อำเภอบ้านด่าน / สองลุงเพื่อนซี้อายุ 62 ปี ขับมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างขับข้ามถนนแบบไม่สนใจใคร เจอรถเก๋งเฉี่ยวบาดเจ็บถูกหามส่งโรงพยาบาล ขณะพยาบาลซักถามอาการ โดนเมียด่าสวน “ทำไมไม่ตาย” ตำรวจจับต้นชนปลายไม่ถูกกับคำให้การ เผยเป็นคู่เมาประจำหมู่บ้าน อยากขับรถทุกครั้งที่เมา ส่งเจาะเลือดเจอแอลกอฮอล์ถ้าเจอเอาผิด

วันที่ 3 มิถุนายน 2567 เมื่อเวลา 09.00 น.ร.ต.อ สุริยา ใจใหญ่ รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย บนถนน 4 เลน มีเกาะกลางถนน สายบุรีรัมย์ - สตึก บริเวณที่ยูเทิร์นกลับรถหน้าวัดกระดึงทอง ต.บ้านด่าน ขาเข้าตัว อ.บ้านด่าน จึงประสานกู้ชีพเทศบาลตำบลบ้านด่าน หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลบ้านด่าน ร่วมกันตรวจสอบ


ที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งยี่ห้อมาสด้า 2 สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ขน 1039 ขอนแก่น ชนเสาไฟส่องสว่างข้างทาง สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ภายในรถเก๋งพบผู้บาดเจ็บแผลถลอกตามร่างกายและถูกกระแทก จำนวน 2 ราย เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลบ้านด่าน

ใกล้กันบริเวณพงหญ้าปากทางเข้าวัดกระดึงทอง พบรถจักรยานยนต์ ยี้ห้อฮ้อนด้าเวฟ สีแดง ดำ หมายเลขทะเบียน ขจธ 783 บุรีรัมย์ ดัดแปลงเป็นจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายเล็กน้อยบริเวณด้านข้าง

พบมีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ทราบชื่อต่อมานายสาม ชะโลมรัมย์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110 ม.2 ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ (ใส่หมวก) คนขับจักรยานยนต์พ่วงข้าง มีบาดแผลถลอกตามร่างกาย และนายบุญมี บุราณรัมย์ อายุ 62 ปี ทั้ง 2คน มาด้วยกับกับรถมอเตอร์ไซค์แบบพ่วงข้าง

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่พยาบาลกำลังซักถามนายบุญมี บุราณรัมย์ ซึ่งยอมรับว่าได้ดื่มเหล้าขาวมา 2 ขวดกับเพื่อน แล้วนั่งซ้อนรถเพื่อนมา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ตนพยายามห้ามว่า “อย่าพึ่งข้ามรถกำลังมา” แต่เพื่อนไม่ฟังบึ่งรถไปทันทีโดยไม่สนใจทั้งที่มีรถหลายคนจอดรออยู่ จึงถูกเฉี่ยวดังกล่าว โดยระหว่างที่มีการซักถามได้มีเสียงภรรยานายบุญมี ด่าสวนมาว่า “ทำไมไม่ตาย ทำไมไม่ตาย” ทำให้นายบุญมีถึงกับหน้าเหลอเพราะอายเจ้าหน้าที่


สอบถามนายสาม ชะโลมรัมย์ คนขับรถมอเตอร์ไซค์ เล่าเหตุการณ์ด้วยอาการอ้อแอ้วกไปเวียนมาว่า ยอมรับว่าตนกับเพื่อนดื่มเหล้ากันมาจนเมา หลังจากนั้นได้ขับรถกันออกมาหวังจะไปแหย่ไข่มดแดงเอาไปแกล้งเหล้า ยอมรับว่ารู้ว่ารถมาแต่มันเมาไปแล้ว จึงขับข้ามไปโดยไม่สนว่าใครจะมาชน

นายศิรพงศ์ เตชะสาน อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149/7-8 ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ คนขับรถเก๋ง เล่าว่าตนเองจะกลับบ้านที่อ.สตึก โดยมีเพื่อนสาวนั่งอยู่เบาะหลัง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เห็นรถจักรยานยนต์พ่วงข้างพยายามจะข้ามถนน จึงบีบแตรเตือนไปแต่คนขับไม่สนใจ กลับเร่งเครื่องพุ่งออกมา ตนเองจึงพยายามหักหลบจนรถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทางดังกล่าว

ด้านนายสุนัน อุไรรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านกระดึง เล่าว่าทั้ง 2คน เป็นขาเมาประจำหมู่บ้าน ที่สำคัญชอบขับรถเวลาเมาทุกครั้ง ที่ผ่านมาพยายามเตือนหลายครั้งว่าเวลาเมาห้ามขับรถออกนอกบ้าน แต่ไม่เคยเชื่อฟัง ครั้งนี้ถือว่ายังโชคดี เพราะหากเจอรถคันใหญ่อาจจะอันตรายถึงชีวิตได้


ทางด้านคดีพนักงานสอบสวนได้มีการส่งเจาะเลือด ที่โรงพยาบาลบ้านด่าน ผู้ขับขี่ทั้ง 2 รายเพื่อตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ ว่าเกินกว่ากฎหมายกำหนดหรือไม่ หากตรวจพบจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป