วันศุกร์ ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 02:08 น.

ภูมิภาค

"หลวงพี่น้ำฝน" รับญาติโยมส่งข้อมูลวัดพุทธาราม เตรียมขายให้ทราบแล้ว ชี้อยู่ที่สำนึกของแต่ละบุคคล

วันศุกร์ ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567, 10.05 น.

วันที่ 18 เมษายน 67 จากกรณีมีกระแส มีชาวต่างชาติเตรียมประกาศขาย วัดพุทธทาราม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในราคา 240 ล้านบาท ซึ่งได้มีคนไทยในประเทศเนเธอร์แลนด์ได้แสดงความห่วงใย ว่าวัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 50 ปีและเป็นวัดแรกในทวีปยุโรปจะต้องเปลี่ยนมือและอาจจะไม่หลงเหลือวัดดังกล่าวเนื่องจากมีแผนการก่อสร้างต่อเติมจากเค้าโครงเดิมที่เป็นวัด ซึ่งในกรณีดังกล่าว ได้มีพระสงฆ์ นามอักษรย่อ ก ได้มีการ ให้หลวงพ่อเจ้าอาวาสซึ่งมีอายุกว่า 90 ปี ลงนามมอบอำนาจให้ชาวต่างชาติซึ่งเป็นประธานมูลนิธิเป็นผู้รับมอบอำนาจดำเนินการทั้งหมด จนเกิดเป็นกระแสข่าวในประเทศไทยในช่วงไม่กี่ที่ผ่านมา 

โดยกรณีดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงข้อมูลเรื่องนี้ จากพระครูประสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ซึ่งได้ให้ความเห็นว่าได้รับ ทราบเรื่องดังกล่าวมาแล้วราว 2 อาทิตย์ โดยมีญาติโยมและลูกศิษย์ ได้ทยอยส่งข้อมูลมาเรื่อย ๆ กระทั่งล่าสุดได้มีมีการส่งข้อมูลเกี่ยวกับรายรับรายจ่ายที่เป็นข้อสงสัยมาให้ตรวจสอบ เพิ่มเติม ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้เคยได้บอกกับใครว่าทราบเรื่องนี้มาแล้ว กระทั่งเป็นข่าวในวันนี้ 

หลวงพี่น้ำฝนกล่าวว่า เรื่องนี้ญาติโยมในประเทศเนเธอร์แลนด์ รู้สึกมีความเป็นห่วงและมีความกลัวว่า วัดพุทธารามที่ก่อตั้งมากกว่า 50 ปี จะสูญหายไป และเป็นเรื่องน่าเสียดายหากจะมีการขายและเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องยอมรับว่าในต่างประเทศจะใช้เป็นระบบของการ โดเนชั่น หรือการเปิดรับบริจาค ซึ่งมีรูปแบบการบริหารงานที่แตกต่างจากประเทศไทย ทำให้สามารถซื้อขายที่ดินของวัดได้เป็นปกติทั่วไป แตกต่างจากในประเทศไทยซึ่งหากมีการบริจาคที่ให้เป็นธรณีสงฆ์แล้วจะไม่สามารถ เรียกรับกลับคืนได้ 

หลวงพี่น้ำฝนกล่าวอีกว่า มีหลายคนสอบถามมาว่าจะทำอย่างไรได้บ้างเรื่องนี้อาตมามองว่าเป็นเรื่องของคณะกรรมการที่จะต้องตกลงหารือกันในประเทศฮอลแลนด์ หรือแม้การเข้าตรวจสอบจาก คณะสงฆ์ก็ทำได้ยาก แม้ทราบว่าทางวัดสระเกศ ซึ่งต้นสังกัดได้เรียกตัวพระรูปดังกล่าวกลับมาแล้ว แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก เนื่องจาก เป็นกฎหมายในประเทศนั้นนั้น ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นสิทธิมนุษยชน จะถามว่าใครจะทำอะไรได้ไหม เรื่องนี้ก็ต้องถาม กลับไปว่าเราจะทำได้ได้อย่างไร เพราะเป็นกฎหมายของประเทศนั้นนั้น 

หลวงพี่น้ำฝนกล่าวต่อว่า สำหรับความเห็นส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ เป็นการประพฤติส่วนตัว ที่ทำให้เกิดปัญหา หากจะมองแล้วก็คือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง เหล่านี้นำมาซึ่งปัญหา และเป็นสำนึกส่วนบุคคลหากมองกันเป็นจริงว่าจะมีการซื้อขายวัด พุทธทารามกันจริงๆก็ถือว่าน่าเสียดายมาก และน่าเห็นใจหลวงพ่อท่านเจ้าอาวาสผู้ก่อตั้งมาก เพราะถือว่าท่านได้ต่อสู้ให้มีวัดไทยได้มาถึงตอนนี้ ส่วนคนที่ทำแบบนี้อาตมาไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่ก็ให้ความเห็นว่าเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของบาปกรรมเช่นกันว่าเราจะก่อกรรมอะไรไว้ สิ่งที่น่าเห็นใจที่สุดคือญาติโยมที่จะไม่มีวัด ณ จุดนั้น ให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยในประเทศเนเธอร์แลนด์ ว่าจะมีผลกระทบทางจิตใจอย่างไร แต่ส่วนที่ญาติโยมได้ส่งข้อมูลมาให้ก็อาจจะเป็นเพราะเห็นว่าอาตมาเป็นคนชัดเจนพูดคำไหนคำนั้นทำงานเอาจริงเอาจังไปไหนไปกันจึงได้เข้ามาหารือและส่งข้อมูลมาให้ และอาตมาก็พูดถึงในฐานะของพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่ง ก็เท่านั้น 

หน้าแรก » ภูมิภาค