส.นครพนม เขต 4 แทนนายอรรถสิทธิ์ (คันคาย) ทรัพยสิทธิ์ ที่ไปอยู่พรรคเพื่อคนไทย สุดท้ายผู้ใหญ่ในพรรคขีดเส้นใต้เลือกนายชวลิต วิชยสุทธิ์ ดึงจากบัญชีรายชื่อมาลง ส.ส.เขตฯ แถมไม่มีชื่อติดโผบัญชีรายชื่อ หมอสงค์เลยย้ายไปพรรคเสรีรวมไทย จึงได้กลับเข้าสภาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อปี 2562

 


ในการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศครั้งล่าสุด หมอสงค์หวนคืนถิ่นเก่า สมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง แต่คนในพรรคไม่ให้ความสำคัญ ตรงนี้หรือไม่ที่ทำให้หมอสงค์เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ จึงรวบรวมพรรคพวกเปิดตัวลงชิงเก้าอี้นายกฯ วัดดวงกันเลยหากครั้งนี้พลาด คงต้องกลับไปเลี้ยงหลานอย่างถาวร

นอกจากนี้ลือกันต่อว่า นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 4 พรรคเพื่อไทย น้องชายของนายอรรถสิทธิ์ (คันคาย) ทรัพยสิทธิ์  ก็จะลงชิงนายก อบจ.นครพนม อีกครั้ง จากครั้งเลือกตั้ง อบจ.นครพนม ปี 2563 นายณพจน์ศกรได้คะแนนมาเป็นอันดับ 3 คือ 50,012 แต้ม  ถือว่าไม่ขี้เหร่ทั้งนี้ยังเป็นแค่ข่าวลือเท่านั้น

 


เจ้ากรมข่าวลืออีกว่า ดร.สมชอบ นิติพจน์ อดีตแชมป์ 2 สมัย ก็จะหวนลงสมัครเลือกตั้งเหมือนกัน แว่วว่าจะไปอยู่พรรคสีส้มแต่ยังไม่มีการยืนยัน ถ้าเป็นดังที่คาดการณ์ การต่อสู้ในสนามเลือกตั้ง อบจ.นครพนม ก็สนุกดุเดือดแน่นอน เพราะมีเพียงหนึ่งเดียวที่จะเป็นผู้ชนะ โฟกัสว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนมทั้ง 5 ราย ในครั้งที่จะถึงนี้ น้องขวัญนายกฯคนปัจจุบัน เป็นแชมป์สมัยแรก ในนามกลุ่มนครพนมร่วมใจ มีกุนซือจากทีมภูมิใจไทย ที่คุณพ่อนายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้วเป็นแกนนำสำคัญ แม้ในอดีตครูแก้วเคยร่วมหัวจมท้าย พร้อมแจ้งเกิดเป็น ส.ส.สมัยแรก เดินเข้าสภาผู้แทนนามพรรคความหวังใหม่ของพ่อใหญ่จิ๋ว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ  และ พรรคไทยรักไทย มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้า แต่หลังจากพรรคพลังประชาชนถูกยุบ ก็ออกมาร่วมก่อตั้งพรรคภูมิใจไทยกับนายเนวิน ชิดชอบ ถือว่าลาขาดจากพรรคเดิมอย่างถาวร ก่อนจะส่งลูกสาว น.ส.ศุภพานี โพธิ์สุ ลงสมัครนายก อบจ.ฯ และได้รับการเลือกตั้งเป็นสมัยแรก ครั้งนี้ถือเป็นการป้องกันแชมป์

 


ด้าน นายอนุชิต หงษาดี นายก อบต.โพนสวรรค์ เป็นมวยสดที่มีลูกขยันเป็นอาวุธสำคัญ แถมได้สิงห์เหนือเสือใต้มาเป็นรองนายก ได้แก่สิงห์เหนือนายดนัย สิทธิวัชระชัย หรือนายกโบ้ อดีตนายกเทศบาลตำบลบ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม และเป็นน้องชาย ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคเพื่อไทย ส่วนเสือใต้คือนายชาญชัย คำจำปา อดีตนายกเทศบาลตำบลพระซอง อ.นาแก จ.นครพนม และอดีตผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 4 พรรคเสรีรวมไทย หลังจบการเลือกตั้งสนามใหญ่  ก็กลับมาอยู่พรรคเพื่อไทยเหมือนเดิม ดูการฟอร์มทีมแล้วแข็งแกร่งไม่เบา


