วันที่ 16 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบัน “เรือหัวโทง” หรือเรือหางยาว เป็นเรือที่นิยมใช้กันมากในทะเลภาคใต้ โดยเฉพาะทางฝั่งทะเลอันดามัน ตั้งแต่ จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง จนถึง สตูล เรือชนิดนี้ชาวบ้านจะนำไปใช้เป็นเรือหาปลา ทำประมงจับสัตว์น้ำ ปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนมาใช้ให้บริการ นทท.ที่มาเที่ยวทะเลกระบี่ จนกลายเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างของ จ.กระบี่ ซึ่งที่ผ่านมาจะไม่ค่อยพบเห็นการต่อเรือชนิดนี้มากนัก เพราะเป็นการต่อเรือจากภูมิปัญญาของชาวบ้านตั้งแต่อดีต วันนี้ จึงพาไปชมการต่อเรือหัวโทง ของชาวบ้านในพื้นที่ ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เป็นการรวมกลุ่มกันของชาวบ้านในชื่อ “กลุ่มต่อเรือหัวโทงตำบลตลิ่งชัน” การต่อเรือหัวโทง เป็นอีกอาชีพที่เป็นภูมิปัญญาของคนท้องถิ่น ที่ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยชาวบ้านที่กระบี่ เชื่อกันว่า จ.กระบี่ เป็นแหล่งต่อเรือหัวโทง จังหวัดแรกของฝั่งอันดามัน โดยปัจจุบัน แหล่งต่อเรือที่ได้รับความนิยมของกระบี่ ตั้งอยู่ที่ ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง ที่นี่จึงมีการรวมกลุ่มของชาวบ้านที่มีความชำนาญในการต่อเรือ มาร่วมกันต่อเรือหัวโทงจนกลายเป็นอาชีพที่สำคัญของคนในพื้นที่ ซึ่งช่างต่อเรือแต่ละคน จะมีทั้งศาสตร์ และศิลป์ เฉพาะตัวในการต่อเรือ 

นายสุนทร คลองรั้ว 1 ในช่างต่อเรือ เล่าว่า ความเป็นมาของเรือหัวโทง หรือเรือหางยาว ที่ใช้กันในปัจจุบัน หากจะบอกว่าเริ่มต้นจากที่นี่ก็ไม่ผิด ในอดีตบรรพบุรุษจะออกหาปลาก็ต้องสร้างเรือขึ้นมาเอง ใช้ไม้ระกำมามัดผูกติดกันจนเป็นลำเรือ แต่ยุคสมัยเปลี่ยนไป พอเริ่มมีเครื่องไม้เครื่องมือ ก็มีการปรับรูปแบบของเรือ ต่อเรือกันมาเรื่อยจนมีรูปแบบที่เห็นในปัจจุบัน กลุ่มช่างต่อเรือที่นี่ รวมตัวกันในท้องถิ่น มานานกว่า 30 ปีแล้ว โดยชาวบ้านที่มาร่วมกันต่อเรือ ส่วนใหญ่จะมีอาชีพหลักเป็นชาวประมงพื้นบ้าน ออกหาปู หาปลากันทุกวัน เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว แต่ถ้าช่วงไหนที่มีลมพายุ ฝนตก คลื่นแรง ไม่สามารถออกเรือได้ ก็จะมาซ่อมแซมเรือ หรือต่อเรือใหม่เพื่อใช้ออกหาปลา กลายเป็นงานฝีมือที่สืบทอดกันมาจากอดีต เป็นอาชีพเสริมที่ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ปัจจุบันจะมีชาวบ้านจากหลายจังหวัดในฝั่งอันดามัน ที่มาสั่งต่อเรือจากที่นี่ มีสั่งเข้ามาไม่ขาดสาย เพราะเรือหัวโทงของที่นี่ จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว 

จุดเด่นของเรือที่ต่อไปจากที่นี่ จะใช้ไม้ที่ทนแดด ทนฝน ลูกค้าต้องการแบบไหน ขนานไหน ก็สามารถสั่งทำได้ตามความต้องการของลูกค้า ราคาต่อเรือ 1 ลำ จะขึ้นอยู่กับขนาดของตัวเรือ จะนับจาก “กง” ของเรือ เช่นขนาด 19 ตัวกง อยู่ที่ ประมาณ 130,000 บาท ขนาด 21 ตัวกง อยู่ที่ 170,000 บาท และ ขนาด 23 ตัวกง อยู่ที่ 250,000 บาท ชาวบ้านก็จะมีกำไรจากการต่อเรือลำละ ตั้งแต่ 10,000 บาท จนถึง 40,000 บาท ต่อลำ แล้วแต่ขนาดของเรือ 

ปัจจุบันกลุ่มชาวบ้านมาลงแรงเร่งต่อเรือ เพราะมีออเดอร์มาอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก ทั้งในพื้นที่ และต่างจังหวัด สั่งจองมาตลอดทั้งปี ส่งผลในกลุ่มต่อเรือหัวโทงตำบลตลิ่งชัน เป็นกลุ่มต่อเรือที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งทะเลอันดามัน สามารถสร้างรายได้ให้กับสมาชิก และคนในท้องถิ่นได้แป็นอย่างดี หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่กลุ่มต่อเรือหัวโทงตำบลตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ โทร 087-6564411.