นครราชสีมา วันนี้ (26 กันยายน 2567) ผู้สื่อข่าวรายงานวันที่ 2 ของการรับเงินกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่นำโดย “อุ๋งอิ๋ง” น.ส.แพทองธาร ชิณวัตร นายกรัฐมนตรีตามธนาคารต่างๆ ในตัวเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา อาทิ ธนาคารกรุงไทย ซึ่งมีสาขามากกว่า 10 สาขา ตู้เอทีเอ็มตามหน้าธนาคาร ห้างสรรพสินค้า ปั๊มน้ำมัน โรงพยาบาล ตามชุมชน ตามตลาดไนท์บาร์ซ่า ภายในค่ายสุรนารี โรงงานอุตสาหกรรมอีกจำนวนมาก ,ส่วนธนาคารออมสินก็มีเกือบ 10 สาขา และ ธนาคารเพื่อเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธ.ก.ส.มีเพียงสาขาเดียว โดยบรรยากาศตามธนาคารแต่ละแห่งมีพี่น้องประชาชนจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ ผู้พิการ หลายคนใช้ไม้เท้าค้ำยัน หลายคนนั่งรถวิลแชร์ ซึ่งเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้พิการ ทยอยเดินทางมาที่ธนาคารต่างๆ เพื่อรับเงิน 10,000 บาท ตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลด้วยความตั้งใจมากันอย่างล้นหลามจำนวนมากสร้างความคึกคัก โดยทางธนาคารได้อำนวยความสะดวกเรื่องเต็นท์พักคอยติดตั้งพัดลมให้ด้วยและมีบริการน้ำดื่มเย็นๆให้ดื่มคลายร้อน

โดยเฉพาะที่ธนาคารกรุงไทย สาธาหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) สำนักงานใหญ่ สาขานครราชสีมา ได้มีประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการเดินทางมารับเงิน 10,000 บาท กันอย่างล้นหลามจนล้นออกมานอกธนาคารลงมายังบนถนน ซึ่งทุกคนต่างมีสีหน้ายิ้มแย้มกันมาก โดยเฉพาะคนที่ยืนออเข้าแถวรอใช้บัตร ATM ในการกดเงินจากตู้เป็นแถวยาว โดยมีการจัดระเบียบเรียบร้อย ส่วนผู้พิการหรือผู้ที่นังวิลแชร์ทางธนาครมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้

ส่วนคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่มีบัตร ATM ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดสถานที่บริการไว้ด้านข้างอาคารสำนักงาน ซึ่งวันนี้เป็นกลุ่มผู้ที่มีบัตรประชาชนลงท้ายด้วยหมายเลข 1, 2 และ 3 ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และผู้พิการ โดยจากข้อมูลในวันแรกพบว่า ประชาชนจะเบิกเงินออกมาทั้งหมด 10,000 บาท เพื่อนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งส่วนใหญ่พอรับเงินเสร็จ แต่ละคนต่างดีอกดีใจ ทุกคนได้เห็นรอยยิ้ม เสียงหัวเราะของกันและกัน หลายถึงกับยกมือพนมท่วมหัวไหว้ขอบคุณ น.ส.แพทองธารท ชิณวัตร นายกรัฐมนตรี โดยต่างนำเงินไปซื้อข้าวสาร ข้าวปลาอาหารเป็นสิ่งแรก และมีหลายก็จะนำไปใช้หนี้ที่กู้ยืมมานาน ส่วนคนที่หาเช้ากินค่ำก็จะนำไปลงทุนค้าขายเพื่อเป็นอาชีพเลี้ยงครอบครัว สำหรับเงินที่ได้รับต่างบอกว่าสามารถช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนได้เป็นอย่างมากต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่ให้เงินส่วนนี้มาทำให้ตนเองมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น

ด้านนายวันชัย บำรุงเกาะ ผู้จัดการ ธกส.สาขานครราชสีมา เปิดเผยว่า สำหรับวันแรกมีประชาชน เฉพาะผู้ที่มาใช้บริการเบิกเงิน 10,000 บาท ที่ ธกส.สาขานครราชสีมา กว่า 320 คน เป็นมูลค่าเงินกว่า 3,200,000 บาท ยังไม่รวมกับที่มากดเงินในตู้ atm ซึ่งคาดว่าไม่ต่ำกว่า 2,000,000 บาท โดยทางธกสสาขานครราชสีมา ได้สำรองเงินไว้ สำหรับประชาชนที่จะมาเบิกเงิน 10,000 บาทตามโครงการของรัฐบาล ประมาณ 35 ล้านบาท เนื่องจาก คาดว่าจะมีประชาชนมาใช้บริการที่สาขาแห่งนี้ประมาณ 3,500 คน จึงมั่นใจได้ว่ามีเงินสำรองไว้เพียงพออย่างแน่นอน นายวันชัยฯ

 
         
ทั้งนี้จากการสอบถามพี่น้องประชาชน ผู้สูงอายุ ผู้พิการที่ได้รับเงินตั้งแต่วันแรก 10,000 บาท หลายคนกดเงินแล้วกลับบ้าน ทุกคนต่างรู้สึกดีใจกันมาก แต่ยังไม่ได้นำไปใช้จ่ายอะไร นำเงินที่ได้นำไปหนุนหัวนอน ก่อนนอนก็ยกมือไหว้ และนอนคิดวางแผนการใช้เงินจำนวนนี้อย่างรอบคอบ รอบด้าน โดยขอเก็บใส่กระเป๋าให้อุ่นใจก่อน 1-2 สัปดาห์ และจะซื้อแต่ที่จำเป็นก่อน เช่น ข้าวสาร , ข้าวเหนียว , ไข่ไก่ , น้ำปลา , น้ำมันพืช เป็นต้น