เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 พ.ค.67 พ.ต.ต.ประยุทธ นุชนารถ พนักงานสอบสวน สภ.ศรีประจันต์  รับแจ้งเหตุรถยนต์ประสบอุบัติเหตุตกร่องน้ำข้างทางมีคนติดภายในริมถนนสายโพธิ์พระยา-บ้านกร่าง หมู่ 1 ตำบลบ้านกร่าง จึงประสานมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี นำอุปกรณ์ตัดถ่างรุดไปตรวจสอบเพื่อให้การช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าอัลตีส สีดำ ทะเบียน ฆด 6958 กรุงเทพมหานคร พลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้าจมอยู่ในร่องน้ำครึ่งคันสภาพหน้ารถ กระจกหน้าแตกหลังคายุบ ภายในรถมีคนขับติดอยู่ภายในเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ไปถึงก่อนพยายามใช้ชะแลงงัดเพื่อช่วยนำร่างคนขับออกมาจากรถแต่ไม่สามารถงัดได้สุดท้ายต้องใช้เครื่องตัดถ่างทำการตัดถ่างใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจึงช่วยนำออกมาได้อย่างปลอดภัย ซึ่งคนขับอยู่ในสภาพนุ่งกางเกงขาสั้นเสื้อยืดแขนสั้น เปียกน้ำทั้งตัว

หลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยนำคนเจ็บออกมาจากรถได้แล้วพาขึ้นมานั่งพักบนรถเพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้นเนื่องจากได้บาดเจ็บมีแผลที่เท้า ทราบว่าคนเจ็บชื่อนายจิรพนธ์ สมคะเณย์  อายุ 31 ปีอยู่บ้านเลขที่ 449 หมู่ 1 ตำบลบ้านกร่าง อำเภอศรีประจันต์ ยังอยู่ในอาการตกใจขวัญเสียได้ส่งเสียงร้องไห้ตลอดเวลาพร้อมกับพูดว่าคิดว่าตัวเองไม่รอดแล้ว ระหว่างนั้นเพื่อนคนเจ็บที่ทราบข่าวต่างพากันมาที่เกิดเหตุเพื่อดูอาการและช่วยปลอบให้กำลังใจ

จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายนายจิรพนธ์  ได้ขับรถออกมาจากบ้านของตัวเองที่ตำบลบ้านกร่าง เพื่อไปหาภรรยาที่บ้านท่าเสด็จ ตำบลสระแก้ว อำเภอเมืองสุพรรณบุรี  ถึงที่เกิดเหตุรถที่ขับมาด้วยความเร็วเกิดเสียหลักแหกโค้งตกลงไปในร่องน้ำข้างทาง ชาวบ้านที่ผ่านไปมาเห็นเหตุการณ์รีบแจ้งหน่วยกู้ภัยมาช่วย ซึ่งร่องน้ำที่รถตกลงไปนั้นมีน้ำอยู่ในร่องลึกประมาณ 50 เซนติเมตร และน้ำได้เข้าไปในรถเกือบครึ่งคัน ร่างนายจิรพนธ์ จมอยู่ในน้ำโผล่แค่จมูกกว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะมาช่วยก็ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงและสามารถช่วยชีวิตเอาไว้ได้อย่างปลอดภัย

นายจิรพนธ์ เล่าว่า ขับรถมาดีๆก็เกิดเสียหลักโดยไม่ได้หลบอะไร ไม่มีรถอะไรตัดหน้าด้วย ครั้งนี้นับว่าตนโชคดีมากที่ปลอดภัยบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย