ภูมิภาค
"อัจฉริยะ" บุกสำนักงานอัยการทุจริตภาค 7 เร่งรัดคดี "ทนายตั้ม-ตำรวจ" เรียกรับเงินผู้ต้องหาคดียาเสพติด
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

เวลา 10.00 น.วันที่ 12 พ.ย.67 ที่สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 7 จังหวัดสมุทรสงคราม นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนายณรงค์ชัย หิรัญรัตน์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้รับ กรณีอัยการคดีทุจริตภาค 7 นำสำนวนคดีทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ร่วมกับพวกใช้ พ.ร.บ.ยาเสพติด พ.ศ.2522 มาตรา 100/2 เรื่องสามารถลดโทษจากการขยายผลไปจับกุมผู้เกี่ยวข้องรายใหญ่คดียาเสพติด โดยหลอกลวงนายธีรวัฒน์ บุญรอด หรือออย หลงเชื่อและมอบเงิน 4 แสนบาทให้กับทนายตั้มไป ต่อมาพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ได้ตรวจสอบแล้วเป็นเรื่องจริง และดำเนินการตามกระบวนการตามกฎหมาย กระทั่งพนักงานสอบสวนสั่งฟ้องคดีไปยังพนักงานอัยการคดีทุจริต ภาค 7 แล้วนำสำนวนดังกล่าวไว้ 4 ปี โดยไม่ดำเนินการสั่งคดีแต่อย่างใด อันมีเจตนาส่อไปในทางทุจริต ก่อนที่นายอัจฉริยะจะเข้าไปพูดคุยหารือภายในสำนักงานโดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงออกมาให้สัมภาษณ์ข้อมูลต่างๆกับผู้สื่อข่าว
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนมาสอบถามความคืบหน้าที่สำนักงานอัยการสูงสุด 2 ครั้งและที่สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 7 อีก 2 ครั้ง ก็ยังไม่ได้รับความคืบหน้าใดๆ ครั้งนี้จึงมาสอบถามเป็นครั้งที่ 3 หากยังนิ่งเฉย ตนจะฟ้องผู้ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ปี 2563 จนปัจจุบัน อย่างไรก็ตามภายหลังจากการตนพูดคุยหารือกับรองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 7 และอัยการเจ้าของสำนวน ทราบว่าคดีนี้กลุ่มผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรมมากกว่า 10 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2563 และมีการสอบเพิ่มเติมตลอดเวลา มากกว่า 10 ครั้ง ต่อมา ท่านอธิบดีสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 7 ท่านมารับตำแหน่งใหม่ เล็งเห็นความสำคัญเป็นคดีระดับชาติ เนื่องจากเป็นคดียาเสพติด จึงได้สั่งให้อัยการเจ้าของสำนวนนำสำนวนทั้งหมดที่มีการสอบเพิ่มเติมเอกสารกว่า 3,000 แผ่น มาพิจารณาและเสนอไปยังท่านอัยการสูงสุดภายในวันนี้ เนื่องจากเป็นคดีสำคัญอำนาจพิจารณาจะต้องส่งไปยังท่านอัยการสูงสุดลงความเห็นว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่
นายอัจฉริยะ กล่าวด้วยว่าทนายตั้มกับพวกที่เป็นข้าราชการตำรวจ 2 นาย พยายามยื่นขอความเป็นธรรมทีละครั้งทีละคนรวมมากกว่า 10 ครั้งทำให้อัยการเจ้าของสำนวนต้องสอบตามที่ผู้ต้องหาร้องขอ เนื่องจากถ้าไม่สอบจะถูกกล่าวหาว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ที่ผ่านมาทนายตั้มร้องว่าเรื่องเกิดขึ้นนานแล้ว ตำรวจทำหลักฐานเท็จ มีการอ้างพยานบุคลต่างๆ ให้มาสอบเพื่อประวิงเวลาให้เกิน 2 ปี ให้ข้าราชการตำรวจกลับมารับราชการได้ตามระเบียบ บางครั้งก็เลื่อนพยานต้องรอนานเป็นเดือน อัยการจึงต้องสอบประเด็นมากกว่า 28 ประเด็น ตามที่ตั้งร้องขอ จนเสร็จสิ้นและเสนออัยการสูงสุดวันนี้ ตนเข้าใจการทำงานของอัยการ จึงต้องขอบคุณท่านอธิบดีสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 7 ท่านทำหน้าที่ของท่านตามอำนาจหน้าที่ เป็นที่พอใจของตน ขณะที่ท่านอัยการสูงสุดยืนยันว่าด้วยเกียรติของท่านว่าจะทำคดีนี้ด้วยความสุจริตโปร่งใสและเป็นธรรม
สำหรับประเด็นสำคัญซึ่ง ทนายความและตำรวจมักจะหยิบยกมาใช้ประโยชน์ คือ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 100/2 บัญญัติว่า ถ้าศาลเห็นว่าผู้กระทำความผิดผู้ใดได้ให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ หรือพนักงานสอบสวน ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นก็ได้
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » ภูมิภาค
Top 5 ข่าวภูมิภาค
![]()
- หัวอกแม่! ร่ำไห้สุดห่วงลูกสาววัย 17 ไปฝึกงานกรุงเทพฯหายตัว 9 วันแล้ว วอนช่วยตามหา 9 พ.ค. 2568
- นครศรีธรรมราช ประชุมเตรียมการทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast 9 พ.ค. 2568
- สว.สุพรรณบุรี เรียกร้องรัฐบาลรีบทำ 2 เรื่อง ก่อนประเทศไทย จะย่ำแย่ไปมากกว่านี้ 9 พ.ค. 2568
- "พระครูศรีธรรมวิบูล" ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพบูรณะปิดทองพระประธานวัดหนองหลัก 9 พ.ค. 2568
- อุตุฯ เตือนพายุฤดูร้อนถล่ม 9–12 พ.ค. ทั้งฝน-ลมแรง-ลูกเห็บ 49 จังหวัดเตรียมรับมือ 9 พ.ค. 2568
ข่าวในหมวดภูมิภาค
![]()
เตือนภัย! อ้างเป็นสื่อดังตระเวนขอบริจาคหมื่นแลกเหรียญที่ระลึก 21:14 น.
- “พิชัย” ลุยร้อยเอ็ด ติดตามโครงการพักหนี้ระยะ 2 หนุนเกษตรกรฟื้นฟูอาชีพ 21:04 น.
- บึ้มสนั่น! ถังเคมี 200 ลิตรระเบิด เจ้าของโรงสีอาการโคม่า 20:57 น.
- รองผู้ว่าประจวบฯ ร่วมพิธีเทศน์มหาชาติ พระเวสสันดรชาดก เฉลิมพระเกียรติกรมสมเด็จพระเทพฯ 20:20 น.
- สุดคุ้ม! ร้านนักเรียนลานสักใจป้ำ ปักชื่อ-ตราโรงเรียนฟรีไม่คิดเงินเพิ่ม 20:08 น.