นายศุภศิษย์  กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี ได้ติดตามสภาวะอากาศ พร้อมพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับโครงการชลประทานอุบลราชธานี ได้แจ้งการปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนร้อยเอ็ด และเขื่อนมหาสารคาม โดยการแชวนบานระบายน้ำทั้งสองเขื่อน ประกอบกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากติดต่อกันหลายวัน ทำให้ปริมาณน้ำแม่น้ำแม่น้ำมูลในเขตจังหวัดอุบลราชธานีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและคาดว่าจะมีมวลน้ำจากจังหวัดที่อยู่ทางตอนบนจากลุ่มน้ำมูลและลุ่มน้ำซี ไหลมารวมกันกันที่จังหวัดอุบลราชธานี อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำมูลและลำน้ำสาขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
            

โดยปัจจุบัน ( 21 ก.ค.67 ) ระดับน้ำในแม่น้ำมูล  ที่สถานีวัดน้ำท่า M7 บริเวณสะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี  ระดับน้ำที่ 109.65 ม.รทก.เพิ่มจากเมื่อวาน 0.37 เมตร อัตราการไหล 1,102.50 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งอำเภอวารินชำราบ 2.35 เมตร ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์การเพิ่มขึ้นของแม่น้ำมูล  จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมด้านการพิจารณากำหนดที่ตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว เพื่อรองรับผู้ประสบภัยให้สามารถดำรงชีวิต อยู่ได้อย่างปลอดภัย  ให้ความช่วยเหลือด้านสาธารณสุข  ควบคุมโรคระบาด โรคติดต่อ และบริหารจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราว ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยประสานการปฏิบัติกับอำเภอเมืองอุบลราชธานี และเทศบาลนครอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งรายงานผลการปฏิบัติ ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดอุบลราชธานี ทราบเป็นระยะ
              

ทั้งนี้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัยจังหวัดอุบลราชธานี ปี 2567 เพื่อเป็นศูนย์อำนวยการและประสานการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และได้จัดทำแผนเผชิญเหตุอุทกภัย  เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยต่อไป