ด้าน นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ถือเป็นปูชนียบุคคลทางการเมือง ที่ยังมีความเชื่อมั่นในฐานคะแนนเสียงเก่า ตั้งแต่เป็น ส.ส.สมัยแรกๆ เป็นต้นมา ซึ่งสมัยนั้นยังไม่มีโซเชียลเป็นปัจจัยสำคัญ แตกต่างกับตอนนี้มาก โลกทั้งใบย่อมาอยู่ที่ปลายนิ้ว  การหาเสียงก็เปลี่ยนไปเยอะ ประกอบกับคุณหมออายุเกือบ 90 ปี การลงพื้นที่กร่ำแดดกร่ำฝน ประเภทใจรักแต่สภาพไม่ให้คืออุปสรรคสำคัญ

 


ส่วนนายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ ปัจจุบันยังสังกัดพรรคเพื่อไทย แม้เลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่ผ่านมา แพ้นายชูกัน กุลวงษา พรรคภูมิใจไทยไป 3,595 คะแนน ทุกวันนี้ยังลงพื้นที่ไม่ขาด การที่ลือว่าจะลงสมัครนายกฯเป็นครั้งที่สอง อาจเป็นแค่ข่าวลือมากกว่า ขณะที่ ดร.สมชอบ นิติพจน์ อดีตนายก อบจ.นครพนม 2 สมัย ก็มีภาพอยู่ในเฟซบุ๊กไปพบปะเพื่อนฝูงอยู่เนืองๆ ไม่มีท่าทีว่าจะเปิดตัวลงทวงแชมป์แต่อย่างใด

 

ที่สำคัญพรรคก้าวไกล ครั้งเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2566 ผู้สมัครทั้ง 4 เขต มีคะแนนระดับหมื่นขึ้นทุกคน ถึงขณะนี้ยังไม่ประกาศตัวว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม อย่างเป็นทางการ บวกกับกระแสพรรคมาแรงต่อเนื่อง คาดคงไม่ปล่อยเกียร์ว่างแน่นอน ส่วนจะเลือกใครเป็นคู่ชิงไม่เกิน 3 เดือน คงได้เห็นหน้าค่าตากัน


จากการวิเคราะห์หากคุณหมอสงค์เห็นสัจธรรม ยอมขึ้นหิ้งเป็นที่ปรึกษาทางการเมืองแก่คนรุ่นใหม่ และนายณพจน์ศกรเป็นเพียงข่าวลมเพลมพัด โดยพรรคเพื่อไทยเคาะชื่อนายกเบียร์-นายอนุชิต หงษาดี ชิงเก้าอี้กับแชมป์เก่า โดยทั้งสองฝ่ายล้วนมีพี่เลี้ยงระดับโปรเฟสชั่นแนล
และเมื่อนำคะแนนผู้สมัคร ส.ส.ระหว่างพรรคเพื่อไทย กับ พรรคภูมิใจไทย ทั้ง 4 เขตครั้งล่าสุด ตัวเลขจะมีดังนี้ พรรคเพื่อไทยเขต 1 ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ 44,712 แต้ม,เขต 2 ดร.เดือน-มนพร เจริญศรี 39,856,เขต 3 ดร.ไพจิต ศรีวรขาน 28,966 และ เขต 4 นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ 21,658 รวมกับของนายชาญชัย คำจำปา ที่ลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคเสรีรวมไทย ตอนนี้มาอยู่เพื่อไทยเรียบร้อยแล้วอีก 20,840 จะได้ตัวเลข 156,032 คะแนน

 


ทางด้านพรรคภูมิใจไทย มีตัวเลขดังนี้ เขต 1 นางพูนสุข โพธิ์สุ 33,977 คะแนน,เขต 2 นายศุภชัย โพธิ์สุ 30,528,เขต 3 นพ.อลงกต มณีกาศ 41,738 และ เขต 4 นายชูกัน กุลวงษา 25,253 ก็ได้ตัวเลขรวมกันเป็น 131,496 คะแนน ก็ยังห่างกับเพื่อไทยถึง 24,536 แต้ม โอกาสนายกเบียร์จะโค่นแชมป์เก่าก็มีสูง


ตรงกันข้ามถ้าเป็นไปตามเจ้ากรมข่าวลือบอก คนเพื่อไทยยังเกาะกลุ่มไม่ได้ เหมือนตาอินกับตานา ให้จดชื่อตาอยู่ไว้ล่วงหน้า ว่า  นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ สามารถรักษาแชมป์นั่งตำแหน่งนายก อบจ.นครพนมต่อไปอีก 4 ปี

หน้าแรก » ภูมิภาค