วันอังคาร ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2567 00:01 น.

ภูมิภาค

เมียตร.ฉุนเกรียนคีบอร์ด บรรยายคลิปอุบัติเหตุไม่ตรงความเป็นจริง

วันอังคาร ที่ 09 เมษายน พ.ศ. 2567, 11.38 น.

อำเภอลำปลายมาศ / เมียตำรวจฉุนจ่อเอาผิดเกรียนคีย์บอร์ด หลังโพสต์ภาพวงจรปิดการเกิดอุบัติเหตุกระบะเมียตำรวจชนกับรถมอเตอร์ไซค์ป้าได้รับบาดเจ็บ แต่ไปบรรยายข้อความกล่าวหาตำรวจไม่รับแจ้งความหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งที่ทั้งสองฝั่งเจรจากันจนเป็นที่พ่อใจแล้ว คนบาทเจ็บเผยเขาดูแลดีทุกอย่าง


วันที่ 9 เม.ย.67 เพจ ”อีซ้อขยี้ข่าว” ได้โพสต์คลิปวงจรปิดจากประชาชนที่ร้องเรียนเข้ามา เป็นภาพรถกระบะสีขาวเลี้ยงขวาผิดช่องทางแล้วพุ่งชนรถจักรยานยนต์ พร้อมระบุข้อความว่า “ใครฺผิด? ทำไมถึงไม่รับแจ้งความทั้งที่ไปโรงพักถึง 2 รอบหรือเพราะคนขับรถกระบะสีขาวคือเมียตำรวจแถมยังขู่ให้เค้าลบคลิปอีก...วัดหินโคน ลำปลายมาศ บุรีรัมย์”

 


ผู้สื่อข่าวตรวจสอบ พบว่าผู้ที่ถูกรถกระบะพุ่งชนคือ น.ส.สนม สิงห์รีมย์ (เสื้อน้ำตาล) อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/1 หมู่ที่ 1 ต.หินโคน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ จากการสอบถามเหตุการณ์ทราบว่า


เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 เม.ย.67 เวลาประมาณ 11.00 น. ตอนนั้นตนขับรถกลับจากการขายของจะเข้าบ้าน เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุตนเลี้ยวซ้ายอยู่ช่องทางของตนเอง แต่ได้มีรถกระบะพุ่งเข้ามาชน หลังจากนั้นเกิดอาการเบลอแต่พอจำความได้


จากนั้นได้ไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลลำปลายมาศ ด้วยอาการแขนหักและมีร่องรอยบาดเจ็บตามร่างกาย ส่วนคนที่นำมาส่งโรงพยาบาลคือคนขับรถกระบะตอนนั้นยังไม่ทราบว่าเป็นใคร

 


โดยต่อมาทราบว่าคนขับรถกระบะเป็นภรรยาตำรวจ สภ.ลำปลายมาศ เข้ามาเยี่ยมพร้อมรับปากจะรับผิดชอบทั้งการรักษาและซ่อมรถให้ทั้งหมด ไม่เคยได้โต้เถียงหรือขัดแย้งกันแต่อย่างใด ส่วนคลิปที่โพสต์ไปตนไม่ทราบเพราะเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด


น.ส.พรพรรณ สิงห์รัมย์ (เสื้อเหลือง) อายุ 62 ปี น้องสาวคนเจ็บ เล่าว่าเท่าที่ทราบจากพี่สาว หลังเกิดเหตุภรรยาตำรวจได้ลงจากรถมาดูอาการ แล้วเรียกรถพยาบาลแต่รถพยาบาลล่าช้า เกรงว่าพี่สาวจะเป็นลมเพราะอากาศร้อน จึงพยุงขึ้นรถไปส่งที่โรงพยาบาล ยอมรับว่าไปพบตำรวจ 2 ครั้งเพื่อไปลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐาน แต่ติดเรื่อง พรบ.รถขาด ยืนยันตำรวจไม่ได้ห้ามแจ้งความ


ขณะที่ น.ส.อัจจิมา โวลา (เสื้อเทา) อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ที่ 2 หนองดู อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ภรรยาตำรวจ สภ.ลำปลายมาศ และเป็นคนขับรถกระบะ เล่าว่าหลังเกิดเหตุตนออกมาแสดงเจตนารมย์ ว่าจะรับผิดชอบทุกอย่างเพราะรู้ตัวดีว่าเป็นฝ่ายผิด หลังเกิดเหตุจะโทรศัพท์หาอาการยายโดยตลอด และไม่เคยห้ามยายมาแจ้งความ  

 


ด้าน พ.ต.อ.วชิรวิทย์ วรรณธานี ผกก.สภ.ลำปลายมาศ ได้ออกมาระบุว่า หลังเกิดเหตุได้มีญาติจะมาลงบันทึกประจำวันเอาไว้เพื่อจะขอเบิกจ่าย แต่ติดที่รถไม่มีหลักฐานของตัวรถมา จึงนัดกันวันถัดไป ครั้งที่ 2 มาพบตำรวจ ตรวจสอบแล้วรถไม่มี พรบ.ทางภรรยาตำรวจจึงรับจะออกค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด


พ.ต.อ.วชิรวิทย์ กล่าวด้วยว่า กรณีคนนำคลิปภาพไปโพสต์ดังกล่าว ถือว่าเป็นการเตือนภัยได้เป็นอย่างดี ต่อมาภรรยาตำรวจเห็นข้อความประกอบในโพสต์จึงเกิดความไม่พอใจทั้งที่ได้มีการตกลงรับผิดชอบกันทั้งหมดแล้ว กรณีนี้อาจเข้าข่ายผิด พรบ.คอมฯจึงเรียกผู้ใต้บังคับบัญชา มาเจรจาพูดคุยกันขอให้ยุติการดำเนินคดี เพราะคลิปภาพส่วนหนึ่งมีประโยชน์ในการแจ้งเตือน ส่วนคนโพสต์ควรจะวิเคราะห์ก่อนนำเสนอเพราะล่อแหลมต่อการถูกดำเนินคดีได้

 

 

หน้าแรก » ภูมิภาค