วันจันทร์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 11:28 น.

ภูมิภาค

อ่วมแน่! เจ้าพระยาจ่อระบาย 2,400 เตือนท้ายเขื่อนน้ำขึ้นเกือบเมตร ระดมกระสอบทรายสู้น้ำยกแรก

วันเสาร์ ที่ 05 ตุลาคม พ.ศ. 2567, 10.02 น.

วันที่ 5 ต.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเดช  เล็กวิชัย  รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ออกประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ฉบับที่ 10 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และ กรุงเทพรฯ จากการคาดการณ์ โดยกรมชลประทาน ในอีก 1-7 วันข้างหน้า โดยในวันที่ 11 ต.ค. 2567 ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 2,200 – 2,500 ลบ.ม./วินาที และคาดการณ์ปริมาณน้ำ Sideflow ประมาณ 200 ลบ.ม./วินาที รวมกับคาดการณ์ปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรัง ประมาณ 100 ลบ.ม./วินาที ซึ่งทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณ 2,800 ลบ.ม./วินาที และทางกรมชลประทานได้ผันน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ในอัตรา 400 ลบ.ม./วินาที กรมชลประทานมีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราไม่เกิน 2,400 ลบ.ม./วินาที โดยจะมีการระบายเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได ซึ่งส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 60-80 ซม. บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ อาจจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน ประกอบด้วย ที่ บริเวณ ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน 1.คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) 2.วัดสิงห์ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี 3.อ.เมือง จ.สิงห์บุรี 4.อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี 5.วัดไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง 6.ต.โพนางดำ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท 7.วัดเสือข้าม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี 8. อ.ป่าโมก จ.อ่างทองทั้งนี้จากเกณฑ์การระบายน้ำดังกล่าวทางกรมชลประทานจะควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพของพื้นที่ เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนและพื้นที่การเกษตร หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป

สำหรับปัจจุบัน ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 2,367 ลบ.ม./วินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.86 เมตร/รทก. ระดับน้ำเหนือเพิ่มขึ้นรายชั่วโมง ปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 14.50 เมตร/รทก.ซึ่งระดับน้ำห่างจากตลิ่งอยู่ที่ 1.84 เมตร และเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ำผ่านเขื่อนอยู่ที่ 1,999 ลบ.ม./วินาที จึงส่งผลทำให้ที่สถานวัดน้ำ C.3 บ้านบางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 2,003 ลบ.ม./วินาที

ทางชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ในพื้นที่ ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ได้ทำการเร่งกรอกกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหล่เอ่อเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน หลังจากที่ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นและมีมวลน้ำเริ่มเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนบ้างแล้วบางส่วน

โดยนายภิรมย์  โถสุวรรณ์  รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลโพนางดำออก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มขึ้น ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ได้มีการกรอกกระสอบทรายเพื่อสร้างเป็นคันกั้นน้ำ สำหรับปัจจุบันขณะนี้จากปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นก็ได้มีน้ำเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนแล้วบางส่วน ในพื้นที่ ม.5 ต.โพนางดำออก นอกจากนี้ทางเทศบาลตำบลโพนางดำออก ยังได้นำรถแบ็คโฮ สร้างคันดินกั้นน้ำตามจุดเสี่ยงต่างๆ อีกทั้งยังเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำหากปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนและที่อยู่อาศัยของประชาชน ทางเทศบาลก็ได้มีการเตรียมกระแสไฟฟ้า รวมไปถึง ห้องสุขาเคลื่อนที่ ถังน้ำเพื่อใช้ในการอุปโภค-บริโภค ของประชาชนในจุดอพยพชั่วคราว

นอกจากนี้ทางด้าน นายสมชาย  รอดนุช  ชาวบ้านในพื้นที่ ม.3 บ้านบางตาเณร ต.หาดอาษา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำคงไม่วิกฤติเท่าไร ถึงแม้ปัจจุบันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้เริ่มเอ่อเข้าท่วมใต้ถุนบ้านแล้ว ปัจจุบันตนเองก็ได้เริ่มเก็บสิ่งของต่างๆขึ้นที่สูง และไม่ค่อยรู้สึกเป็นกังวลหากเกิดน้ำท่วมเพราะคือวิถีของคนริมน้ำ และหากเกิดน้ำท่วมหนักจริงๆก็ฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน

หน้าแรก » ภูมิภาค