วันที่ 16 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “พงศ์ สุคนธ์” ซึ่งเป็นเพจดังของ จ.นครพนม ได้แพร่ข้อความถึงพฤติกรรมของหัวหน้าหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง ระเบิดอารมณ์ใส่ผู้เข้าประชุมรายหนึ่ง เกี่ยวกับการออกแบบชุดประจำจังหวัด พร้อมกับคำพูด “ผมเชิญคุณมาประชุม แต่ไม่ได้ให้มาแสดงความคิดเห็น ผมไม่กลัวใคร กับ ผวจ.ผมก็อัดมาหลายครั้งแล้ว หรือพวกนายอำเภอผมก็เอาแฟ้มเอกสารฟาดหัวมาแล้ว”  อีกทั้งสั่งห้ามนำผลการประชุมครั้งนี้ออกไปข้างนอก

ปรากฏว่าข้อความนี้กลายเป็นไวรัล (Viral) ภายในไม่กี่ชั่วโมง เนื่องจากไม่เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อน จึงมีการสอบถามกันจ้าละหวั่น และทราบต่อมาว่าเป็นหน่วยงานสำนักงานพัฒนาชุมชุมจังหวัดนครพนม ตั้งอยู่ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่) และมีนายอำเภอหลายท่าน ไม่พอใจกับคำพูดที่ไม่ให้เกียรติกัน จึงต้องการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง

ขณะเดียวกัน นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ อดีต ผวจ.นครพนม และเคยปฏิบัติหน้าที่พัฒนาการจังหวัดฯมาก่อน ได้เขียนข้อความเกี่ยวกับบทบาทของพัฒนาการ ความตอนหนึ่ง ว่า “อ่อนน้อมแต่ไม่อ่อนแอ แข็งขันแต่ไม่แข็งกระด้าง และมีปิยวาจาเป็นอาวุธในการทำงาน แต่หากพัฒนาการจังหวัดท่านใดมีพฤติกรรมที่ตรงกันข้าม ผลลัพธ์ย่อมตรงกันข้ามแน่นอนฯ”

ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ถูกกล่าวหา นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน สั่งการให้นายสุรพล แก้วอินธิ ผู้ตรวจราชการ ลงพื้นที่ จ.นครพนม ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีเรื่องร้องเรียนถึงความไม่เหมาะสมของหัวหน้าหน่วยงานนี้ พร้อมกำชับให้สอบสวนไปตามจริง ไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด

โดยผู้ตรวจราชการได้ดำเนินการตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด ด้วยการไปพบนายบัญชา ศรีชาหลวง นายก อบต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม หลังทราบว่ามีปัญหากับพัฒนาการจังหวัดนครพนม ถึงขั้นประกาศห้ามเข้าพื้นที่ อบต.พิมาน  วันต่อมาได้สอบเจ้าหน้าที่ในสำนักงานพัฒนาชุมชนฯ และตัวผู้ถูกกล่าวหาคือ นายชัยณรงค์ กาญจะนะกันโห ตำแหน่งพัฒนาการจังหวัดนครพนม (พจ.นครพนม) ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าได้กล่าวคำนั้นจริง แต่ไม่มีเจตนาดูหมิ่นดูแคลนใคร และได้ขอโทษคู่กรณีไปแล้ว

ล่าสุด นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน มีคำสั่งที่ 904/2567 ลงวันที่ 14 เมษายน 2567 ให้นายชัยณรงค์ กาญจะนะกันโห พัฒนาการจังหวัดนครพนม ย้ายไปช่วยราชการที่กรมการพัฒนาชุมชน ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 67 เป็นต้นไป โดยให้เหตุผลในการย้ายครั้งนี้ ว่า ให้ปฏิบัติราชการของกรมการพัฒนาชุมชนเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ และเพื่อประโยชน์ของทางราชการฯ

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายสุรัตน์ ก้องเกียรติกมล กรรมการมูลนิธิพญาศรีสัตตนาคราช ซึ่งเป็นผู้นำเรื่องในที่ประชุมออกมาเผยแพร่ ว่า วันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา ได้รับเชิญเข้าประชุมในนามกรรมการมูลนิธิฯ เพื่อหารือเกี่ยวกับการออกแบบเสื้อ กางเกงประจำจังหวัด โดยได้เจ้าของแบรนด์ดังเป็นผู้ออกแบบ เบื้องต้นมีงบอยู่ประมาณ 2-2.5 แสนบาท แต่ผู้ออกแบบต้องการ 5 แสน เพื่อผลิตชุดประจำจังหวัด ให้ได้จำนวน 400 ชุด ที่สำคัญต้องให้ทันวันที่ 13 เมษายน 67 นี้ ตนจึงทักท้วงไปว่าลงทุน 5 แสน จำนวน 400 ชุด ต้นทุนตกชุดละ 1,250 บาท จะจำหน่ายชุดละเท่าไหร่

นอกจากนี้การเอาลายบัวหงายสัญลักษณ์พระธาตุพนม ลายพญานาค และเรือไฟ ใส่เข้าไปในชุดด้วย ถ้าใส่ลายดังกล่าวในเสื้อน่าจะดี แต่ไม่เหมาะถ้าจะเอาไปใส่ในกางเกง ที่สำคัญตนต้องการให้คน จ.นครพนม มีส่วนร่วมในการออกแบบครั้งนี้ จึงควรให้มีการเปิดแสดงความคิดเห็น เพื่อนำมาคัดเลือก น่าจะตรงกับความต้องการอย่างแท้จริง และไม่ควรติดยึดเพียงบริษัทเดียว

ซึ่งประธานในที่ประชุมได้ส่งเสียงดัง ว่า “ผมเชิญคุณมาประชุม แต่ไม่ได้ให้มาแสดงความคิดเห็น ผมไม่กลัวใคร กับ ผวจ.ผมก็อัดมาหลายครั้งแล้ว หรือพวกนายอำเภอผมก็เอาแฟ้มเอกสารฟาดหัวมาแล้ว” ก่อนจะพูดต่อว่า “จบนะ อย่าพูดต่ออีก และห้ามนำเรื่องในที่ประชุมออกไปข้างนอก..ปิดประชุม”