วันที่ 16 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวที่ จ.นครพนม รายงานว่าได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนของชาวบ้าน ในพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ท่าอุเทน,โพนสวรรค์ และ อ.ศรีสงคราม ตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา มีทั้งลมกรรโชกแรงพร้อมกับฝนเม็ดใหญ่ บางแห่งมีลูกเห็บตกซ้ำอีก แค่ชั่วโมงเดียวทำให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเรือนของชาวบ้านรวมเกือบ 400 หลังคาเรือน ซึ่งก่อนหน้านี้อุตุนิยมวิทยานครพนม ได้แจ้งเตือนว่ามีโอกาสเกิดพายุฤดูร้อนสูงมาก  เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน อุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส

ล่าสุด นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม พร้อมด้วย นางสงวน จันทร์พร นายกเหล่ากาชาดฯ และ นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ นายก อบจ.นครพนม ประสานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารท้องถิ่น ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ เร่งให้การช่วยเหลือและมอบถุงยังชีพ บรรเทาความเดือดร้อน พบว่ามีชาวบ้านได้รับผลกระทบจากพายุพัดบ้านเรือนพังเสียหาย ต้องการความช่วยเหลือในพื้นที่ อ.โพนสวรรค์ จำนวน 191 หลังคาเรือน อ.ท่าอุเทน จำนวน 150 หลังคาเรือน และ อ.ศรีสงคราม จำนวน 56 หลังคาเรือน รวมบ้านเรือนได้รับเสียหายทั้ง 3 อำเภอ จำนวน 397 หลังคาเรือน

เบื้องต้นทางจังหวัดนครพนม เร่งประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ออกสำรวจให้การช่วยเหลือ จ่ายเงินชดเชยเยียวยา ตามระเบียบทางราชการ และระดมจิตอาสาเข้าซ่อมแซม พบบางรายได้รับผลกระทบหนักเสียหายทั้งหลัง คาดเสียค่าซ่อมแซมนับแสนบาท นอกจากนี้ยังได้แจ้งเตือนพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ 12 อำเภอ ในช่วงนี้เฝ้าระวังพายุฤดูร้อน และติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบบ้านเรือน ที่พักอาศัยให้มีความแข็งแรง และขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ต้องปิดสัญญาณเครื่องมือสื่อสารทั้งหมด เพราะเป็นสื่อล่อกระแสไฟฟ้า ทำให้มีโอกาสเกิดฟ้าผ่าได้ตลอดเวลา