เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ 19 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่าได้รับแจ้งจากประชาชนพบเห็นครอบครัวโขลงช้างป่าจากอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก หัวหน้าครอบครัวได้แก่ช้างสีดอละมุดตัวตึง ที่เคยสร้างวีรกรรมให้กับชาวบ้าน ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี มาต่อเนื่องหลายปี อาทิ บุกพังกำแพงบ้าน เข้าไปฉกหาของกิน ทั้งข้าวสาร, เกลือ ,ปลาร้า ฯลฯ
 

ซึ่งเมื่อเช้าที่ผ่านมาละมุดพาครอบครัวตนเองประกอบด้วย ลูก – เมีย รวมจำนวน 4 ตัว เดินผ่านสำนักสงฆ์โพธารามลานธรรม (หลวงปู่แพร) ม.3 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้พบเห็นอย่างมาก

ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเช้าพบเห็นเจ้าละมุดพาครอบครัวหากินอยู่หลังร้านก๋วยเตี๋ยวตีนไก่ ห่างจากสำนักสงฆ์ประมาณ 400เมตร ใกล้เคียงกับถนนสายสุวินทวงศ์ (นาดี-นครราชสีมา) หรือสาย 304 หลังจากนั้น ได้พาครอบครัวออกจากจุดดังกล่าว เดินลัดเลาะมายังสำนักสงฆ์ จุดสังเกตที่เชื่อว่าเป็นละมุดนั้นเพราะมีปลอกคอ(GPS.ติดตามช้างป่า) ที่ทางป่าไม้สวมติดไว้ หลังจากผลักดันนำตัวกลับคืนผืนป่าอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก เมื่อปีที่ผ่านมา อย่างเห็นได้ชัด
 

นายอานนท์ ธนูนันท์ ชาวบ้านหมู่ที่ 3 ผู้พบเห็นและถ่ายคลิปเจ้าละมุดและครอบครัวไว้ได้ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าทราบว่ามีโขลงช้างป่าหลายตัว มาหากินอยู่บริเวณนี้ จึงคอยสำรวจดู เพื่อที่จะแจ้งให้ผู้นำท้องถิ่น และจิตอาสาชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าทราบ เพื่อที่จะผลักดันออกพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนของประชาชน

ทันใดนั้น ได้เห็นช้างป่าสีดอละมุดและครอบครัว เดินตรงมายังด้านหน้าสำนักสงฆ์ จึงวิ่งไปขึ้นดาดฟ้าของเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน เพื่อที่จะดูทิศทางช้างว่าจะมุ่งหน้าไปทางไหน
 

พบละมุดพาช้างอีก 3 ตัว เดินผ่านมาข้างจุดที่ยืนอยู่ จึงตะโกนให้กลับเข้าป่าไป เพราะทุกคนหวาดกลัวเพราะเคยเห็นละมุด เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา สร้างวีรกรรมไว้ให้กับชาวบ้านนับครั้งไม่ถ้วน ละมุดได้พาครอบครัวเดินเฉียดออกไปหลังบ้านของเพื่อนบ้าน
 

ขณะนี้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลานและจิตอาสา ได้ออกติดตามแกะรอยและผลักดันละมุดให้กลับเข้าป่าชั้นใน คาดว่าละมุดจะไม่พาครอบครัวไปไหนไกลนัก เพราะเคยออกมาหากินอยู่บริเวณนี้เป็นประจำ