อำเภอสตึก//หลังสามีตายไปแล้ว 1 พ่อสามีสาหัส เพราะฝืนคำเตือนของยายว่าห้ามกินมันคือ”เห็ดพิษ”แต่ไม่เชื่อ ล่าสุดหญิงวัย 50 ปี ภรรยาคนตายก่อนหน้านี้ตายตามด้วยอีก 1 เหลือพ่อสามียังสาหัสอยู่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์

วันที่ 20 ก.ค.67 กรณีนายคำพันธ์ ธรรมนิยม อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 152 ม.4 บ้านสระกระจาย ต.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ลูกจ้างโครงการฝนหลวงบุรีรัมย์ เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 19 ก.ค.หลังกินแกงเห็ดพิษที่เก็บมาจากป่า เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา

ซึ่งตอนนั้นมีคนกินแกงเห็ดจำนวน 3 คนคือ 1.นายบุญ ธรรมนิยม อายุ 69 ปี 2.นายคำพันธ์ ที่เสียชีวิตไปแล้ว และ 3.นางสำลี ธรรมนิยม อายุ 50 ปี ชาวต.คำบง อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ ภรรยานายคำพันธ์ ผู้เสียชีวิต ทั้งหมดหลังถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ตั้งแต่คืนวันที่ 9 ก.ค.ต่อมาญาตินางสำลี ขอนำตัวไปรักษาต่อที่จังหวัดกาฬสินธุ์ บ้านเกิด

ล่าสุดได้รับรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.(20 ก.ค.) นางสำลี ที่กินแกงเห็ดด้วยกันได้เสียชีวิตลงอีก 1 คน ที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ยังเหลือนายบุญ ธรรมนิยม อายุ 69 ปี พ่อนายคำพันธ์ ที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ อาการยังสาหัส รวมเสียชีวิตไปแล้ว 2 ราย จาก 3 คนที่กินแกงเห็ดพิษด้วยกันเมื่อวันที่ 9 ก.ค.

นายสุนทร วงศ์ทอง ผู้ใหญ่บ้าน บ้านสระกระจาย หมู่ที่ 4 ต.สตึก อ.สตึก กล่าวว่า ตอนนี้ได้ประกาศแจ้งเตือนชาวบ้านเป็นระยะเรื่องการเก็บเห็ดไปประกอบอาหาร หากไม่รู้จักเห็ดไม่ควรนำไปปรุงอาหาร หรือให้สอบถามคนที่รู้จักเห็ดว่าเห็นชนิดไหนเป็นเห็ดพิษ

สำหรับกรณีนี้ถือว่าไม่ยอมเชื่อฟังคำเตือนของคนแก่ ที่รู้จักเห็ดแล้วห้ามนำไปปรุงเป็นอาหาร แต่ยังฝืนเพียงแค่เสียดายเห็ดที่เก็บมา โดยเฉพาะกินแกงเห็ดที่มีพิษผสมอยู่ถึง 2 เวลา มื้อเที่ยงเเละเย็นทำให้พิษเห็ดรุนแรงขึ้นไปอีก

ผู้ใหญ่บ้านกล่าวด้วยว่า จริงแล้วเห็ดกินได้จะบ่งบอกชัดเจน คนที่ไม่รู้จักเห็ดควรจะเลือกกินเห็ดที่ผู้คนนิยมบริโภค เช่นเห็ดโคนหรือเห็ดปลวก ,เห็นไคหรือเห็ดหล่ม(ภาษาเหนือ),เห็ดระโงก หรือเห็ดไข่ห่าน เป็นต้นเห็ดกลุ่มนี้จะมีเอกลักษณ์ชัดเจน ต่างจากเห็ดอื่น หากไม่รู้จักไม่ควรจะเลือกซื้อเห็ดรวมที่แม่เอาเห็ดหลายชนิดมารวมเป็นกระทงขาย