แม่สาวเคราะห์ร้ายที่ถูกสามีที่เพิ่งคบกันทำร้ายจนเสียชีวิตยังรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ กรณีสัปเหร่อประจำหมู่บ้านซึ่งเป็นผู้ต้องหาอ้างว่า ลูกสาวไปขโมยเงินนั้นส่วนตัวไม่เชื่อ ปัญหาเงินแค่ 1,000 บาท ทำไมถึงต้องทำรุนแรงขนาดนี้
 
วันที่ 17 ก.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่วัดหนองบัว หมู่ที่ 9 ต.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพของ น.ส.ทิพย์วรรณ หรือหนูนา ศรบุญทอง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ม.8 ต.หัวฝาย อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ หลังจากถูกนายคำมี หรือสัปเหร่อพี อายุ 57 ปี อยู่  ต.หนองตาด อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เมื่อเวลา 03.00 น.ที่ผ่านมา โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าศพเพิ่งนำมาส่งเพื่อนำร่างมาประกอบพิธีทางศาสนา มีญาติและชาวบ้าน มาแสดงความเสียใจไม่ขาดสาย
 
นางอรุณ ศรบุญทอง อายุ 63 ปี แม่ผู้ตาย กล่าวว่ายังคงทำใจไม่ได้ ที่ต้องสูญเสียลูกสาว เผยระยะเวลาที่คบกับสัปเหร่อพี ลูกสาวโดนทำร้ายร่างกายมาตลอด ลูกสาวมาบอกแม่ตลอด ถึงขั้นเลือดตกยางออกก็มี แต่ครั้งนี้แรงสุดถึงเอาชีวิตกัน กรณีที่สัปเหร่อพี กล่าวหาว่า ลูกสาวตนชอบขโมยเงินหลายครั้งนั้น ไม่เป็นความจริง ลูกสาวถูกใส่ร้าย เพราะลูกสาวตนมีเงินเท่าไหร่ หวังจะซื้อนมให้หลานที่ตนเลี้ยงอยู่ที่บ้าน แต่ก็ถูกสัปเหร่อพี นำเงินดังกล่าวไปซื้อเหล้าและพาเหื่อนมาดื่มกินที่บ้านจนเงินหมด
 
นายสอด นาระสิทธิ์ อายุ 81 ปี (พ่อเลี้ยงผู้ตาย ) กล่าวว่า คืนก่อนเกิดเหตุ ตนฝันว่าเครื่องบินตก หัวปักคาดิน หางชี้ฟ้า ไม่ไปไหน  ซึ่งปกติไม่เคยฝันเป็นลางสังหรณ์แบบนี้ ส่วนเรื่องคดีอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำตามกระบวนตามกฏหมายให้เต็มที่ตามที่คนทำสมควรได้รับ
 
ด้านนายสุรศักดิ์ แสนแก้ว อายุ 29 ปี ลูกชายสัปเหร่อพี ผู้ต้องหา เล่าว่าปกติพ่อก็ชอบกินเหล้า เป็นปกติประจำ ของแกส่วนผู้ตายก็มากินเหล้ากับพ่อตลอด พ่อก็ไปส่งกลับบ้านแล้วแต่ก็ยังวงเวียนกลับมากินเหล้ากับพ่ออีก พ่อมีอาชีพก่อสร้างและเป็นสัปเหร่ออยู่บ้านนี้ ส่วนสาเหตุตนเองก็ไม่ค่อยทราบหนักเพราะอยู่คนละอำเภอกับพ่อ