เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ (30 ส.ค.68) ณ อาคาร 9 ชั้นที่ 6 โรงพยาบาลสุรินทร์ Mr.Abdullah “อับดุลลเลาะห์” หัวหน้าฝ่ายการทูตด้านมนุษยธรรม มูลนิธิ IHH หรือ (องค์กรนานาชาติ ที่ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ประเทศตุรกี ) เยี่ยมให้กำลังใจทหาร ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบทุ่นระเบิด และทหารที่บาดเจ็บจากการประทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อช่วงปลายเดือน กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา  โดยมี นพ.ชวมัย สืบนุการณ์ (ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์) พร้อมบุคคลากรโรงพยาบาลคอยต้อนรับ พร้อมกับมีการประชุมพูดคุยเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา จากกรณีฝั่งกัมพูชาเป็นคนยิงไทยก่อน และทหารไทยที่บาดเจ็บจากการเหยียบทุ่นระเบิดPMN-2 ที่ทางทหารกัมพูชาได้มีการลักลอบมาแอบวาง ทำให้ทหารที่เดินปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเหยียบทุ่นระเบิด จนขาขาด หลังจากการประชุมเสร็จสิ้น นายแพทย์ ชวมัย สืบนุการณ์ ได้มอบผ้าไหมสุรินทร์ให้กับคณะ มูลนิธิ โดยคล้องเอวเพื่อเป็นของทีระลึกอีกด้วย ซึ่งก่อนที่คณะจะเดินทางมาโรงพยาบาลสุรินทร์ ได้เดินทางไปลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากการยิงประทะที่ผ่านมา

โดยมูลนิธิ IHH หรือ (Humanitarian Relief Foundation) ซึ่งเป็นองค์กรนานาชาติของประเทศตุรกี “ที่มุ่งเน้นด้านมนุษยธรรม และการบรรเทาทุกข์ในระดับโลก” ต่อมาทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ได้พาเจ้าหน้าที่มูลนิธิ IHH เข้าตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ พลทหาร อดิสร ป้อมกลาง อายุ 22 ปี (มีผ้าพันที่แขน)  สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 ถูกทุ่น ระเบิดPMN-2 ข้อเท้าข้างขวาขาด ขณะออกไปเดินลาดตระเวรแนวบริเวณหน้าบังเกอร์ 11-12 ด้านขวาของปราสาทตาควายเมื่อวันที่27ส.ค.68ที่ผ่านมา และทหารที่บาดเจ็บจากการประทะ ที่ยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลสุรินทร์อีก2นาย ตอนนี้ทหารที่นอนพักรักษาตัวอยู่ อาการดีขึ้นตามลำดับหน้าตาร่าเริงมีกำลังใจ
 

ด้าน Mr. Abdullah Altay “อับดุลลเลาะห์” หัวหน้าฝ่ายการทูตด้านมนุษยธรรม มูลนิธิ IHH  เผยว่า รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่ได้เห็นในวันนี้ ทหารที่ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวคือผู้ที่ต้องเผชิญกับผลกระทบโดยตรงในนามขององค์กร IHH เราได้เข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้น ทั้งการสนับสนุนถุงยังชีพ น้ำดื่ม และเงินทุนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนสิ่งที่องค์กรหวังมากที่สุด คือทุกฝ่ายจะหันหน้ามาพูดคุยกัน หาทางออกด้วยสันติวิธี ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดที่เริ่มก่อนหรือหลัง เราไม่ได้ใส่ใจตรงนั้น แต่เราต้องการเห็นความขัดแย้งยุติลงด้วยการเจรจา และร่วมกันสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน
 

พลทหาร อดิสร ป้อมกลาง อายุ 22 ปี เล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจที่ทุกคนเป้นห่วง ตอนนี้ตนเองมีกำลังใจเหลือล้น มีแม่ ภรรยาและลูกสาวตัวน้อยอยู่เคียงข้างคอยดูและไม่ห่าง รู้สึกดีใจที่มีหน่วยงานจากต่างชาติมาดูแลเยี่ยมถึงโรงพยาบาล และฝากไปถึงพี่น้องที่ปฏิบัติหน้าที่เดินลาดตระเวน ต้องระมัดระวังตัวกันด้วย