อำเภอประโคนชัย / พนักงาน บขส.รวมตัวไปทำบุญวัดในตัวเมือง กลับถึง บขส.พบเงินขายตั๋วที่เก็บไว้ในกระเป๋า 3.5 หมื่นหายไป กระทั่งคนขายของใน บขส.จำได้มีคนหิ้วถุงเงินมาขอแลกเป็นเงินแบงค์ใหญ่แล้วขึ้นรถต่อ ตำรวจดักจับได้ที่นางรอง รับฉกเงินได้เหมาแท็คซี่หนีปลายทางกรุงเทพฯคิดว่ารอดเพราะหนีไกล 90 กม. บีบน้ำตากราบเท้าหวังยกโทษ เจ้าของเงินเผยดวงดีเชื่อ “ทำบุญได้บุญ”

วันที่ 6 เม.ย.67 ตำรวจ สภ.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับการประสานจาก ตำรวจ สภ.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าให้ช่วยตรวจสอบชายต้องสงสัยอายุประมาณ 50 ปี คาดว่าน่าจะขโมยเงินของพนักงาน บขส.ประโคนชัยไปจำนวนเงิน 35,500 บาท นั่งรถประจำทางจากสถานีขนส่ง อ.ประโคนชัย จะไปลงที่ อ.นางรอง

เมื่อรถโดยสารเทียบท่า ตำรวจ สภ.นางรอง พบชายต้องสงสัยคนดังกล่าว ทราบชื่อต่อมา นายยงยุทธ์ (สงวนนามสกุล) เป็นชาว อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ แต่ในบัตรประชาชน ระบุที่ ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา

ตรวจค้นเบื้องต้น จนท.พบเงินสดส่วนใหญ่เป็นธนบัตรฉบับละ 20 และ 100 เป็นจำนวนมากนับได้ 27,000 บาท โดยนายยงยุทธ์ ให้การรับสารภาพทันทีว่าเงินทั้งหมดขโมยมาจากคนที่เข้าไปทำบุญในวัดอีสาณ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

นายยงยุทธ์ สารภาพด้วยว่าตนเองเดินเข้าไปในวัดอีสาณ เห็นคนเข้ามาทำบุญประมาณ 10 คน จังหวะนั้นเห็นกระเป๋าถักวางอยู่ จึงเอามือเข้าไปล้วงดูพบเงินสดก้อนใหญ่อยู่ในกระเป๋าอีกชั้นหนึ่ง จึงเปิดกระเป๋าเอาเงินไปทั้งหมด

จากนั้นได้เหมารถแท็คซี่จากสถานีขนส่งบุรีรัมย์ ไปสถานีขนส่งประโคนชัย เป้าหมายจะเดินทางไปกรุงเทพฯเพื่อหางานทำขับรถรับจ้างที่ตนถนัด โดยได้นั่งรถโดยสารต่อไปลงที่ อ.นางรอง หวังตบตาเจ้าหน้าที่ ไม่คิดว่าจะมาตามจับได้เร็วขนาดนี้

ต่อมาได้มีนางบัวตอง พาลเมอสตันสเตรท อายุ 57 ปี พนักงานของบริษัทแสงสมชัย จำกัด (บริษัท รถร่วม บขส.) วิ่งภายในจังหวัดบุรีรัมย์ เดินทางไปที่ บขส.นางรอง เพื่อไปชี้ตัว

โดยนางตัวตอง จำแม่นว่าเป็นชายแปลกหน้าคนเดียวที่มาร่วมกินข้าวด้วยกันภายในวัดอีสาณระหว่างไปทำบุญ เพราะนายยงยุทธ์ มาขอข้าวกินกับตนและได้ตักให้ ตำรวจจึงควบคุมตัวนายยงยุทธ์ เอาไว้ ก่อนจะส่งตัวไปที่ สภ.ประโคนชัย

นางบัวตอง เล่าด้วยว่า พวกตนที่ทำงานในสถานีขนส่งประโคนชัย รวมตัวกันไปทำบุญที่วัดอีสาณ อ.เมือง บุรีรัมย์ ส่วนตัวได้พกเงินตัวเองและเงินที่ได้จากการขายตั๋วไปด้วย รวมทั้งหมด 35,500 บาทใส่ในกระเป๋ามีซิบ แล้วเอาไปใส่กระเป๋าถักอีกชั้นหนึ่ง โดยมีเอกสารอื่นปิดเอาไว้

ระหว่างกินข้าวกับเพื่อนยอมรับว่าไม่ได้สนใจวางกระเป๋าไว้ข้างๆ เพราะมีแต่พวกเดียวกัน ขากลับตนไม่ได้เอะใจจนกระทั่งเดินทางมาถึง บขส.ประโคนชัย จะเอาเงินส่งบริษัท พบว่าเงินทั้งหมดได้หายไปแล้ว

นำเรื่องไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่ด้วยกันฟัง ปรากฏว่าทั้งคนขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และคนขายของใน บขส.มาเล่าให้ฟังว่า เห็นชายคนหนึ่ง มีท่าทางผิดปกติมีอาการเมาสุรา พกเงินสดเป็นจำนวนมาก ตามหาแลกเงินแบงค์ใหญ่ จึงให้เจ้าหน้าที่ตามจนเจอดังกล่าว คาดว่านายยงยุทธ์ น่าจะเอาเงินไปซื้อของและเหมารถ จึงเหลือเงินแค่ 27,000 บาท แต่ยังโชคดีที่ได้คืนมาเป็นส่วนใหญ่ ยอมรับ “ทำบุญแล้วได้บุญ”เพราะได้เงินคืนแบบไม่คิดว่าจะเป็นไปได้

ขณะที่นางเสาวลักณ์ สร้อยจิตร อายุ 49 ปี คนขายของชำ ใน บขส.ประโคนชัย หนึ่งในคนที่ไปทำบุญด้วยกัน เล่าว่า เห็นลุงเดินมาตนแปลกใจมาก กินข้าวด้วยกันที่บุรีรัมย์ แล้วมาโผล่ที่ประโคนชัย ได้อย่างรวดเร็ว หนำซ้ำยังถือถุงเงินก้อนใหญ่ มาขอแลกเปลี่ยนเงินเป็นเงินแบงค์ใหญ่ จึงถามว่าทำไมถือเงินเยอะ ลุงตอบว่า “ถือแบบนี้เป็นประจำ” วินมอเตอร์ไซค์หลายคนเตือนให้ระวังเพราะอันตราย ก่อนลุงจะขึ้นรถโดยสารไป พอมีคนมาบอกว่าเงินหาย รู้ทันทีว่าเป็นลุงคนเดียวกัน